บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ร่วมโต๊ะ 1

"รายงานที่คุณเกื้อต้องการครับ"

ชาญวิทย์ส่งซองเอกสารวางบนโต๊ะเจ้านายก่อนจะถอยหลังห่างออกไปยืนรอรับคำสั่ง

"คุณเกื้อจะรับอาหารเช้าแบบไหนดีครับ" คุณเลขาคนสนิทเอ่ยถามไปตามหน้าที่อย่างเช่นทุกวัน

"ไม่ต้อง ฉันกินมาแล้ว ขอกาแฟอีกแก้วแล้วกัน"

"คุณเกื้อดื่มกาแฟมาแล้วหรือครับ"

"อือ ทำไม"

เอกสารในมือที่ยกขึ้นเตรียมจะอ่านถูกลดระดับลงสายตาที่จ้องตัวหนังสือเมื่อครู่ก็ย้ายมาจ้องหน้าเลขาที่มันทำสายตาคล้ายกวนประสาทเขาเหลือเกิน

"ไม่ทำไมครับ ปกติคุณเกื้อจะไม่ค่อยดื่มกาแฟที่อื่น"

"ฉันดื่มมาจากที่บ้านมันผิดปกติตรงไหนหรือ"

ชาญวิทย์หุบปากเป็นเส้นตรง 'ดูผิดปกติทุกตรงนั่นแหละ' แต่พูดไม่ได้ เพราะเท่าที่ทำงานกับเจ้านายมาเกือบเจ็ดปีคุณเกื้อแทบไม่เคยดื่มกาแฟมาจากที่บ้านสักครั้ง เพนต์เฮาส์หรูๆ นั่นเท่าที่จำได้ก็ยังไม่เคยเห็นกาแฟที่ห้องเจ้านาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเครื่องครัวที่เหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องนั่นเลย

แต่บอก ดื่มกาแฟมาจากบ้าน

"อ้อ ต่อไปให้แม่บ้านไปทำความสะอาดทุกวันด้วยนะ"

"ได้ครับ"

กาแฟแก้วที่สองในช่วงเช้าถูกวางลงที่โต๊ะทำงาน เอกสารตรงหน้าก็ได้อ่านอย่างจริงจังเสียที

บริษัทนำเข้าสินค้าจิปาถะไร้สาระถูกจดทะเบียนโดยมีภรรยาเขาเป็นกรรมการบริษัท แต่อะไรก็ไม่ทุเรศเท่าไอ้ตัวเลขติดลบแดงๆ อยู่ในงบการเงิน แถมยอดขายยังต่ำเตี่ยเรี่ยดินจนน่าอเนจอนาถ ทั้งที่ยอดจดทะเบียนบริษัทตั้งหลายล้าน

"ยอดขายปีที่แล้วไม่ดีครับ และดูท่าปีนี้ก็คงจะยังไม่ดีขึ้น"

ไม่ต้องฟังไอ้ชาญวิทย์รายงานเขามองตัวเลขในกระดาษหลายแผ่นนั่นก็รู้ถึงวันที่มันจะเจ๊ง

เกื้อโยนกระดาษในมือลงโต๊ะเบาๆ อยากจะสมน้ำหน้ายายนั่นแต่ก็เหมือนจะสมเพชเสียมากกว่า

พ่อได้เงินไปตั้งเยอะ ไม่คิดจะช่วยบริษัทลูกสาวตัวเองเลยหรือไงแต่ถึงจะมีเงิน ดูท่าก็อาจจะไม่ทำให้บริษัทยอดขายดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะการบริหารงานของเธอ ได้แต่หวังว่าไอ้หน้าที่ซัปพอร์ตผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ใช่หน้าที่เขา

"อืม โอเค ฉันเข้าใจแล้ว แค่นี้แหละ"

เมื่อเห็นเจ้านายไม่สั่งงานต่อจากนั้น ชาญวิทย์จึงหมุนตัวกลับ ก้าวขาได้เพียงสองก้าวก็ต้องรีบหันกลับมารับคำสั่งเจ้านายอีกครั้ง

"เดี๋ยวก่อน นายลองไปสืบสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทนี้มาอีกหน่อย"

"ได้ครับ"

เกื้อออกจากบริษัทเกือบจะค่ำมืด ทำงานจนหัวสมองล้ามาทั้งวันคิดจะกลับไปนอนพักผ่อนให้เต็มอิ่มสักคืน แต่แค่เพียงรถที่แล่นออกจากหน้าบริษัท เพื่อนสนิทอย่างอิฐก็โทรมารบเร้าให้ไปกินเหล้ากับมันให้ได้

"วันนี้กูขอบายว่ะ"

