EP.13 อย่าหายไป
เพียะ!
ไมอาร์สะบัดหลังมือตบใบหน้าของอีกฝ่ายไปเต็มแรง ด้วยความรู้สึกทั้งโกรธ ทั้งเป็นห่วง สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคนเป็นแพทย์อย่างเธอ คือชีวิตของคนอื่น การเห็นคนทำอะไรโดยสิ้นคิดแบบองค์ราชินี จึงกระตุ้นต่อมโมโห จนความอดทนที่เปรียบเสมือนสายพิณขาดสะบั้นลงอย่างช่วยไม่ได้
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น เจ้าของใบหน้าแดงเป็นรอยมือกลับไม่ได้ด่าทอ หรือต่อว่าอะไร มือเรียวสวมแหวนรูปผีเสื้อทำจากเพชรพลอยราคาแพงคว้าต้นคอของคุณหมอเข้าไปหาตนเอง ก่อนจะใช้เรียวปากสีชมพูอ่อนประกบลงบริเวณกลีบปากกระจับอ่อนนุ่มของคนปากร้ายช่างด่าทอนั้น..
"อื้อ!!! ไอ่อ้า!!! อ่อยอั๊นนนนน!!!!!! "คุณหมอพยายามดิ้น และทุบตีเท่าที่ทำได้ในคราแรก ทว่าไม่นาน เธอกลับอ่อนแรงลงอย่างดื้อๆ...
"....."
ริมฝีปากอ่อนนุ่ม หอมกลิ่นผลไม้ที่เคลือบเรียวปากสวยรูปกระจับทำให้คุณหมอไปไม่เป็น ลิ้นคมๆที่ตวัดโฉบกรอบปากมาดูดดุน ทำให้คนร่างเล็กกว่าหมดเเรงลงเสียดื้อๆ...
นางไม่เคยจูบใคร....
ควีนเเอบอมยิ้ม กับความจริงที่ได้รับรู้ เมื่อคืนพระองค์เป็นฝ่ายไปจูบนางก่อนทำให้พระองค์ไม่รู้ว่าเวลาที่นางจูบกับจะไร้เดียงสาขนาดนี้
ความตกตะลึงทำให้อีกฝ่ายนั่งนิ่งเหมือนหุ่นปั้น เปิดโอกาสให้คนร่างสูงกว่าเลาะริมฝีปากไปยังซอกคอหอมกรุ่น.... ความได้ใจที่รู้ว่าอีกฝ่ายก็เป็นห่วงเป็นใยตัวเองเหมือนกันทำให้พระองค์ไม่อยากจะหยุด....
คุณหมอที่ขัดขืนในคราแรกอ่อนเเรงลงอย่างมาก เธอหลับตาพริ้มในขณะที่อีกฝ่ายลัดเลาะไปเลียที่กรอบหูจนไรขนเส้นเล็กเส้นน้อยพร้อมใจกันลุกเกรียวเหมือนต้อนรับคนรุกราน ก้อนอุ่นๆในโพรงอกด้านซ้ายดันเต้นผิดจังหวะขึ้นมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว...
"อือ"
"เจ้าไม่เคยจูบใครหรือยังไง? "
สายตาทะเล้นผสมเอ็นดู ทำให้คุณหมอได้สติ เธอสะบัดหน้าหลายที พร้อมกับทุบหัวตัวเองไปด้วย
"นี่คุณ! เอ้ย ควีน!! "
"อะไรรึ? "คนที่ขโมยจูบคนอื่นแบบหน้าด้านๆเอ่ยขึ้น คุณหมอทำอะไรไม่ถูก หลังก็เจ็บ ตะกี้ก็เคลิ้มไปได้ยังไงก็ไม่รู้ นั่นคนสั่งลงโทษเราเลยนะ....สติสิไมอาร์!
"ท่าน! "
"ข้าจูบเมียตัวเองมันผิดตรงไหนรึ--"
เค้าเอียงคอสงสัย???
