ตอนที่ 6 ร่วมโต๊ะ 2
และจังหวะที่เธอมองตามไอ้หนุ่มหน้าหล่อที่กำลังจะเดินออกมาจากโต๊ะ สายตาเขาก็สบเข้ากับเธออย่างจัง รอยยิ้มหยันจึงเกิดขึ้นที่มุมปากของเกื้อทันที
อิฐเห็นสีหน้าของเพื่อนแล้วก็รีบหันไปมองหญิงสาวสองคนที่โต๊ะริมด้านใน ดวงตาใสไร้วี่แววตกใจหรือตื่นตระหนกสักนิด ขนาดว่าอิฐเองที่มองสายตาไอ้เกื้อยังอดขยาดสายตามันไม่ได้
เธอน่าจะเช็กบิลเสร็จแล้ว พอไอ้นักดนตรีนั่นเดินออกไป เธอกับเพื่อนก็ลุกออกจากโต๊ะและตรงมาทางนี้
อิฐใช้เท้าเตะเพื่อนอยู่ใต้โต๊ะ
"อะไรของมึง"
"จะไม่มีเรื่องใช่ไหมวะ"
"เรื่องส้นตีนอะไร"
เรื่องส้นตีนที่ว่าอิฐยังไม่ทันได้ถามต่อ ภรรยาคนสวยของเพื่อนก็เดินมาถึงโต๊ะเสียแล้ว
ที่จริงเธอเองก็ไม่อยากจะเดินเข้าไปทักทายคนตาแข็งๆ นั่นหรอก แต่เห็นสายตาที่มองมาอย่างไม่เป็นมิตรถ้าเธอเดินผ่านไปเฉยๆ ก็คงถูกต่อว่า ว่าไร้มารยาทแน่นอน สู้เดินเข้ามาทักทายให้หายข้องใจไปเลยจะดีกว่า
"คุณเกื้อมาทานข้าวหรือคะ" คำถามโง่ๆ จึงออกมาจากปากเธอ
"คุณขวัญเอยใช่ไหมครับ ผมอิฐนะครับ เป็นเพื่อนไอ้เกื้อมัน"
อิฐรู้ว่าคงไม่ได้รับการแนะนำ และถ้าเขาไม่เอ่ยขึ้นก็ไม่รู้ว่าไอ้ปากหนักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจะเอ่ยทักเธออย่างไร หรืออาจจะเป็นคำค่อนขอดแทนก็ได้
"สวัสดีค่ะ เรียกเอยเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"
"นั่งด้วยกันก่อนนะครับ" คำชวนของอิฐทำให้เกื้อถึงกับขมวดคิ้วมอง
"เอย เดี๋ยวเรากลับเองดีกว่า เธออยู่คุยกับคุณเกื้อต่อเถอะ" เธอยังไม่ได้เอ่ยรับคำชวน แต่เพราะฟ้าใสที่เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน พร้อมกับดันตัวให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆ คนหน้าตึง ก่อนที่ยายเพื่อนตัวดีทำท่าจะรีบชิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
"เดี๋ยว ยายฟ้าแล้วจะกลับยังไง"
"ขับรถเป็นไหม" เป็นคำแรกที่เขาเอ่ยขึ้นถามฟ้าใส
"เอ่อ...เป็นค่ะ"
"เอากุญแจรถเธอให้ขับกลับไป"
"คะ" ขวัญเอยได้แต่ตอบเขาอย่างงงๆ แต่ก็ยอมหยิบกุญแจรถของตัวเองส่งให้เพื่อน
"โอเค พรุ่งนี้เจอกัน" ฟ้าใสยกมือขึ้นโบกให้เพื่อนเบาๆ ก่อนจะเดินจากคนกลุ่มนั้นออกไป
นักดนตรีหนุ่มหน้าหล่อขึ้นเวทีอีกครั้งในตอนที่เธอนั่งลงร่วมโต๊ะกับเขา สายตาที่มองมาทางโต๊ะนี้เกื้อเห็นแล้วว่ามันคงมองมือเขาที่ยังพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ข้างหลังเธอ ส่วนเธอก็กำลังมองแก้วเบียร์ตรงหน้าที่พนักงานเสิร์ฟกำลังวางลงให้ที่โต๊ะ
"คุณเอยมาทานที่ร้านนี้บ่อยหรือครับ"
นั่นไงที่เขายอมให้เธอส่งกุญแจรถให้เพื่อน เพราะรู้ดีว่าความช่างพูดของไอ้อิฐมันมีประโยชน์ก็ตอนนี้
"มาบ่อยค่ะ เรียกว่าเป็นลูกค้าประจำก็ว่าได้" เธอตอบตามจริง
"นักร้องที่นี่ร้องเพลงเพราะนะครับ"
"อ๋อ...คุณโซนน่ะหรือคะ เขาเป็นเจ้าของร้านที่นี่ด้วยค่ะ" อิฐพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
จนกระทั่งไอ้เพื่อนรักของเขามันเริ่มถามเข้าเรื่องงานของเธอนั่นแหละ เขาถึงได้สนใจฟังเป็นพิเศษ แม้จะได้ข้อมูลไม่มากนักแต่ตัวเลขติดลบสีแดงที่เขาเห็นมาก็พอจะทำให้นึกภาพตามได้ไม่ยาก
"ช่วงนี้ยอดขายก็ไม่ได้ค่อยดีเท่าไรค่ะ"
"นี่เลยครับ ไอ้เกื้อเพื่อนผมมันเก่งด้านบริหาร ถ้าคุณเอยมีปัญหาตรงไหนถามมันได้เลยครับ"
รอยยิ้มบางๆ ที่หันมายิ้มให้เขาก่อนที่เธอจะหันหน้าไปยิ้มกว้างให้ไอ้อิฐ พร้อมคำพูดเสียงกระซิบเบา แต่เขาก็ได้ยิน "ไม่กล้าถามหรอกค่ะ" ต่อด้วยเสียงหัวเราะขบขันเบาๆ ของเธอ และราวกับสีหน้าเขาตอนนี้มันทำให้ไอ้เพื่อนตัวดีถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
"เอาจริง ผมก็ไม่กล้าถามมันเหมือนกัน"
เกื้อได้แต่ทำเสียงขึ้นจมูกนึกหมั่นไส้หน้าระรื่นของไอ้อิฐ
"ไว้เอยถามคุณอิฐแทนแล้วกันค่ะ"
"ก็ถ้าอยากให้บริษัทเจ๊งเร็วๆ ก็ถามมันนั่นแหละ" ประโยคที่สองที่เขาเอ่ยขึ้น ทำเธอเม้มปากแน่นไม่ต่างจากเพื่อนเขา
"ดิสเครดิตเพื่อนนี่หว่า ไอ้เกื้อ"
"กูพูดเรื่องจริง"
"เออๆ"
กว่าเกื้อจะแยกย้ายกับอิฐก็อีกร่วมชั่วโมง แต่บทสนทนาที่เธอได้ยินจากปากเขาแทบจะนับประโยคได้ และสุดท้ายเสียงเขาก็เหมือนหายไปอีกครั้งตอนที่เธอต้องขึ้นมานั่งอยู่บนรถมินิแวนคันหรูของเขา
"วันเสาร์ที่จะไปงานเธอมีชุดใส่หรือยัง"
ขวัญเอยเกือบจะเคลิ้มหลับอยู่แล้ว แต่เพราะเสียงถามที่ดังขึ้นจากคนข้างๆ ทำให้เธอรีบลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว
"พอมีอยู่บ้างค่ะ ว่าแต่งานหรูหรามากไหมคะ"
"พอสมควร"