ตอนที่ 1 แต่งงาน 1
ปัง !!!
เสียงประตูคอนโดบนชั้นสูงสุดของตึกถูกกระแทกปิดเสียงดังจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของห้องชุดสุดหรูแห่งนี้
เธอได้แต่มองตามแผ่นหลังของผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งเดินพ้นหายไปหน้าประตูใหญ่ ไหล่กว้างภายใต้ชุดสูทสีเข้มแม้จะมองแค่ด้านหลังเขาก็ยังดูมีเสน่ห์เหลือร้าย และแน่นอนว่าใบหน้าหล่อคมเข้มนั้นมันน่าดึงดูดสายตาเพียงใด ถ้าเพียงเขาจะยิ้มให้เธอสักนิด
ขวัญเอย สะดุ้งสุดตัวตอนที่เขากระแทกประตูห้องปิดลงคล้ายไม่พอใจอะไรสักอย่าง
เมื่อประตูห้องปิดลงแล้ว เธอก็ได้แต่นั่งบื้ออยู่ที่โซฟาอย่างไม่รู้ว่าจะขยับเดินไปทางไหน มีเพียงประโยคเดียวที่เขาทิ้งไว้ให้ก่อนออกไป
"ห้องนอนฉันอยู่บนชั้นลอย ส่วนเธอจะนอนห้องไหนก็เลือกเอาแล้วกัน"
ขวัญเอยกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องกว้างภายในเพนต์เฮาส์ไม่รู้ว่ามันมีกี่ห้อง แต่ก็เลือกจะไม่แตะต้องก้าวก่ายไปทางบันไดวนที่จะขึ้นไปชั้นลอยด้านบนนั่นเด็ดขาด
เมื่อแน่ใจว่าเจ้าของห้องจะไม่กลับเข้ามาอีก แม้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแต่งงานคืนแรกก็ตาม
เธอจึงตัดสินใจเดินสำรวจไปตามห้องที่ถูกปิดประตูอยู่เพราะเขาเป็นคนบอกให้เธอเลือกเอง
แม้อยากจะเลือกห้องที่ทำเลห่างไกลจากบันไดวนขึ้นชั้นลอยแต่ห้องสำหรับแขกที่อยู่ใกล้ห้องนั่งเล่นอาจจะทำให้เธอดูรกหูรกตาเขาได้ ขวัญเอยตัดสินใจเลือกห้องนอนอีกห้องที่อยู่ใต้ชั้นลอย และเหมือนเธอจะเลือกมันได้ถูกเสียด้วย เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปเธอก็เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองที่คนขับรถเขาเพิ่งจะยกขึ้นมาให้เมื่อครู่ก่อนหน้าเธอจะมาถึง
ชุดราตรีสั้นสีขาวแบบเรียบหรู ถูกแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เพราะมันสวยเกินกว่าที่จะลงไปอยู่ในตะกร้าผ้าใช้แล้ว และด้วยแบรนด์ของมันก็คงจะราคาหลายหมื่น
ขวัญเอยมองชุดที่ถูกใช้เป็นชุดแต่งงานในวันนี้ ก่อนจะยิ้มหยันให้มันเบาๆ แม้จะสวยแต่ก็เหมือนไร้ค่า
เดิมทีเธอก็ไม่ได้คิดหรือเตรียมใจมาสักนิดว่าจะได้รับการกระทำแบบนี้จากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีหมาดๆ ของตัวเอง แม้เราทั้งคู่จะยังไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
ตั้งแต่ช่วงสายที่งานแต่งงานแบบเรียบง่ายหรือจะเรียกว่ามักง่ายเธอก็เริ่มไม่แน่ใจ เพราะเพียงอาทิตย์เดียวที่รับรู้ว่าต้องแต่งงานกับลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวมงคล อาทิตย์ถัดมาทุกอย่างก็เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
ชุดเจ้าสาวที่ถูกส่งมาให้ดีหน่อยที่มันเป็นแบบมีสายรัดที่เอวไม่อย่างนั้นมันคงจะไม่พอดีตัวนัก แหวนแต่งงานถ้าแม่เธอไม่มาถามว่าใส่ไซซ์อะไรตอนสวมแหวนในวันนี้อาจจะต้องยัดกันนิ้วถลอกแดงทีเดียวหรืออาจจะหลวมจนหัวเพชรเม็ดโตหมุนได้รอบนิ้ว สุดท้ายแหวนเพชรเม็ดใหญ่ก็ถูกโยนใส่ลิ้นชักหัวเตียงทิ้งไว้อย่างนั้น
การถูกมัดมือชกในครั้งนี้เธอแทบไม่มีโอกาสโต้เถียง รับรู้เพียงว่างานของพ่อต้องพึ่งพาเจ้าสัวท่าน แต่เธอก็ยังนึกไม่ออกว่าอธิบดีระดับกรมใหญ่ของกระทรวงอย่างพ่อเธอจะต้องพึ่งพาท่านเจ้าสัวในเรื่องใด นอกจากสินสอดกว่าสิบล้านที่ใส่พานมาวางให้ตรงหน้า
พิธีแต่งงานไร้ซึ่งแขกเหรื่อหรือแม้แต่ญาติสนิทที่นับถือ นอกจากพ่อฝ่ายเจ้าบ่าวก็มีเพียงพ่อและแม่ของเธอเท่านั้น แหวนเพชรเม็ดโตถูกสวมเข้านิ้ว ก่อนที่เธอและเขาจะจับปากกาจรดลายเซ็นลงบนใบสำคัญการสมรส พร้อมใบหน้าบึ้งตึงของเจ้าบ่าวที่เธอเพิ่งจะเห็นหน้าเขาครั้งแรกก็วันนี้
เกื้อ โชติวรพงษ์ เขาเองก็คงอยู่ในสถานะที่พูดไม่ได้เหมือนเธอ เพราะใบหน้าที่บอกบุญไม่รับตลอดทั้งงาน หรือแม้แต่ตลอดทางบนรถตู้คันหรูที่พาเธอกลับมายังเพนต์เฮาส์แห่งนี้ เธอก็ยังไม่ได้เห็นรอยยิ้มเขาสักนิด คำพูดเดียวที่เธอได้ยินจากปากเขาก็ตอนก่อนที่เขาจะหายออกไปจากห้องนั่นแหละ
ขวัญเอยรื้อเสื้อผ้าจากในกระเป๋าแขวนเข้าตู้เรียบร้อย จัดการกับของจุกจิกต่างๆ อีกเล็กน้อย ในช่วงเย็นของวันแต่งงานก็ดูท่าว่าไม่รู้จะทำอะไรต่อจากนั้น และเมื่อการต้อนรับจากเจ้าของห้องดูไม่เป็นมิตรเธอก็ยิ่งไม่อยากวุ่นวายกับของเขาสักเท่าไร
อาหารเย็นสำหรับคืนแต่งงานแรกเธอจึงเลือกที่จะขับรถไกลอีกนิดออกไปที่สวนอาหารกลางกรุงบรรยากาศร่มรื่นร้านประจำที่เธอมักจะมานั่งจิบเบียร์ฟังเพลงบรรเลงสดจากเครื่องดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้น