"ฉันเป็นหมอไม่ใช่เมีย! "
คนตัวเล็กเถียงเสียงเกรี้ยวกราด แม่คนนี้ทำเอาพระองค์เอาใจไม่ถูกจริงๆ เมื่อกี้ยังโอนอ่อนตอนที่โดนกระทำอยู่แท้ๆ พระองค์ก็นึกว่าจะมีโมเม้นท์หวานๆ เหมือนวันนั้นอีกรอบ เเต่ตอนนี้กลับมาว้ากใส่พระองค์เสียอย่างนั้น---
นึกว่าจะได้คำพูดหวานๆจากเเม่นี่สักนิดหนึ่ง ....
มือที่เรียวยาวกว่าจับมืออีกฝ่ายไว้แน่น ก่อนที่จะยื่นหน้าไปใกล้ๆ ในระยะหายใจรดต้นคอ
"เจ้าเข้าใจอะไรผิดไปนะหมอหลวง.."
"เข้าใจผิด? เข้าใจผิดอะไร?? "
คุณหมอรีบกระเถิบไปอีกฝ่ายก็กระชากกลับมา เจอรอบนี้ใกล้ชิดกว่าเดิม ปลายจมูกโด่งของคุณหมอชนกับหน้ากาก ริมฝีปากของทั้ง 2 เกือบจะไปทาบทับกันอีกรอบ
คุณหมอรู้สึกเหมือนฟ้าจะผ่าลงกลางหัว ถามว่ารับได้ไหมชีวิตจริงก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคบผู้หญิงจริงจังขนาดนี้ ตั้งแต่แฟนเก่าฝากบาดแผลไว้ คุณหมอก็ตั้งใจว่าจะคบผู้ชายแล้ว
เเล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!!!!!!
ต่อให้นางเหลือเป็นคนสุดท้ายบนโลก ยอมแก่ตายดีกว่า!!
"ไม่เคยจูบใครหรอ"
"เออ! ภูมิใจละสิ? "คุณหมอหูแดงจัด ผลักหน้าคนเจ้าเล่ห์ออกห่างด้วยเเรงมดตะนอย
"จริงๆก็ดีใจอยู่ แล้วที่เราบอกว่าเจ้าเข้าใจผิด---เราจะบอกว่า..."
"......"
จะเว้นทำมะเขืออะไร
"ตั้งแต่เจ้าใช้คำว่านางกำนัลหลวง เจ้าเป็นเมียข้าตั้งแต่เดินผ่านประตูเข้ามาแล้ว จะแม่ครัว หมอหลวง องครักษ์หญิง ทุกคนอยู่ในสถานะเมียเข้าหมด เจ้าด้วย"
"อี๋!!! "มันไม่จริง อุตส่าห์หนีมาทำหน้าที่แท้ๆ
"มันจริง เจ้าต้องยอมรับให้ได้"
"ท่านมันน่าขยะแขยงที่สุดเลย"
"แต่เมื่อครู่เจ้าก็ไม่ได้หลบ...ดูสิตอนนี้---"องค์ราชินีจับมือของฉันไปทาบที่หน้าอกตัวเอง เหมือนอยากจะให้ฉันยอมจำนนกับสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่ หัวใจเฮงซวยดันเต้นผิดจังหวะแบบไม่ต้องถามหาสาเหตุเลยว่ามาจากใคร
พึ่บ!
ฉันดิ้นสะบัดมือออกก่อนที่เขาจะรู้อะไรไปมากกว่านี้ "ข้ายังไม่ทันตั้งตัว"
"ไม่ดีหรอ เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบเจ้า เป็นพิเศษ"
"อย่ามาเพ้อเจ้อ!"
"ข้ารู้ว่าเจ้าก็ชอบข้าเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่...."
"หุบปากแล้วหยุดพูดถึงวันนั้นเดี๋ยวนี้นะ!"
