บทที่ 4
“เอ่อ...พี่อ้อยค่ะ ฉัตรเองนะคะ”
“ฉัตรไหนจ๊ะ” อาภากำลังคิดทบทวน เพราะวันๆ เธอเจอคนนั้น คนนี้หลายต่อหลายคน บางทีก็จำไม่ได้
“ฉัตรคนที่เจอในห้างวันนี้ แล้วพี่อ้อยให้พูดฮะ กับ ครับน่ะค่ะ”
“อ๋อๆ พี่จำได้แล้ว ว่ายังไงคะน้องฉัตร สนใจมาแคสนักแสดงกับพี่แล้วใช่ไหม” คำพูดของณฉัตรทำให้อาภาถึงบางอ้อ ใบหน้าของณฉัตรลอยเข้ามาในความคิดทันที ถ้าจับแต่งผม แต่งตัวเสียใหม่ เพิ่มลุคทอมให้เต็มกว่านี้ รับรองเกิดแน่
“ค่ะ...แต่ฉัตรไม่มีความรู้เรื่องนี้ กลัวจะทำให้พี่เสียเวลาเปล่าๆ”
“ไม่เสียเวลาหรอก เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉัตรมาหาพี่ที่บริษัทนะ แผนที่ดูหลังนามบัตรพี่ มาไม่ถูกก็โทรมาถามทางแล้วกัน”
“ค่ะ”
“โอเค...งั้นพรุ่งนี้เจอกันสิบโมงนะจ๊ะ” อาภายิ้มที่นัดหมายกับณฉัตรได้ เพราะเธอเห็นแววจริงๆ ถึงได้ชวนมาแคส
“ค่ะ” ณฉัตรรับปาก เธอไม่คิดจะเป็นนักแสดง แต่ความคิดเรื่องประชดชีวิตทำให้เธอตัดสินใจแบบนี้ ในเมื่อแม่และพี่สาวหาว่าเธอเป็น ทอมดีนัก เธอก็จะเป็นให้มันรู้แล้วรู้รอด ไปแคสบทนักแสดงทอมบอยสักครั้งจะเป็นไรไป ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ถ้าได้ขึ้นมาก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่น่าสนใจ และอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้ลองทำ นั่นคือเป็นงานที่ตรงกับสาขาวิชาที่เธอร่ำเรียนอยู่ในขณะนี้ เพราะเธอเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์สาขาการแสดง
ณฉัตรออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ หญิงสาวแต่งตัวเหมือนปรกติที่แต่งทุกวัน ติดลุคทอมหน่อยๆ ด้วยเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์เพราะคล่องตัวไปไหนมาไหนสะดวก ก่อนจะตรงไปยังบริษัทโมเดลลิ่งที่นัดหมายกับอาภาไว้ เมื่อมาถึงก็พบเจอกับสายตาของใครต่อใครหลายคนที่จับจ้องมายังเธอ พร้อมกับท่าทางซุบซิบแปลกๆ ณฉัตรออกอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด รอครู่หนึ่งอาภาก็ออกมาพบ
“มาแล้วเหรอจ๊ะฉัตร”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ ไปๆ เข้าห้องแคสติ้งเลย”
“เข้าเลยเหรอคะ” สีหน้าของณฉัตรดูตื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
“ใช่สิจ๊ะ ไม่ต้องตื่นเต้น ทำตัวตามสบาย เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว”
“จะพยายามค่ะ” ณฉัตรยิ้มแห้งๆ ให้อาภา ก่อนจะเดินตามไปยังห้องแคสติ้ง ที่มีกล้อง มีไฟมากมายส่องไปตรงกลาง อาภาส่งบทสนทนาสั้นๆ ให้ณฉัตรมาอ่าน
“อ่านแล้วทำความใจตัวละครนะ ว่าเขาคิดหรือรู้สึกยังไง ถ้าพร้อมแล้วบอกพี่ เอาแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ฉัตรคิดว่าตัวละครสื่อถึงอะไรก็แสดงออกมาแบบนั้น” เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะอาภากำลังจะให้ณฉัตรแสดงความเป็นตัวตนของเธอออกมา
“ค่ะ” เสียงใสๆ เอ่ยรับปาก ก่อนจะก้มมองเอกสารที่อยู่ในมือ แค่อ่านกับตีความหมายคงไม่น่ามีปัญหา แต่ที่ทำให้เธอตื่นเต้นจนเหงื่อซึมเต็มตัวคงหนีไม่พ้นกล้องกับสายตาของทุกคนที่อยู่ในห้องมากกว่า ณฉัตร ตั้งสติอ่านบทที่อาภาให้มา เป็นบทบอกรักที่ต้องถ่ายทอดอารมณ์ให้ผู้รับเข้าใจถึงความจริงใจ จริงจัง เพราะตัวเอกของเรื่องเป็นทอมที่ต้องบอกรักผู้หญิงที่เกลียดทอม แค่โจทย์ณฉัตรก็ปวดหัวตึ้บ
