บทที่ 7
จวนสกุลเฟิ่ง
หลังจากที่ส่งฉินกงกงกลับวังแล้ว กู่ม่านชิงได้ขอตัวกลับจวนตนเอง ส่วนเสนาบดีเฟิ่งจินหยวนกับเฟิ่งฮู
หยินต่างพากันแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน เหลือเพียงเฟิ่งอวี่เหิงที่ไม่มีอะไรให้ทำ นางจึงมานั่งปักผ้าอยู่ที่ศาลาเพียงลำพัง
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู แฮ่ก ๆ ๆ"
"ใจเย็น ๆ ชินชิน มีอะไรทำไมถึงได้ร้อนรนถึงเพียงนี้"
"องค์ชายสามเสด็จมาเจ้าค่ะ ตอนนี้รอคุณหนูอยู่ที่เรือนรับรองแล้ว"
สตรีที่กำลังปักถึงกับชะงักกับคำพูดของสาวใช้
"เจ้าว่าอย่างไรนะ? ชินชิน"
"องค์ชายสามเสด็จมาที่จวนต้องการมาพบคุณหนูเจ้าค่ะ"
ได้ยินคำย้ำจากสาวใช้ของตน นางก็นิ่งไป ภายในใจนางเต็มไปด้วยความสงสัย องค์ชายสามจะมาหาข้าทำไมกัน ทั้งที่ตอนนี้เราสองคนไม่ต่างจากคนแปลกหน้าต่อกันแล้ว
ชินชินเห็นคุณหนูของตนเองนิ่งไปก็อดเป็นกังวลไม่ได้
"คุณหนู..."
"ข้าไม่เป็นไร" ใบหน้างามมีเพียงรอยยิ้มเบาบาง
หลังจากได้รับรายงานจากสาวใช้ เฟิ่งอวี่เหิงได้เดินมายังเรือนรับรอง เห็นว่ามีบุรุษคุ้นหน้ายืนรอนางอยู่
"เฟิ่งอวี่เหิงถวายพระพรองค์ชายฟู่อวิ้นหลงเพคะ"
คำพูดห่างเหินจากปากของสตรีตรงหน้า พลันทำให้เขารู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที เพราะเหตุใดกัน? ทั้งที่แต่ก่อนนางเรียกไม่เห็นว่าจะมีความรู้สึกเช่นนี้เลย
"เหิงเหิง ไม่ต้องมากพิธีกับข้าถึงเพียงนั้นเจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่เถิด"
เหิงเหิงรึ? ให้เรียกท่านพี่รึ? หึ น่าขันสิ้นดี พอถูกถอนหมั้นก็ให้เรียกชื่อแบบสนิทสนมขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เฟิ่งอวี่เหิงไม่ได้ยินดีกับคำอดีตคู่หมั้นของตนเรียกอย่างสนิทสนมเลยแม้แต่น้อย นางกล่าวออกไปด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่เย็นชา
"หม่อมฉันเรียกเช่นนั้นไม่ได้ พระองค์เป็นถึงองค์ชายสามผู้สูงศักดิ์ ส่วนตัวหม่อมฉันเป็นเพียงสามัญชนเท่านั้น จะไปตีเสมอพระองค์ได้เช่นไร อีกอย่างหม่อมฉันก็เรียกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว"
"เหิงเหิง..."
"หากไม่เป็นการล่วงเกิน พระองค์โปรดเรียกหม่อมฉันว่าเฟิ่งอวี่เหิงเช่นเดิมเถิดเพคะ หรือเรียกว่าคุณหนูเฟิ่งอย่างที่ผู้เรียกอื่นเรียกกันจะดีกว่า เพราะตอนนี้หม่อมฉันไม่ได้เป็นคู่หมั้นขององค์ชายแล้ว เราต่างเปรียบเสมือนกับคนแปลกหน้าต่อกัน"
ได้ยินคำพูดไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ในใจฟู่อวิ้นหลงหนักอึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนไม่สามารถกล่าวสิ่งที่ตนตั้งใจว่าหากเจอหน้ากัน ตนจะทำดีกับนาง จะคุยกับนางอย่างสนิทสนมเหมือนดั่งที่นางเคยต้องการ
แต่พอมาเจอท่าทีเย็นชาพร้อมกับสายตาของนางที่จ้องมองเขา มันไม่เหมือนกับที่ตนเคยได้รับในอดีต สายตาในอดีตที่เฟิ่งอวี่เหิงมองมา เป็นสายตาราวกับว่าเขาคือทุกอย่างของนาง
แต่สายตาที่ตนได้รับตอนนี้มันทำให้ใจเจ็บยิ่งนัก เป็นสายตาเย็นชาที่ตนไม่เคยได้รับจากสตรีตรงหน้าเลยสักครั้งเดียว
เฟิ่งอวี่เหิงเห็นคนตรงหน้าเงียบไป จึงได้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
"องค์ชายมีเรื่องอันใดกับหม่อมฉันหรือเพคะ"
"เหิงเหิง เหตุใดเจ้าจึงถอนหมั้นกับข้า เป็นเพราะข้าไม่สนใจเจ้า เพราะข้าไม่มีเวลาให้เจ้าหรือเป็นเพราะข้าไปเฝ้าฟางเอ๋อร์เมื่อวานนี้ เจ้าโกรธข้าเพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่? ถ้าข้าขอโทษเจ้าแล้วเรามาเริ่มกันใหม่ เราเริ่มกันใหม่ดีหรือไม่เหิงเหิง เรามาทำเหมือนยามที่เรารู้จักกันในตอนแรกข้าจะ..."
"ไม่มีความหมายแล้วเจ้าค่ะ"
ไม่รอให้ฟู่อวิ้นหลงพูดจบ เฟิ่งอวี่เหิงกล่าวตัดบทสนทนาขึ้นมาทันที
"เจ้าหมายความว่าเช่นไร?"
"หม่อมฉันหมายความว่าเปล่าประโยชน์เพคะ"
ฟู่อวิ้นหลงได้ยินเช่นนั้นถึงกับมีใบหน้าที่ซีดเผือด ขณะกำลังจะเดินเข้าไปหาสตรีตรงหน้า เฟิ่งอวี่เหิงกลับเดินถอยหลังตามก้าวที่ฟู่อวิ้นหลงเดินเข้ามาหาเพื่อรักษาระยะห่างกับเขาอย่างเห็นได้ชัด
"เพราะเหตุใด..."
"..." เฟิ่งอวี่เหิง
"เจ้าสัญญากับข้าแล้วไม่ใช่รึ ว่าเจ้าจะแต่งกับข้า"
ได้ยินเช่นนั้นนางก็มีท่าทีบึ้งตึงขึ้นมาทันที กล้ามากล่าวคำสัญญากับนางได้อย่างไร
ไม่ใช่เพราะท่านหรืออย่างไรที่เป็นผู้ผิดสัญญากับข้าก่อนแต่กลับมากล่าวหาเหมือนกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของนางได้เช่นไร