"ก็ได้...ก็ได้...."องค์ราชินียกฝ่ามือขึ้นเหนือศีรษะเหมือนเวลาผู้ร้ายโดนตำรวจจับ เขาพยักหน้าเหมือนจงใจจะกวนส้นเท้าฉันมากกว่า แล้วถอยออกไปด้วยท่าทีประมาณว่า
โอเคฉันจะไม่ยุ่งก็ได้----
"แต่เช้าอย่าลืมออกไปทานอาหารด้วยล่ะ ข้าให้นางกำนัลจัดสำรับไว้ข้างนอก...ที่นางกำนัลเจ้านำมามันคงจะจืดชืดหมดแล้ว....เจ้าคงไม่ได้กิน"พระองค์กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกไป...ทิ้งให้คนที่อยู่ห้องสงสัยว่า การแสดงออกเมื่อสักครู่เป็นเรื่องจริงหรือโกหก...
"หนาวเเฮะ...."
คุณหมอตระหนักได้ว่าวันนี้จะต้องทานอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นร่างกายจะเเย่เเน่ๆ....รอมาหลายวัน เหมือนร่างกายพร้อมจะตาย เเต่ก็ไม่ตายเเละไม่ยอมตื่นจากห้วงความฝันให้สักที..
เเสดงว่าคงมีบางอย่างให้ทำก่อนจะจากประวัติศาสตร์ตรงนี้ไป...
เช่นการช่วยคนที่นี่--มันมีเหตุผลเชื่อมโยงแปลกๆพอมาไตร่ตรองดีๆ...
ฉันหลงมาในยุคที่ไร้เเพทย์ เเละฉันเป็นเเพทย์...
บางทีหน้าที่ของฉันอาจจะรออยู่ที่นี่---
ควีนกลับไปเเล้ว..
เราคงออกไปได้เเล้วละ---
"หื้มม มีอะไรให้กินน้าาาา"
พรวด!!!
เพล้ง!!!!
"ท่านหญิง!!!"
เดซี่รีบวิ่งมาประคองศีรษะคนที่กำลังเอาผ้าห่อตัวจะเดินไปหยิบของกินเอง เพราะหล่อนทรุดหมดเเรงล้มพรวดหัวเกือบฟาดบานพับเก้าอี้
"หน้าท่านซีดไปหมดเเล้ว ทานอะไรหน่อยเถอะนะเจ้าคะ"เดซี่ ทั้งห่วงทั้งสงสาร เธอจับตัวร้อนจี๋ของเจ้านายเเล้วเเทบจะทนไม่ได้
"ข้าไหวน่า ข้ากำลังจะออกไปหาอะไรกินเเล้ว...."คุณหมอเอ่ยอย่างดื้อดึง เธอเดินกะเผลกจนเดซี่ต้องมาประคองพาเดินไปห้องอาหาร ที่ตอนนี้บรรดานางสนมรับอาหารเเล้วเดินไปหามุมทานกันหมดเเล้ว บ้างหันมามองเธอที่หลังเหวอะหวะเเต่ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วย เพราะกลัวตัวเองจะไม่เป็นที่โปรดปรานไปด้วย
"ซุปไก่...ไม่มี..ข้าวหรอ"
"วันนี้ไม่มีเจ้าค่ะนายหญิง"เดซี่กล่าว เธอโกยมาอย่างละสองชิ้นสองชุด เจ้านายจะกินอะไรบ้างเธอไม่รู้ โกยเผื่อมาไว้ก่อน หล่อนอ่อนเเรงมาก...
"น้ำส้ม อยากกินอยู่พอดีเลย"เธอเดินไปจะคว้ามันมาใส่แก้วเหมือนเด็กน้อย เเต่ร่างกายก็อ่อนเเรงเหลือเกิน จนเดซี่ต้องตามประคองตลอดทาง
"นั่งเฉยๆ ท่านนั่งมองจากตรงนี้ เเล้วข้าจะไปหยิบมาให้ "
"ได้ค่ะ"คุณหมอยิ้มแห้ง ยักไหล่ให้เหมือนจะอยากให้เชื่อว่าไหว เเต่พอลับตาเดซี่ที่กำลังหยิบของกินให้ คุณหมอก็พยายามลุกเดินตามเดซี่ เพื่อช่วยถือข้าวของที่ใช้ดูเเลเธออยู่ดี
องค์ราชินีเหลือบมองคนที่เดินงกๆเงิ่นๆกับคนรับใช้มาหยิบอาหารก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นหมอดื้อคนนั้น..สายตาสีเทาเเสดงความยุ่งยากใจที่เห็นหล่อนต้องทานอาหารจากคนรับใช้ประจำตัวที่คอยป้อนให้ เพราะหล่อนสั่นงกๆจนไม่สามารถถือช้อนเองได้....