"มึงต้องรีบมาเลยไอ้เกื้อ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง"

"เก็บไว้คุยวันหลัง"

"หรือมึงไม่อยากรู้เรื่องเจนิส"

เพราะชื่อของเจนิสที่หลุดออกมาจากปากเพื่อน ทำให้เกื้อต้องยอมสั่งให้คนขับรถขับเลยไปที่ร้านอาหารเมื่อวันนั้น

ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในร้าน อดไม่ได้ที่เขาจะเหลือบสายตาไปที่บ่อน้ำเล็กๆ ข้ามไปถึงเวทีของนักดนตรีที่กำลังขับขานเพลงฟังสบายๆ กับเครื่องดนตรีน้อยชิ้น

ไอ้นักดนตรีหน้าหล่อนั่นไม่อยู่บนเวที แต่โต๊ะริมด้านในกลับมีคนคุ้นตานั่งอยู่ตรงนั้นกับผู้หญิงอีกคน

"มีอะไรมึงว่ามา"

เกื้อทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ พลางเอ่ยถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงติดจะห้วนเล็กน้อย

"เรื่องไหนล่ะ" เพราะสายตาเกื้อมองเลยไปถึงโต๊ะด้านใน อิฐจึงได้เอ่ยถามกลับให้แน่ใจ

"ถ้าเมียมึงอ่ะ กูมาถึงก็เห็นนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิมนั่นแล้ว" เอ่ยตอบเสร็จอิฐถึงเพิ่งรู้ว่าเดาผิดเรื่อง เมื่อสายตาที่หรี่ลงมองอย่างไม่ค่อยพอใจนั่น

"เจนิส ทำไม"

"เขาโทรหากู"

เกื้อเอนตัวพิงเก้าอี้ในท่าสบายๆ แต่มืออีกข้างที่พาดไปบนพนักเก้าอี้ตัวข้างๆ ปลายนิ้วยาวที่กำลังเคาะลงเบาๆ อิฐก็เข้าใจได้ดีว่าเพื่อนกำลังใช้ความคิดและคงกำลังจดจ่อกับเรื่องที่จะเล่า

"เขามีปัญหากับสามีเขา บอกว่ากำลังจะหย่า"

"ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกูนี่"

"มันจะไม่เกี่ยวกับมึงเลย ถ้าไอ้ท่าทางเหมือนคนอกหักของมึงมันจะหายไปสักที"

"กูไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว"

"แต่เขาถามถึงมึง"

นั่นเป็นคำบอกเล่าที่เขาอยากรู้ที่สุด ว่าไอ้อิฐมันบอกเจนิสว่าอย่างไรมากกว่า

"อือ แล้วมึงว่าไง" เกื้อวางแก้วเบียร์ลงตอนที่เอ่ยถาม เมื่อเห็นไอ้อิฐไม่ยอมเอ่ยปากสักที

"แค่บอกว่ามึงสบายดี ...แล้วก็...."

"แต่งงานแล้ว" เกื้อเอ่ยต่อให้เมื่อเห็นอิฐอ้ำๆ อึ้งๆ

"มึงไม่ว่ากูใช่ไหม ที่กูบอกเขาแบบนี้"

"อือ"

"เพราะเขาถามหามึงในทำนองที่เหมือนอยากจะกลับมาคืนดี กูฟังแล้วไม่ชอบใจว่ะ ตอนจะไปก็ไปอย่างไม่ไยดี พอทิ้งผัวฝรั่งจะอยากกลับมาหามึง"

"ก็ดีแล้ว ที่มึงบอกเขาไปแบบนั้น"

"แล้วกับเมียมึง โอเคไหมวะ"

อิฐเอ่ยถามเพราะเห็นสายตาของเพื่อนยังชำเลืองมองไปถึงโต๊ะนั้นบ่อยๆ

ไม่มีคำตอบออกจากปากเกื้อ นอกจากสายตาที่ออกจะไม่สบอารมณ์

"เออ กูว่าไอ้นักดนตรีที่ร้องเพลงวันนั้นน่ะ น่าจะเป็นเจ้าของร้านซะมั้ง เพราะกูเห็นเหมือนมันออกมาต้อนรับลูกค้าอยู่แป๊บนึงแล้วก็หายไปทางไหนไม่รู้"

เหมือนเกื้อจะรู้แล้วว่ามันหายหัวไปทางไหน เมื่ออยู่ๆ คนที่ถูกพูดถึงก็เดินเข้ามาในระยะสายตา และเป็นโต๊ะของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเขา

รอยยิ้มกว้างเอ่ยทักทายไอ้นักร้องหนุ่มดูสดใสจนน่าหมั่นไส้
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel