3. สูญเสีย
*** ทักทายคร้า ไปต่อกันเลยจ้า ***
ร่างโปร่งระหงของชีดาสวมชุดนอนตัวใหญ่เดินหาวหวอดออกมาจากห้องนอน ตรงไปยังตู้เย็นที่อยู่ในห้องครัวเล็ก คิ้วโก่งสวยดุจคันศรขมวดเป็นโบ เมื่อได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่หน้าประตูบ้าน หล่อนปรือตาหันไปมองนาฬิกาบอกเวลาตีสาม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบปืนเล็กที่พี่ชายให้ไว้ป้องกันตัวแล้วเดินตรงไปที่ประตู
“ใคร” หล่อนถามเสียงเข้ม เล็งปืนไปยังบานประตูใหญ่
“พี่...เอง...ซีส” เสียงคนข้างนอกแหบพร่า ขาดหายเป็นช่วงๆ
ชีดาได้ยินไม่ถนัดจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แนบใบหูเล็กกับประตูและถามขึ้นอีกครั้ง
“ใคร”
“พี่ลัมพ์...เองซีส”
พอได้ยินเสียงชัดขึ้น มือบางก็เปิดประตูออกอย่างร้อนใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นสภาพของพี่ชาย
“พี่ลัมพ์” ชีดารีบเข้าไปประคองร่างสูงเพรียวไปนั่งที่โซฟา แต่ร่างของประลัมพ์ก็ล้มลงไปกองกับพื้น ทำให้แผ่นซีดีที่กำอยู่ในมือกระเด็นหายเข้าไปใต้ตู้โชว์เล็กที่ตั้งอยู่ติดหน้าต่าง ชายหนุ่มพยายามตะเกียกตะกายเข้าไปหยิบออกมา แต่ชีดาไม่ทันสังเกต จึงประคองร่างพี่ชายลุกขึ้นนั่ง
“แผ่น...ซี...ดี” เสียงเบาหวิวขาดหายเป็นช่วงๆ แต่หญิงสาวก็ไม่ใส่ใจมากไปกว่าความเป็นความตายของพี่ชายคนโต ชีดากอดร่างโชกเลือดน้ำตาไหลอาบแก้ม มือบางเช็ดเหงื่อเม็ดโตบนใบหน้าคมที่ผุดออกมา ประลัมพ์ปรือตามองหญิงสาว
“พี่ลัมพ์ ใครทำอะไรพี่คะ” ชีดาประคองศีรษะพี่ชายวางบนตัก น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “ซีสจะพาพี่ไปหาหมอนะคะ พี่ทนเจ็บอีกนิดเดียวนะ” หญิงสาวบอกเสียงสั่น พยายามพยุงร่างพี่ชายลุกขึ้น แต่ก็ทรุดลงไปอีก
ประลัมพ์ยกมือห้าม ตาพร่าลาย ทุกอย่างรอบๆ ตัวเบลอไปหมด
“ไม่มีประโยชน์หรอกซีส...โทรหา...ริส” ประลัมพ์บอกน้องสาวอย่างอ่อนแรง สูดลมหายใจยาวๆ เหมือนจะขอต่อเวลาอีกสักนิด มือบางหยิบโทรศัพท์กดเบอร์พี่ชายคนรองมือไม้สั่น ชีดารออยู่ไม่นาน เสียงคนปลายสายก็ตอบกลับมา
“ว่าไงซีส”
“พี่ริส...ฮือๆ ช่วยพี่ลัมพ์ด้วย ฮือ” เพียงเท่านั้นสัญญาณก็ตัดไป แต่ชีดาเชื่อว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพี่ชายอีกคนของเธอจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน
“ขอ...กระดาษ” ประลัมพ์บอกน้องสาวเสียงเบาหวิว ก่อนจะไอออกมาเป็นเลือดสีแดงสด
ชีดาตกใจกอดพี่ชายแน่น จนกระทั่งเสียงพร่าสั่งอีกครั้ง
“กระดาษ” เขากัดฟันเพื่อระงับความเจ็บไว้เต็มที่ เลือดสดๆ ไหลออกมาจากแผลที่หน้าท้องและหัวไหล่หนา มือบางคว้าแผ่นกระดาษที่วางอยู่ใต้โต๊ะเล็กหน้าโซฟาส่งให้
ประลัมพ์ใช้นิ้วแทนปากกา แตะลงบนกองเลือดที่หยดอยู่บนพื้นห้อง เขียนวงกลมลงในกระดาษ ด้านบนขีดเป็นเส้นตรง มีสัญลักษณ์ไฟไหม้ที่ปลายเส้น ชีดามองสัญลักษณ์อักษรภาษาอังกฤษตัวเอสและซีที่อยู่ในกระดาษ แล้วมองไปยังอักษรตัวบีใส่มงกุฎและเครื่องหมายบางอย่างที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ ประลัมพ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ส่งกระดาษให้น้องสาว