หมับ...
"เดี๋ยวหม่อมฉันขอไปดูนางหน่อยนะเพคะ"พระสนมเอกกล่าว พลางกุมมือองค์ราชินี
"อืม..เอาสิ"ควีนอยากให้สองคนนี้สนิทกันอยู่เเล้ว เพราะยังไงก็เมียเหมือนกัน จึงเอ่ยอนุญาต พระสนมเอกเดินตรงไปหาในชุดกระโปรงยาวสีขาว ตัดเย็บจากผ้าไหมทั้งชุดจนสีของมันส่องสว่างพื้นหินอ่อนของพระราชวัง โดดเด่นเหนือคนอื่นที่เดินกรายไปกรายมาด้วยกระโปรงหลากสี..
อีฟลินเป็นเพียงผู้เดียวรองจากควีนที่จะได้ใส่สีขาว เพราะชุดของพระองค์จะเลอะเทอะเเม้เพียงนิดเดียวก็ไม่ได้ จึงนับว่าสูงค่ายจบ...สมตำแหน่ง..
พระองค์ทรงนั่งโซฟายาว ข้างนางกำนัลหลวงคนที่บาดเจ็บ จนเดซี่ต้องพยุงให้อีกฝ่ายลงมานั่งที่พื้นเเทน....
ใครจะยอมให้นางนั่งสบาย...อีฟลินยิ้มมุมปาก มองอีกฝ่ายที่เเผลเหวอะทั้งหลังเเล้วยังต้องถวายความเคารพ...
คุณหมอมองย้อนไปยังคนที่นั่งเขียนอะไรสักอย่างอยู่บนบัลลังก์ ด้วยสายตากึ่งโกรธ เธอรู้อยู่ว่า พระสนมเอกคงเดินมาหาเองไม่ได้ ถ้าไม่ถามควีนก่อน
เค้าจะให้ฉันสบายสักนาที สองนาที--ไม่ได้หรือยังไงนะ...
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เเต่เมื่อวาน...ข้าไม่ได้โกรธ"
ไม่ได้โกรธ??เเต่ยุให้โบยเกือบตาย?
อันนี้เมตตาเเล้วหรอ คุณหมอชักสีหน้า ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้ม
"ขอพระทัยเพคะ ที่ทรงเป็นห่วง"
อีฟลินผายมือเเล้วยิ้มหวาน หยิบของที่เหมือนจะเป็นยารักษามาให้
"ท่านพ่อข้าซื้อมาจากหมอฝรั่ง ท่านว่าดีมาก เจ้าลองใช้ทาหลังดู"
"ขอบคุณนะเจ้าคะ"เดซี่รับของมาเเทนนายที่ตอนนี้คงพูดไม่ไหว ร่างเล็กหายใจหอบถี่เเละเหมือนจะเหนื่อยมาก...
"พาฉันกลับห้อง"
"ท่านไม่ไหวหรือเจ้าคะ"เดซี่มองอย่างกังวล ตัวหล่อนร้อนมาก..เเละเหงื่อซึมฝ่ามือเต็มไปหมด คุณหมอลุกขึ้นยืน พยายามจะถอนสายบัว
"หม่อมฉัน..ท...ทูล....."
ปั้ก!!!
"กรี๊ด!!!!!!"
พระสนมเอกกรีดร้องออกมาอย่างตกใจจริงๆ เเม่นั้นลุกขึ้นยืนได้แปบเดียวก็ล้มหัวฟาดลงกับพื้น หล่อนไม่ได้สติ จนเดซี่รีบประคองยกเเขนหูตาเหลือก บรรดาองครักษ์ของพระองค์วิ่งไปดูเเละประคองเเขนคุณหมอ
ควีนเดินลงมาจากบัลลังก์อย่างเร่งร้อน พระองค์จับชีพจรของนางไม่เต้นอีกต่อไปเเล้ว...