“พร้อมไหมฉัตร”
“ขอเวลาอีกห้านาทีนะคะ”
“โอเคจ้ะ” อาภาตอบกลับไป ก่อนที่ผู้ช่วยจะเอ่ยขึ้น
“จะไหวแน่เหรอพี่อ้อย”
“ไม่ลองแล้วจะรู้ไหม ไหวไม่ไหวก็ต้องลอง” แม้จะพูดออกไปแบบนี้ แต่ในใจก็ยังหวั่นๆ
“พูดแบบนี้พี่เองก็ห้าสิบห้าสิบใช่ไหม”
“ใช่” คำตอบรับของอาภาทำให้บรรยากาศดูเงียบลงไปทันที เพราะกลัวงานนี้จะล่มไม่เป็นท่า
“เดี๋ยวก็ถูกทางนู้นตีกลับมาอีกหรอก ส่งไปกี่คน กี่คน ไม่เห็นพอใจสักที หาไปเสนอจนทอมจะหมดประเทศอยู่แล้ว”
“อย่าบ่นถ้าแกอยากได้เงิน”
“ค่ะเจ้” ผู้ช่วยรีบรับคำเสียงอ่อยลงในทันที ก่อนจะเหลือบไปมอง ณฉัตรที่ตอนนี้ยืนหลบมุมทำความเข้าใจกับบทอยู่ พอเห็นผู้ช่วยมอง อาภาเองก็มองด้วยเช่นกัน
“แต่คนนี้พี่คิดว่ามีแวว เธอดูสิ ทอมอะไรหน้าหล่อ มีเสน่ห์ไม่แพ้ผู้ชายเลย พี่ยังหลง” อาภาเคลิ้ม ถ้าเธอมีรสนิยมชอบทอมล่ะก็ ณฉัตรไม่รอดมือไปได้แน่
“ลุคน้องฉัตรน่ะให้ แต่คำพูดคำจายังเป็นผู้หญิงอยู่มากนะคะ”
“เรื่องแบบนี้มันปรับแก้กันได้ เอาเป็นว่าให้ฉัตรผ่านได้บทหนังก่อนเถอะ ค่อยมาคิด มาปรับลุคให้เป็นซุปตาร์”
“ค่ะๆ” ผู้ช่วยสาวเอ่บรับ เพราะเธอเองก็เห็นแววความโด่งดังจาก ณฉัตรเช่นกัน ส่วนคนที่กำลังตกอยู่ในความหวังของใครหลายๆ คน ซึ่งทำความเข้าใจกับบทที่ได้รับในแบบฉบับของเธอเองแล้ว ก็เอ่ยขึ้น
“ฉัตรพร้อมแล้วค่ะ”
“พร้อมแล้วก็มายืนหน้ากล้องเลยจ้ะ” อาภาเอ่ยรับขึ้น ณฉัตรสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะเดินไปยืนหน้ากล้อง แสงไฟส่องมายังเธอ หญิงสาวพยายามตั้งสติ ผ่อนคลายความกดดันและความตื่นเต้นให้น้อยลง ก่อนจะเริ่มทำการแสดงเพื่อตีความเข้าใจฉากบอกรัก การแสดงของเธอทำให้หลายคนอึ้ง ณฉัตรต่างจากที่คิดและมีมุมมองไม่เหมือนใคร ทุกคนจะบอกรักตรงๆ ทำซึ้งร้องไห้ แต่หญิงสาวกลับบอกรักด้วยรอยยิ้มที่พร้อมจะเจ็บปวดหากอีกฝ่ายไม่รับรัก แม้จะเป็นชายในร่างหญิงแต่ก็ยังคงเข้มแข็งและยอมรับความจริงได้ไม่แพ้ผู้ชาย เมื่อเธอแสดงจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้น
“ทำได้ดีมากฉัตร พี่ชอบ”
“ขอบคุณค่ะ” ณฉัตรโล่งอกที่ได้ยินแบบนี้ ก่อนจะเดินไปนั่งพักอีกมุม เพราะรู้สึกเสียพลังไปมากอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันว่า ฉันได้ซุปตาร์คนใหม่มาประดับวงการมายาแล้ว” อาภายิ้มกว้าง ในที่สุดเธอก็พบคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่ โอ๊ย...คิดแล้วมีความสุข
“เห็นด้วยอย่างมากค่ะพี่อ้อย ช้างเผือกชัดๆ ไม่คิดว่าจะทำได้ดีถึงขนาดนี้”
“พรุ่งนี้นัดฉัตรมาแต่งหน้าทำผมที่บริษัทแต่เช้า บ่ายเราจะเข้าไปที่ค่ายภาพยนตร์หนึ่งห้าเก้าฟิล์ม เพื่อแคสบทกัน”
“ค่ะ” ผู้ช่วยสาวเอ่ยรับ ก่อนจะรีบจัดแจงนัดหมายกับณฉัตรทันที เล่นเอาณฉัตรงงที่ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด สรุปเธอผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่มีใครบอกอะไรให้รู้เลย
ส่วนอาภานั้นเข้าไปเตรียมสัญญาเพื่อให้ว่าที่นักแสดงหน้าใหม่เซ็น เพราะไม่อยากให้ใครมาคว้าตัวณฉัตรไปเสียก่อน จังหวะที่ขะมักเขม้นกับการทำสัญญาก็ไม่ได้สังเกตว่าประตูห้องทำงานเปิดออก พร้อมกับการมาของใครบางคน
“อะ...แฮ่ม ยุ่งอยู่หรือจ๊ะ”
“สายหยุด มาได้ยังไง”
