บทที่ 3 คนหน้าด้าน
“อุ้ย... พี่หมื่นอ่ะ น้องตกใจหมดเลยค่ะ” สาวน้อยกล่าวพร้อมหันหน้ามายิ้มน้อย ๆ ให้พี่ชาย
“ดูแต่งตัวเข้า ไม่กลัวพวกคนงานลากไปข่มขืนหรือไง ถ้าเรายังเล็กพี่จะจับตีก้นให้หนัก ๆ เลย”
“ขอโทษค่ะ อย่าโกรธเลยนะคะหนูผิดไปแล้ว ก็เจ้า...”
“เจ้าอะไร บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ยัยกวาง”
“เจ้าริบบี้น่ะสิคะกระโดดหายไปข้างทาง กวางเสียเวลาหาตั้งนานแต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ” สาวน้อยกล่าวอย่างหน้าเศร้า
“แล้วนี่ปากเราไปโดนอะไรมาบวมเจ่อเชียว”
“เออ... มันมืดค่ะ ตอนที่กำลังตามหาริบบี้ชนเข้ากับต้นไม้ปากก็เลยเป็นแบบนี้ค่ะ หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” สาวน้อยรีบหาทางหนีพี่ชายเพราะไม่อยากตอบคำถามอีก
“เดี่ยวก่อนยัยกวาง ไวชะมัดหายไปซะละ เฮ่อ...”
ภายในห้องนอนของสาวน้อย อรปรียาหรือกวางถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อหนีพี่ชายขึ้นมาถึงบนห้องได้
“เพราะแกคนเดียวเลยนายหน้าโจร ยี๋...รีบไปอาบน้ำแปรงฟันดีกว่า ไม่รู้น้ำลายคนเถื่อนแบบนั้นจะมีเชื้อโรคหรือเปล่า”
สาวน้อยรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำขัดเนื้อขัดตัวทุกส่วนด้วยความรังเกียจในสัมผัสนั้น ถึงแม้ชายหนุ่มคนนั้นรูปร่างจะดีกลิ่นตัวหอมสะอาด แต่หน้าโจรไว้หนวดไว้เครา จนมองไม่เห็นความหล่อตรงไหนสักนิด แต่น่ากลัวมากกว่า
“อย่าให้เจออีกนะคนหื่น จะแจ้งตำรวจไปจับขังคุกให้ลืมโลกภายนอกไปเลย” สาวน้อยกล่าวออกมาอย่างนึกโกรธแค้น
“ฉันเกลียดแกมากที่สุดเลยไอ้คนบ้า ไอ้โจรป่า”
สาวน้อยได้แต่กระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโหอยู่บนห้องนอน ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมสาวน้อยเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 แล้ว
เหลืออีกเพียงแค่ไม่กี่เดือนเธอก็จะจบมหาลัยสักที อรปรียาใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ เสียเป็นส่วนใหญ่
เมื่อก่อนเธอจะมาที่ไร่เพียงแค่วันสองวันเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอกำลังเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะที่นี่
เธอไม่คิดว่าแฟนหนุ่มของเพื่อนรักจะมาสารภาพบอกรักเธอ โดยไม่มีความรู้สึกผิดใด ๆ ต่อเพื่อนรักของเธอเลยสักนิด เธอยังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างติดตา
“น้องกวางพี่มีธุระอยากจะคุยกับน้องกวางสักครู่ได้ไหมครับ”