"นาง...หัวใจไม่เต้น----"
ถึงกับตายเลยหรือ!!! เพิ่งคุยกันไม่นานเเท้ๆ เเล้วนี่ทำไม!!!
"มีหมอบ้างไหม!!!"
พระสนมเอกรีบร้องเรียกหมอ เธอไม่ชอบเเค่ไหนก็ตาม เเต่การที่นางมาตายต่อหน้าต่อตาเเบบนี้ ทั้งเธอเเละควีนจะเสียภาพลักษณ์ตามกันไปหมดด้วย
"มีเเต่หมอฝึกหัดพ่ะย่ะค่ะ"องครักษ์กล่าวเสียงเครียด
ควีนมือสั่น เธอจับเเขนน้อยๆที่ตอนนี้ไม่มีสัญญาณเต้นของหัวใจอีกต่อไปเเล้ว
"ไม่ต้อง ข้าเอง"
พระองค์อุ้มนางขึ้นมาจากพื้น ขาเเละเเขนทั้งสองข้างของนางทิ้งลงข้างลำตัว หน้าอกไร้เเรงกระเพื่อมจากกายหายใจติดต่อกันนานหลายนาทีจนพระองค์รู้ว่านางไม่ได้แสร้ง...
"ออกไปให้หมด ข้าจัดการเอง"
"ให้หม่อมฉันช่วยนะเพคะ"
สายตานางรอบนี้ห่วงจริง ไม่เสเเสร้ง...
"ได้ ตามมา"
"หม่อมฉันไปด้วยเพคะ....ฮ..ฮึก!!"เดซี่ยกมือไหว้ทรุดหัวลงเเทบโขกกับพื้น เธอตกใจจนเมื่อไม้สั่นอ่อนเทา อีกทั้งไม่ไว้ใจพระสนมเอกด้วย กลัวปฏิบัติต่อนายตัวเองไม่ดี จึงขอติดตามไป
"ได้...นอกนั้นคนอื่นเเยกย้ายไป"
"พ่ะย่ะค่ะ!/เพคะ!"
ทุกคนขานรับก่อนที่พระองค์จะอุ้มนางไปวางในห้อง พระสนมเอกคว้าผ้าห่อน้ำเเข็งเย็นๆมารองคอให้นาง ก่อนที่จะก้มลงไปฟังเสียงหัวใจ...
เงียบกริบ...
ตายจริงหรือ---
จิตใจส่วนดี บอกว่าให้ช่วย...เเต่อีกใจกลับบอกว่า ถ้าไม่มีนาง คนโปรดคงมีเธอเพียงคนเดียวเหมือนเดิม....
เเต่ต่อให้ไม่มีนางคนนี้ ก็คงมีคนอื่นมาอีกเรื่อยๆ...ความเจ้าชู้เเละความปรารถนาของพระองค์ไม่เคยเพียงพอที่สตรีคนใด จึงทำให้เธอตาสว่าง...
"นางไม่หายใจ"ควีนพึมพำ
"ฮึก..นายหญิง"เดซี่ร้องไห้ไม่หยุด เธอบีบเนื้อบีบตัวของคุณหมอหวังให้อีกคนหายใจ เเม้จะตื่นมาเเค่ด่ากันก็ยังดี เเต่คุณหมอกลับไม่ตอบสนอง....
"มันไม่มงคล จะร้องไห้ทำไม!"ควีนดุ พระองค์พยายามนวดหัวใจนางหลายที เเต่นางก็เอาเเต่นอนเป็นผัก...ไม่ยอมลุกมาตอบสนอง
กล้ามเนื้อในอกบีบรัดเเน่น ควีนรู้สึกเจ็บ เเละจุกในอกเหมือนน้ำตาจะไหลยังไงก็ไม่รู้ได้....
พระองค์พยายามนวดหัวใจนางอีกหลายที พระสนมพยายามเอาถุงห่อน้ำเเข็งรองเท้ายางครบทุกด้านรวมทั้งเเขนเพื่อกระตุ้นเส้นประสาทให้ทำงาน..
