บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอมีนัดคุยงานกับลูกค้ารายสำคัญเรื่องต่อสัญญานักแสดงในสังกัดของเธอเอง รวมถึงการหานักแสดงหน้าใหม่ป้อนให้ทางค่ายเพื่อรับบทเด่นสำหรับโปรเจคหนังแห่งปี ออร่าของ ณฉัตรแผ่ออกมากว่าทุกคน ทำให้อาภาต้องเข้าไปแนะนำตัว ถ้าวันนี้เธอไม่ติดงานละก็จะลากณฉัตรไปให้ทางบริษัทผลิต ภาพยนตร์ดูตัวเลยเชียว

แต่พอกลับมาถึงบ้าน ณฉัตรกลับลืมเรื่องของอาภาไปเสียสนิท หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ บ้านที่เธอจะต้องกลับมาทุกวันในตอนนี้กลับเป็นสถานที่ที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมากที่สุด เมื่อก่อนเธอกับแม่และพี่สาวอยู่บ้านหลังเล็กๆ เป็นห้องแถวในตลาด แต่พอมีเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของพี่สาวที่เป็นเหมือนเสาหลักของบ้านตั้งแต่พ่อเสียชีวิต จึงขยับขยายออกมาซื้อบ้านเดี่ยว พี่สาวเธอซื้อรถคันโก้ขับ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมาก ส่วนณฉัตรก็ยังไปไหนมาไหนด้วยรถเมล์รถตู้หรือไม่ก็แท็กซี่

“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ แม่สาวทอมบอย แสนห้าว ขาลุย” เพียงฤดี เอ่ยทักน้องสาวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เธอพึ่งมาถึงบ้านเมื่อครู่เช่นกัน

“กลับมาแล้วค่ะ”

“ออกไปข้างนอกทั้งวัน ไปทำอะไรไม่ทราบ หรือนัดเดทกับสาวๆ ไว้ยะ”

“ไปหาเพื่อนค่ะ” ณฉัตรพยายามไม่เก็บคำพูดของพี่สาวมาใส่ใจมาก แต่เจอแบบนี้บ่อยเข้า เส้นความอดทนของเธอก็ค่อยๆ บางลงเหมือนกัน

“ผู้หญิงอีกล่ะสิ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงสมัยนี้คิดอะไรถึงมาคบกับผู้หญิงด้วยกัน เอามันส์กว่าหรือก็ไม่ใช่ เรื่องบนเตียงทอมหรือจะสู้ผู้ชาย” คำพูดที่ได้ยิน ช่างขัดแย้งกับใบหน้าสวยๆ ของเพียงฤดี เพราะเธอเป็นถึงพริตตี้ลำดับต้นๆ ของวงการ แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความสวยก็มีความไม่น่าเชื่อซุกซ่อนอยู่หลายอย่าง

“ฉัตรออกไปหาเพื่อน ไม่ได้ไปทำอะไรอย่างที่พี่ฤดีว่า อีกอย่างไม่มีใครคิดอกุศล คิดแค่เรื่องใต้สะดือแบบนี้มั้งค่ะ”

“นี่ยายฉัตร แกกล้าว่าฉันอย่างนั้นเหรอ” เพียงฤดีตะคอกน้องสาวกลับ ทำท่าจะเงื้อมือขึ้นตบเสียด้วยซ้ำ แต่ได้ยินเสียงผู้เป็นแม่เสียก่อน

“เอะอะอะไรกัน เสียงดังลั่นบ้าน”

“ก็ยายฉัตรน่ะสิคะแม่ ว่าฤดีว่าคิดอกุศล คิดแต่เรื่องต่ำๆ”

“ตายจริง ทำไมแกถึงพูดแบบนั้นกับพี่ได้ หาฉัตร ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้” แก้วตาคนกลางที่น่าจะเป็นกลางมากที่สุดเอ่ยขึ้น เพราะเธอนั้นรักเพียงฤดีมากกว่าณฉัตรมากนัก รักเพราะเพียงฤดีให้เงินเธอใช้ไม่ได้ขาด ไปไหนมาไหนก็มีคนนับหน้าถือตา เพราะลูกสาวคนโตสวยและฉลาด ผิดกับณฉัตรที่ทำให้เธอปวดหัวไม่เว้นวัน โดยเฉพาะเรื่องแต่งเนื้อ แต่งตัวที่เหมือนผู้ชายไม่มีผิด

“ฉัตรไม่ได้พูดอะไรผิด ทำไมต้องขอโทษด้วย”

“แต่ฉันสั่ง ขอโทษพี่เขาซะ ไม่งั้นก็ไม่ต้องอยู่บ้านนี้ จะไปอยู่ที่ไหนก็ไป ฉันจะคิดว่าไม่เคยมีลูกผิดเพศแบบแก” คำพูดของแม่ทำให้ณฉัตรสะอึก เธอรู้ว่าแม่รักพี่สาวมากว่า แต่คำพูดของแม่บางครั้งก็ทำร้ายเธออย่างแสนสาหัส