ชัชชัยเป็นลูกชายของนักธุรกิจ เรียนจบปริญญาโทมาจากเมืองนอก เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยได้เพียงแค่ครึ่งปี และเป็นแฟนหนุ่มที่คบหามานานกับเพื่อนรักของเธอ
“พี่ชัชชัย มีอะไรอยากจะพูดกับกวางหรือคะ แล้วนี่ยัยหวานหายไปไหนแล้วล่ะคะ”
“พอดี หวานเขามีธุระน่ะ แต่อย่าไปพูดถึงหวานเลยนะ เพราะพี่อยากคุยกับน้องกวางมากกว่า พี่อยากพูดในสถานที่เป็นความส่วนตัวสักหน่อย”
ดวงตาคมกริบที่มาองเธอเต็มไปด้วยความหมายพยายามจะสื่อมาให้กับเธอ
“มีอะไรเราก็คุยกันตรงนี้ก็ได้นี่คะ ไม่เห็นต้องไปที่อื่นเลยอีกอย่างวันนี้กวางมีธุระต้องไปที่อื่นด้วยนะคะ กวางคงไม่มีเวลาจะมาคุยกับพี่ชัช-ชัยมากสักเท่าไหร่หรอกค่ะ”
ฝ่ามือหนาของชัชชัยเอื้อมมาดึงฝ่ามือบางของอรปรียามาจับกุมไว้ ลูบไล้เบา ๆ พยายามที่จะจ้องมองสบตากับเธอ
สาวน้อยถึงกับตกใจอึ้ง ไม่คิดว่าชัชชัยแฟนหนุ่มของเพื่อนรักของเธอจะกล้าทำถึงขนาดนี้
“ปล่อยมือของกวางนะคะ นี่พี่ชัชชัยจะทำอะไรคะเนี่ย”
“น้องกวาง พี่อยากจะสารภาพกับน้องกวางว่าพี่แอบรักน้องกวางมานานแล้ว ตั้งแต่ได้เจอหน้าน้องกวางครั้งแรกด้วยซ้ำ”
“ปล่อยมือของกวางค่ะ กวางไม่ได้รักพี่ และก็อย่ามาทำแบบนี้อีกนะคะ ยัยหวานเป็นแฟนของพี่ กวางไม่อยากมีปัญหากับหวาน ต่อให้หวานไม่ใช่แฟนของพี่ กวางก็คงรับรักพี่ไม่ได้หรอกค่ะ”
“อย่าบอกนะครับ ที่รับรักพี่ไม่ได้ เพราะน้องกวางมีคนที่ชอบอยู่แล้ว มันเป็นใคร บอกพี่ได้มั้ย”
“ใช่ค่ะ กวางมีคนที่กวางรักกวางชอบแล้ว จะเป็นใครก็ไม่ใช่เรื่องของพี่ ขอตัวก่อนนะคะ ต่อไป ถ้าเป็นไปได้ ก็ขอให้เราสองคนไม่ต้องพบเจอกันอีกนะคะ ต่อให้พบเจอก็ช่วยรู้ขอบเขตของตัวเองด้วยนะคะพี่ชัชชัย ขอตัวค่ะ”
น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของอรปรียา ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธเคืองเลยสักนิด แต่เขากลับรู้สึกโกรธผู้ชายที่อรปรียาบอกว่ามีใจให้มากกว่าบอกว่า
นับตั้งแต่วันนั้น อรปรียาก็มองหน้าของน้ำหวานได้อย่างไม่เต็มตาสักเท่าไหร่นัก เธอไม่รู้ว่าเพื่อนรักจะรู้ถึงความคิดของแฟนหนุ่มหรือเปล่า น้ำหวานรักชัชชัยมาก จนเธอเองก็ไม่คิดว่าชัชชัยจะกล้าทรยศถึงขนาดนี้
ตอนเริ่มปิดเทอมเธอยังอยู่ที่กรุงเทพฯ น้ำหวานต้องคอยมาหาเธออยู่เสมอ และคงไม่พ้นที่เธอจะได้เจอกับชัชชัยด้วย
อรปรียาจึงตัดสินใจที่จะมาอยู่ที่ไร่ของพี่ชายตลอดช่วงปิดเทอม
“วันนี้จะไปไหนเหรอแม่ตัวดี”
หมื่นตะวันที่กำลังจะออกไปจากบ้าน เพื่อเตรียมตัวเข้าไปในไร่ ต้องหันกลับมาถามน้องสาว เมื่อเห็นอรปรียาดูสีหน้าไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่นัก