“ให้บอส...เฮนรี่ พร้อม...แผ่นซีดี” เขาสั่งแล้วร่างสูงก็กระตุกเลือดไหลออกมาจากปาก
“พี่ลัมพ์...ฮือๆ ๆ...พี่ลัมพ์ทนอีกนิดนะ เดี๋ยวพี่ริสก็มา”
ประลัมพ์ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก พยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ มองหน้าน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย ร่างสูงเกร็งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอดหน้าประตู จากนั้นร่างสูงเพรียวไม่ต่างจากพี่ชายของวีริสก็เปิดประตูลงมา
“ลัมพ์” วีริสมองร่างพี่ชายอย่างตกใจแล้วพุ่งพรวดเข้าไปประคอง ชายหนุ่มกำมือเปื้อนเลือดบีบแรงๆ ใบหน้าสี่เหลี่ยมขาวสะอาดเคร่งเครียด “ฝีมือใคร”
ประลัมพ์ไม่ตอบ แต่ปรือตามองเลยไปยังร่างสูงสง่าที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตู
เฮนรี่ขยับเข้ามาใกล้แล้วนั่งลงบนส้นเท้า ดวงตาคมเข้มมองลูกน้องคนสนิทด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ศัตรูของสตาร์เลส...คือไบโอเนียร์ พวกมัน...มีแผน...จะโค่นล้มสอง...ตระกูลเพื่อเป็นใหญ่...กระดาษ...แผ่นซีดี...” เสียงคำพูดสุดท้ายแผ่วเบา พร้อมกับลมหายใจของบอดี้การ์ดคนสนิทของเจ้าพ่อแห่งลาสเวกัสหมดลง
“พี่ลัมพ์/ลัมพ์” ทั้งวีริสและชีดาร้องเรียก หญิงสาวกอดร่างพี่ชายร่ำไห้อย่างเสียใจ
เฮนรี่ลุกขึ้นยืน มือใหญ่กำแน่น แววตาคมลุกวาวอย่างน่ากลัว ร่างสูงเดินไปหยิบกระดาษที่วางอยู่ข้างชีดา ตาคมมองสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่อย่างดุดัน
“พี่ลัมพ์อย่าทิ้งซีสกับพี่ริสไปแบบนี้สิคะ”
“ลัมพ์ไปสบายแล้วนะซีส” วีริสยกมืออีกข้างกอดร่างสั่นเทาของน้องสาวแน่น ในใจร้อนรุ่มไปด้วยเพลิงแค้น
เฮนรี่รู้สึกเสียใจไม่น้อยที่ต้องเสียลูกน้องฝีมือดีไป
“ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างให้ดีที่สุด” เสียงทุ้มทรงอำนาจพูดออกมาเป็นครั้งแรก
วีริสสบตาเจ้านายหนุ่มอย่างขอบคุณ แต่ใบหน้าเนียนใสหันขวับไปทางร่างสูง สายตากลมโตมีดวงไฟน้อยๆ จ้องมองเขาอย่างโกรธแค้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนสบตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“คุณใช่ไหมที่ให้พี่ชายฉันไปทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนี้” มือบางยกขึ้นผลักอกกว้างเต็มแรง แต่ร่างสูงก็ไม่ขยับเขยื้อน
เฮนรี่มองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาอย่างสงสาร
“ไม่ใช่ความผิดของบอสนะซีส” วีริสบอกน้องสาวเสียงเครียด บอดี้การ์ดหนุ่มกำลังจะพูดบางอย่างออกไป หากเสียงเข้มก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน
“ช่างเถอะริส...ยังไงเรื่องนี้ฉันก็มีส่วนผิด” เฮนรี่ตอบเสียงเรียบ สายตามองดวงไฟที่อยู่ในดวงตากลมโตคู่งาม...สักวันเธอจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดสาวน้อย...เขาคิดพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะมองร่างไร้ลมหายใจของลูกน้องด้วยแววตานิ่งลึกจนยากจะเดาใจ
*** ขอบคุณคร้ ***
