ตอนที่ 5 ทำตัวดีๆ 2
ขวัญเอยเดินตามแม่บ้านมาจนถึงห้องอาหารใหญ่ ตอนที่ก้าวเท้าเข้ามาเธอถึงกับต้องก้มมองชุดเดรสแบบเรียบของตัวเองอีกครั้ง เมื่อบ้านของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเธอมันออกจะหรูหราสมฐานะลูกชายเจ้าสัวชื่อดัง
เสียงคำรามใหญ่ดังออกมาจากห้อง แม่บ้านหันมาก้มหน้าให้เธอแล้วก็ทิ้งเธออยู่ตรงนั้น เมื่อเสียงที่ดังออกมามันเป็นเสียงด่า
และก็เดาไม่ยากว่าใครที่กำลังถูกด่าอยู่ตอนนี้
"ฉันก็อุตส่าห์ชวนพ่อเขามากินข้าวด้วย นี่ถ้าคุณจรัสชัยเขามาแล้วไม่เห็นลูกสาวเขา แกจะให้ฉันเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
"เจ้าสัวคะ" เสียงหวานที่เอ่ยแทรกขึ้นยิ่งดูเหมือนจะทำให้เจ้าสัวยิ่งโมโห
"ฉันบอกแกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าวันนี้ให้พาเมียแกมากินข้าวที่บ้านด้วย แกไม่ได้ชวนหนูเอยหรือไง"
บทสนทนาที่กำลังจะเข้มข้นถูกเว้นวรรคจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูไม้บานใหญ่ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ เรียกสายตาให้คนทั้งห้องอาหารหันมามอง
เจ้าสัวมงคลถอนหายใจเฮือกใหญ่ หญิงสาวที่ดูจะแก่กว่าเธอเล็กน้อยจนน่าจะอายุเกือบเท่าเกื้อพอจะทำให้เธอเดาสถานะของหญิงสาวตรงหน้าออกได้ทันที เจ้าของเสียงหวานๆ ที่เธอได้ยินเมื่อครู่หันมายิ้มให้ ส่วนเด็กชายตัวน้อยในวัยอนุบาลมองเธอตาแป๋ว มีเพียงเขาที่เหลือบสายตามองเธออย่างไม่เป็นมิตรนัก
เธอรีบยกมือขึ้นสวัสดีทุกคน
"ขอโทษนะคะคุณพ่อ ที่เอยมาช้า พอดีรถติดน่ะค่ะ"
"อ้าว ไม่เป็นไรๆ มาๆ มาทานข้าวพร้อมกันลูก"
"ค่ะ คุณพ่อ" เธอเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ลูกชายเจ้าสัว แม่บ้านก็รีบจัดจานชามมาเพิ่มให้อีกชุด
"รู้จักกันไว้ซะสิ นี่เพชรพราวภรรยาฉันเอง ส่วนนั่นก็เจ้ากุณน้องชายเจ้าเกื้อเขา"
เธอหันไปยิ้มทักทายภรรยาสาวคนสวยของเจ้าสัวอีกครั้ง
แม้อาหารบนโต๊ะจะแสนอร่อย แต่คนที่นั่งอยู่ข้างเธอก็ทำท่าคล้ายกลืนอาหารไม่ค่อยลงคอ ถ้าไม่ได้คุณเพชรพราวชวนพูดคุยเธอก็คงจะได้แต่นั่งอมข้าวเหมือนเด็กชายกุณอยู่เป็นแน่
จบมื้ออาหารค่ำแล้ว ท่านเจ้าสัวหายไปที่ห้องทำงานกับลูกชายท่าน ส่วนเธอก็ได้คุณเพชรพราวนั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่ที่ห้องรับแขก ต้องยอมรับว่าภรรยาของท่านเจ้าสัวคนนี้น่ารักไม่น้อย คุยเก่ง จนเธอไม่ได้รู้สึกอึดอัด
"แกช่วยทำตัวให้มันดีๆ กับหนูเอยเขาหน่อยไม่ได้หรือไง"
"พ่อจะเอายังไงกับผมอีก จะให้ผมแต่งงานผมก็แต่งให้แล้ว"
เมื่อเข้ามาถึงห้องทำงาน เจ้าสัวมงคลก็พูดเข้าเรื่องที่กังวลอยู่ทันที
"แกรู้ไหมว่าไอ้โครงการนี้มันกี่ร้อยกี่พันล้าน และมันต้องอาศัยตำแหน่งพ่อเมียแกช่วยสนับสนุนปูทางให้เรา"
"เขาก็ได้เงินไปแล้วนี่ครับ มันก็น่าจะพอหรือเปล่า"
"แกก็ต้องเข้าใจเขาหน่อย พ่อเขาก็อยากให้ลูกสบาย"
"พ่อก็เลยคิดว่าเป็นเมียผมแล้วจะสบายงั้นหรือ"
"แกก็ช่วยทำตัวให้สมกับเป็นผัวเขาหน่อย ถ้าเสร็จจากโครงการนี้แล้วแกจะตัดสินใจกันยังไงก็แล้วแต่แก"
"แล้วพ่อเขารู้ไหมครับ"
"ไอ้ลูกคนนี้ หรือแกอยากจะเป็นผัวเขาไปตลอด ก็ตามใจแก แต่ก่อนที่โครงการนี้จะประมูลเสร็จฉันขอเตือนให้แกทำตัวดีๆ กับหนูเอยหน่อยก็แล้วกัน"
"แค่นี้ใช่ไหมครับ ผมจะได้รีบกลับไปทำตัวดีๆ ให้สมกับเป็นผัวเธอ"
"ไอ้เกื้อ แกจะหยุดยั่วโมโหฉันสักวันไม่ได้หรือไง"
"ครับ"
"อาทิตย์หน้างานเลี้ยงบ้านคุณปรีชาแกพาหนูเอยไปด้วยล่ะ ถ้าฉันไม่เห็นหนูเอยที่งาน แกก็เตรียมตัวเข้ามาทำงานที่บริษัทฉันแทนได้แล้ว"
"ครับ"
เกื้อเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เหลือบสายตาเข้าไปที่ห้องรับแขกก่อนจะเดินผ่านไปอย่างหน้าตาเฉย
"เอยขอตัวก่อนนะคะ เหมือนคุณเกื้อจะกลับแล้ว"
"ค่ะ วันหลังแวะมาทานข้าวด้วยกันอีกนะคะ"
คล้ายคุณเพชรพราวยังเอ่ยไม่จบ แต่เธอก็ไม่ทันได้ฟังต่อจากนั้น รีบก้าวเท้าตามคนตัวสูงที่เดินออกไปทางหน้าบ้าน
"อุ๊ย! ขอโทษค่ะ"
เพราะความรีบเธอจึงหยุดไม่ทัน ชนเข้าแผ่นหลังคนตรงหน้าอย่างจัง ไม่คิดว่าเขาจะหยุดเดินเอาดื้อๆ แบบนั้น
"ซุ่มซ่าม"
ขวัญเอยรีบถอยตัวห่างออกมา แต่แล้วก็ต้องรีบก้าวเท้าอีกครั้งตามเขาขึ้นรถ
คนอะไรขายาวเดินเร็ว
"อาทิตย์หน้ามีงานเลี้ยงบ้านคุณปรีชา ทำตัวให้ว่างไว้ด้วย"
"คะ"
"ฟังที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือไง"
เพราะน้ำเสียงที่เธอขานรับเมื่อครู่ มันคล้ายเป็นคำถามเสียมากกว่า คำถามถัดมาของเกื้อจึงเสียงเข้มขึ้นอีกไม่น้อย
"ค่ะ"