บทที่ 8
"องค์ชายกำลังเข้าใจผิดไปนะเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่ผู้ผิดสัญญา แต่คนที่ผิดสัญญาระหว่างเราคือพระองค์ต่างหาก!"
"ข้า..." ฟู่อวิ้นหลงถึงกับเอ่ยคำพูดไม่ออกเมื่อโดนจี้ถูกจุด
ชายหนุ่มเห็นอีกฝ่ายเงียบไปจนไม่รู้ว่าตนเองจะพูดสิ่งใดต่อ ตัวเขาคิดแต่หาทางให้เฟิ่งอวี่เหิงยอมกลับมาหาตนเช่นเดิม หากนางใจอ่อนแล้วยอมกลับมาเป็นเช่นเดิมก็จะรีบแต่งนางเข้าวังทันทีนางจะได้ไม่ต้องไปเป็นสตรีของผู้ใด
สตรีเพียบพร้อมเช่นนางนั้นต่างเป็นที่หมายปองของเหล่าบุรุษ การที่ได้แต่งนางเข้าจวนนั้นมีทั้งอำนาจและชื่อเสียงใครบ้างที่ไม่ต้องการ
"ข้า...ข้าแต่งกับเจ้าคนเดียวไม่ได้เจ้าก็รู้ แต่ข้าก็ให้เกียรติเจ้าได้เป็นชายาเอกของข้า ที่มีทั้งฐานะและชื่อเสียงในแคว้นนี้ ข้าให้เจ้าได้ทุกอย่างขอแค่เจ้ามาเป็นชายาเอกของข้า ข้าให้เจ้าได้หมด เหิงเหิงมาเป็นชายาเอกให้ข้าเช่นเดิมเถิดนะ"
ฟู่อวิ้นหลงพยายามเกลี้ยกล่อมเฟิ่งอวี่เหิงทุกหนทาง พยายามยกให้เห็นถึงฐานะและชื่อเสียงของชายาเอกว่ามีดีอย่างไรบ้าง เผื่อนางจะกลับมาหาเขาเช่นเดิม
เฟิ่งอวี่เหิงได้ยินเช่นนั้นรู้สึกเจ็บใจ ดวงตางามถึงกับน้ำตาคลอ นางเคยหลงรักบุรุษที่มักมากผู้นี้ได้อย่างไรกัน ไม่ได้นะเหิงเหิง เจ้าสัญญากับท่านแม่แล้วว่าจะไม่เสียน้ำตาให้ชายใดอีก
"ขออภัยองค์ชายที่หม่อมฉันไม่อาจรับความหวังดีนี้ได้ พระองค์ทราบดีว่าหม่อมฉันต้องการสิ่งใด ชื่อเสียงหรือฐานะไม่ได้สำคัญกับหม่อมฉันเลยแม้แต่น้อย หม่อมฉันต้องการเพียงสามีที่มีภรรยาคนเดียวเหมือนกับท่านพ่อ และหากหม่อมฉันต้องการชื่อเสียงจริง ๆ หม่อมฉันหมั้นกับรุ่ยอ๋องไม่ดีกว่าหรือ?"
ได้ยินเช่นนั้นฟู่อวิ้นหลงถึงกับตาโต ตัวเขาถามออกมาด้วยเสียงสั่นอย่างโกรธเคือง
"เจ้า... เจ้ากล่าวเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะเหิงเหิง เจ้ากล้ากล่าวเรื่องหมั้นกับบุรุษอื่นต่อหน้าข้าได้อย่างไร! แล้วข้าเล่า! ข้าเป็นบุรุษของเจ้านะ"
เฟิ่งอวี่เหิงมองดูคนต่อหน้าอย่างเย็นชา แล้วหันไปพยักหน้าให้กับสาวใช้ของตนเพื่อหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
ในใจนางยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ถูกฟู่อวิ้นหลงดูถูก ท่านอยากรู้ฐานะของท่านกับข้าอย่างนั้นรึ ต้องให้ข้าย้ำใช่หรือไม่ว่าตอนนี้ท่านกับข้ามีฐานะเช่นไร แล้วเหตุใดท่านถึงกล่าววาจาน่ารังเกียจเช่นนี้ เสียแรงที่ข้าเคยหลงรักคนเช่นท่าน ข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะเห็นแก่ตัวได้ถึงเพียงนี้ ข้าผิดหวังในตัวท่านจริง ๆ ...
เมื่อฟู่อวิ้นหลงเห็นสิ่งที่สาวใช้กำลังถือมานั้นถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เพราะไม่คิดว่าสตรีตรงหน้าตนจะไร้เยื่อใยกับตนถึงเพียงนี้ เขามองสิ่งที่อยู่บนพานด้วยแววตาเลื่อนลอย
จบแล้วสินะ เจ้าคงตัดใจจากข้าได้แล้วจริง ๆ ถึงขั้นให้สาวใช้นำราชโองการถอนหมั้นมาให้เห็นเช่นนี้ เพื่อตอกย้ำสถานะตนกับนาง
"ตัวองค์ชายและหม่อมฉันได้สิ้นวาสนาต่อกันแล้ว จากนี้และต่อไปก็เปรียบเสมือนคนแปลกหน้าต่อกัน หากเป็นไปได้พระองค์อย่ามาหาหม่อมฉันที่จวนอีก มันไม่เป็นการดีทั้งตัวของหม่อมฉันและตัวขององค์ชายเอง ไม่เช่นนั้นจะเป็นที่ครหาของผู้คน เพราะฉะนั้นได้โปรด...พระองค์อย่าได้มาที่จวนนี้อีกนะเพคะ"
เฟิ่งอวี่เหิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา คนที่ได้ฟังถึงกับครองสติไม่อยู่กับการกระทำไร้ซึ่งเยื่อใยจากอดีตคู่หมั้น
"หม่อมฉันขอส่งองค์ชายตรงนี้นะเพคะ หม่อมฉันขอทูลลา"
ไม่รอให้คนตรงหน้ารั้งเอาไว้ เฟิ่งอวี่เหิงรีบเดินกลับเข้าไปในเรือนของตนเองทันที
ส่วนคนที่เพิ่งได้สติกลับคืนมาถึงกับตาแดงอย่างปวดใจ เขาเดินออกมาจากจวนสกุลเฟิ่งเสมือนร่างไร้วิญญาณ ได้แต่เงยหน้ามองบนฟ้า
'จบจริง ๆ แล้วสินะเหิงเหิง เจ้ากับข้าสิ้นวาสนาต่อกันแล้วจริง ๆ น่ะหรือ เจ้าไม่ให้โอกาสข้าได้แก้ตัวกับเจ้าเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะรับคำขอโทษจากข้า อวี่เหิงเจ้าทำให้ข้ารู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่ข้าได้รับตอนนี้เป็นความเจ็บเดียวกันกับที่เจ้าเคยรับจากข้าใช่หรือไม่ แล้วข้าจะต้องทำเช่นไรต่อไปเพื่อให้ตัวเจ้าได้กลับมาอยู่เคียงข้างข้าเช่นเดิม'
ก่อนที่จะขึ้นรถม้ากลับจวนตัวเอง ฟู่อวิ้นหลงก็หันไปมองจวนอดีตคู่หมั้นของตนอีกครั้งเพื่อหวังว่าจะเห็นนางออกมายืนส่งตนขึ้นรถม้าเหมือนอย่างเช่นในอดีต
'อวี่เหิงเจ้ารอข้าก่อนนะ อย่าเพิ่งไปมอบความรักให้ชายใด ข้าจะทำให้เจ้าได้มาอยู่เคียงข้างข้าเช่นเดิมให้ได้!'
***********