เเต่นางก็ไม่กระดิกเเม้เเต่น้อย...
......
ควีนประกบปาก พ่นลมหายใจใส่ตัวของนางเพื่อทำการผายปอดเเบบที่แพทย์ฝรั่งเคยสอนมา พระสนมเอกมองภาพที่พระองค์พยายามทำทุกอย่างเพื่อยื้อชีวิตนางอย่างสะท้อนใจ...จินตนาการว่าหากตัวเองเป็นคนที่นอนตรงนั้น...พระองค์จะปล่อยให้ตาย...หรือจะช่วยเธอกันเเน่นะ...
คนหนึ่งเจ็บเพราะอีกคน เเต่อีกคนก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกคนหายไปตลอดกาล....
คุณหมอได้หายไปเเล้วจริงๆ....
"นายหญิงจะฟื้นไหมเจ้าคะ..."
สายตารอคอยของนางกำนัลรับใช้ ทำให้พระองค์ต้องเบือนหน้าหนี ก่อนที่จะถอนหายใจเเล้วส่ายหน้า
"ไม่...ถึงมีก็...น้อยมาก"
"พระองค์"
"ว่าเช่นไรอีฟ"องค์ราชินีเอ่ยเสียงราบเรียบ พยายามทำตัวเป็นปกติ
ถ้าพระองค์เเสดงออกว่าห่วงมากไป สองคนนี้จะฆ่ากันเอง...
"จับนางใส่โลงแก้วของพระองค์ เเล้ววางไว้ตรงผนังด้านนั้นไหมเพคะ หากสามวันนางไม่ฟื้น ร่างกายนางจะได้ไม่เน่าเปื่อย"
"ที่เจ้าเสนอมาก็ดี นางอาจเเค่นอนหลับไป..."ควีนลูบหัวเดซี่เเละอีฟก่อนที่จะเอ่ยรับสั่ง
"เจ้าหยิบโลงแก้วนั้นมา ห่อด้วยผ้าอุ่นๆเเล้วห่อนางไว้"
น้ำตาคนรับใช้ร่วงเปาะลงกับพื้น ตั้งเเต่ได้ยินคำว่าโลง เดซี่ก็ร้องไห้จนน่าสงสาร พยายามจัดเจนจัดขาให้นายของตัวเองนอนสบายที่สุด กระเช้ากับข้าวยังมีความทรงจำอยู่มากมาย ของที่ตั้งใจหยิบมาให้อย่างละใบสองใบ เเต่คนจะกินไม่อยู่เสียเเล้ว....
"หม่อมฉันจะเฝ้านายหญิงเองเพคะ เดี๋ยวหิวคงตื่นมากินข้าว"
"เดซี่....."
ควีนทาบไหล่อย่างสงสาร นางนั่งเกาะติดกับโลงแก้วไม่ยอมไปไหน ถือกับข้าวรอไว้ตลอดเวลาเผื่ออีกคนจะตื่นมากิน...
"หม่อมฉันไหวเพคะ ยังไงก็จะเฝ้า"
"งั้นอีฟ เจ้าไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวเดซี่จะดูเเลนายของนางเอง ส่วนเรา ก็ต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป"
"หม่อมฉันไม่น่าสั่งลงโทษนาง"พระสนมเอกมองคนนอนหลับใหลไร้ชีพจรอย่างเป็นห่วง ตนไม่น่าริษยาไม่เข้าเรื่อง..การเห็นคนตายต่อหน้า ทำให้ไข่มุกเม็ดเดียวในวังหลวงอย่างเธอรู้สึกใจหาย..
"ข้าสั่งเอง ข้าผิดเอง ข้าผิดต่อบ้านเมืองด้วย การเดินทัพ...คงต้องเลื่อนไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด..."องค์ราชินีลูบโลงแก้ว พลางทบทวนสิ่งที่ตนเองทำลงไปโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน...พระองค์เเสดงออกทางอารมณ์อะไรไม่ได้เลยหากอยู่ต่อหน้าคนอื่น เรื่องราวจึงออกมาเลวร้ายเช่นนี้...
กลับมานะ...กลับมาให้ได้...