“แม่คะ”

“ขอโทษพี่เดี๋ยวนี้ยายฉัตร”

“ขอโทษค่ะ” ณฉัตรเอ่ยขอโทษตามที่แม่ต้องการ แต่ดูเหมือนเพียงฤดียังไม่อยากให้เรื่องนี้จบง่ายๆ ยิ่งเห็นว่าแม่เข้าข้างก็ยิ่งได้ใจ

“ไหว้ฉันด้วย”

“เร็วๆ เข้า พี่เขาสั่งอะไรแกก็ต้องทำตาม อย่าลืมว่าทุกวันนี้พี่เขาหาเงินเลี้ยงแกอยู่” เพื่อตัดปัญหาที่ไม่รู้วันจบสิ้น ณฉัตรจึงยกมือไหว้พร้อมเอ่ยขอโทษเพียงฤดี เธอสำนึกบุญคุณที่พี่สาวหาเงินส่งเสียเธอเรียนเสมอ

“ขอโทษค่ะ”

“ก็แค่นี้” เพียงฤดีเชิดหน้าขึ้นสูงราวกับเธอนั้นคือผู้ชนะ

“ไม่มีอะไรแล้ว แกจะไปไหนก็ไป เบื่อขี้หน้า เป็นผู้หญิงดีๆ ไม่ชอบ คิดพิเรนทร์จะเป็นทอม ดูสิผมเผ้าก็สั้น แต่งเนื้อแต่งตัวก็เหมือนผู้ชายเข้าไปทุกวัน รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น ฉันน่าจะมีพี่สาวแกแค่คนเดียวจริงๆ ไม่น่าเบ่งแกออกมาเลย” ขณะที่แก้วตาพูดกระทบความรู้สึกของณฉัตรอยู่นั้น หญิงสาวก็เดินเลี่ยงออกไป หนึ่งเหตุผลที่เธอทำตัวเหมือนทอมทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นก็เพื่อต้องการที่จะประชดแม่และพี่สาว ที่ชอบพูดว่าเธอเหมือนผู้ชาย ไหนๆ ก็พูดชี้ทางให้แบบนี้ ณฉัตรจึงทำตามที่ทั้งสองคนต้องการ ที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินคำพูดทำนองนี้ ทั้งสองคนพูดใส่หูณฉัตรทุกวัน ทั้งๆ ที่ณฉัตรไม่ใช่ทอม เธอยังชอบผู้ชายแต่พูดไปก็ไร้ประโยชน์จึงพยายามทำใจให้เพิกเฉยเข้าไว้

“แม่...หยุดบ่น ฤดีแสบหู”

“โอ๋ๆ แม่ขอโทษค่ะลูก แม่จะไม่บ่นนะคะ” แก้วตายกมือขึ้นสัมผัสใบหูทั้งสองข้างของเพียงฤดีเบาๆ ลูกคนนี้เธอจะไม่ทำอะไรให้ขัดใจเป็นอันขาด เพราะถ้าไม่มีเพียงฤดีใครจะหาเงินให้เธอใช้ ให้หวังที่ณฉัตรน่ะเหรอ อย่าได้คิด

“ฤดีอยากกินน้ำส้มคั้น แม่ทำให้ฤดีหน่อยนะคะ”

“ได้สิลูก ฤดีของแม่อยากกิน อยากทำอะไร แม่ตามใจอยู่แล้ว กลับมาบ้านเหนื่อยๆ ไปพักซะไป เดี๋ยวแม่เอาน้ำส้มคั้นเย็นๆ ไปให้ที่ห้อง”

“ค่ะ” เพียงฤดีเอ่ยรับ ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป ส่วนแก้วตานั้นก็รีบจัดแจงทำน้ำส้มคั้นให้ลูกสาวคนโปรดทันที

ณฉัตรเองก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องตั้งแต่กลับมาถึง เธอเจ็บชนรู้สึกชาชินกับสิ่งที่ต้องพบเจอ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ความเจ็บนี้ก็ทำให้เธออ่อนแอไปมาก หญิงสาวนั่งมองตัวเองอยู่หน้ากระจก มองผม มองหน้าตาของตัวเอง ก่อนจะยิ้มเหยียดออกมา คนที่คอยปลอบยามที่เธอเศร้า คงมีเพียงแค่น้าสาวคนเดียวเท่านั้น ก่อนจะหยิบนามบัตรของโมเดลลิ่งที่เจอกันวันนี้ขึ้นมาดู ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในสมอง ณฉัตรหยิบโทรศัพท์มาถือไว้ ลังเลระหว่างโทรหรือไม่โทร สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรออกตามเบอร์ในนามบัตร

“สวัสดีค่ะ อ้อยรับสายค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel