ตอนที่ 1 แต่งงาน 2
"สำหรับบทเพลงถัดไป ขอมอบให้กับคนโสดทุกคนครับ ใครที่กำลังอกหักเสียใจ หวยไม่ถูกแต่อย่างน้อยวันนี้คุณก็ยังยิ้มได้ ยิ้มนะครับ"
เสียงเพลงในจังหวะช้าๆ ดังขึ้น บทเพลงฟังสบายๆ กับเสียงกีตาร์เพราะๆ มันช่วยชโลมจิตใจเธอขึ้นได้ก็ตอนนี้ ขวัญเอยวางแก้วเบียร์ลงแล้วหันไปที่หน้าเวทีของสระน้ำใหญ่ฝั่งตรงข้าม และก็เป็นจังหวะเดียวกับนักร้องชายรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าดีทีเดียวคนนั้นส่งยิ้มมาถึงเธอ
รอยยิ้มแรกของวันจึงเกิดขึ้นได้อย่างง่ายๆ ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความสุขและยิ้มมันออกมาได้ตลอดทั้งวัน
แต่ไม่ใช่เธอ และก็คงไม่ใช่เขา
ขวัญเอยหยิบแก้วเบียร์ขึ้นอีกครั้งยกชูน้อยๆ เป็นเชิงทักทายกับกลุ่มนักดนตรีแน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าประจำจนคุ้นหน้าคุ้นตาและก็เคยทักทายพูดคุยกันอยู่บ่อยครั้ง
"เนี่ยหรือร้านที่มึงว่าดี ให้กูมานั่งดูนักดนตรีหลีลูกค้าเนี่ยนะ"
เกื้อกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่ เสียงเพลงเพราะๆ นั่นก็ดีอยู่หรอกแต่ไอ้สายตาเจ้าชู้ยิ้มจนเกินหน้าเกินตานั่นก็ทำเขาหงุดหงิดเสียอารมณ์ไม่น้อย แม้ไม่อยากมองแต่ไอ้มุมที่เขานั่งอยู่สายตามันก็เสือกหันไปหน้าเวทีริมสระน้ำฝั่งตรงข้ามเสียด้วย
"มึงยังไม่เลิกหงุดหงิดอีกหรือไงวะไอ้เกื้อ มึงทุกข์แล้วเสือกเห็นคนอื่นมีความสุขไม่ได้หรือไง ว่าแต่...ผู้หญิงคนนั้นก็สวยฉิบหายเลยมึงดูสิ ดูสวยหวานๆ แต่โคตรเซ็กซี่ มาคนเดียวด้วยถึงว่าไอ้นักร้องนั่นแม่งมองอยู่ตลอด"
อิฐเอ่ยขึ้นเมื่อหันสายตาไปตามนักร้องหนุ่มหน้าหล่อ จึงได้เห็นหญิงสาวที่ถูกมองนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว แม้จะเป็นด้านข้างก็ยังดูรู้ว่าเธอสวยเก๋ขนาดไหน จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มที่ถูกเคลือบสีส้มอ่อนๆ ยิ่งยามเธอขยับริมฝีปากเบาๆ คลอเสียงเพลงไปตามนักร้องมันช่างน่าดูไม่น้อย
เกื้อไม่ได้คิดจะสนใจคนรอบข้าง แต่เพราะสายตาไอ้อิฐในตอนนี้แทบจะไม่ต่างจากไอ้นักร้องฝั่งโน้นสักนิด เขาจึงเผลอเหลือบสายตาไปตามมัน
อิฐหันมามองหน้าคนที่ทำเสียงหึอยู่ในลำคอเบาๆ จึงได้ทันเห็นสีหน้าเย้ยหยันมองไปถึงหญิงสาวสวยโต๊ะริมด้านใน
"สวยขนาดนี้มึงยังทำเสียงอย่างกับเขาไม่สวยเนี่ยนะ"
"สวยตายห่าล่ะ"
"ใครจะสวยเท่าเจนิสของมึงล่ะ"
พลั้งปากไปแล้วอิฐก็แทบจะไม่กล้าหันไปมองหน้าคนหงุดหงิด ยิ่งตอนที่มันวางแก้วเบียร์ลงกระทบพื้นโต๊ะเสียงดัง
"เออๆ โทษทีว่ะ ก็คนมันลืมตัวโว้ย"
เกื้อไม่ตอบได้แต่ส่งสายตาเขียวๆ ให้เพื่อนรัก อิฐจึงได้แต่รีบเปลี่ยนเรื่อง เมื่อพลั้งเผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา
"แล้วนี่มึงไม่ต้องกลับไปเข้าหอหรือวะ ป่านนี้เจ้าสาวมึงไม่ชะเง้อคอเป็นยีราฟแล้วหรือ"
เสียงในลำคอของเกื้อดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหันสายตาไปทางเจ้าสาวของตัวเองที่นั่งอยู่โต๊ะด้านใน
"ไม่ต้อง"
"กูเข้าใจมึงนะที่ถูกพ่อมึงมัดมือชกแบบนั้น แต่กูก็ไม่อยากเห็นเพื่อนมานั่งเครียดแบบนี้ว่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงมั่งวะ แบบว่าสวยหรือเปล่า ถ้าสวยเท่าผู้หญิงคนนั้นเป็นกูจะยอมเป็นผัวที่ดีเลย กูเข้าไปจีบเธอดีไหมวะ กูชักเริ่มจะเชื่อเรื่องรักแรกพบแล้วว่ะ"
อิฐก็ยังไม่ยอมละสายตาจากหญิงสาวคนนั้นแม้บทเพลงช้าๆ ซึ้งๆ จะจบลงแล้ว คำพูดที่พูดคล้ายปลอบใจเพื่อนหรือคำถามที่อยู่ในนั้นก็ไม่ได้คิดอยากจะได้คำตอบ
"ถ้าผู้หญิงคนนั้นสวย เจ้าสาวกูก็คงจะสวยล่ะมั้ง"
"ยังไงของมึง"
ทีแรกอิฐก็ยังไม่เข้าใจนักแต่เมื่อมองหน้าเพื่อน สายตาคมที่ยังจ้องมองไปถึงผู้หญิงคนนั้นก็ทำให้อิฐถึงกับเกิดข้อสงสัยขึ้นมา
"อย่าบอกนะว่า..."
รอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของเพื่อนแม้จะเป็นรอยยิ้มหยัน แต่ก็ทำให้อิฐถึงกับอ้าปากค้างหันสายตากลับไปมองเธออีกครั้ง และครั้งนี้ก็ยิ่งทำให้อิฐถึงกับตาโต เพราะมัวแต่คุยกับมันจนไม่ทันได้สังเกตว่านักร้องบนเวทีเล็กๆ ตรงนั้นถูกเปลี่ยนคนร้องแล้ว และไอ้หนุ่มเสียงดีเมื่อครู่บนเวทีนั่นก็กำลังเดินมาที่โต๊ะเธอ
"เฮ้ย จริงดิ"
"อืม"
"เหี้ย สวยขนาดนี้มึงยังเสือกมานั่งเครียดที่ถูกจับแต่งงาน กูว่ามึงควรเครียดที่เมียมึงกำลังถูกไอ้ห่านั่นจีบมากกว่า"
"ก็ดี กูจะได้มีข้ออ้างฟ้องหย่า"
อิฐอ้าปากค้างอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าเพื่อนไม่เต็มใจกับงานแต่งชนิดที่ไม่เชิญแขกสักคน แม้แต่เพื่อน แต่เมื่อเห็นหน้าเจ้าสาวของมันในวันนี้ก็อดที่จะสงสารเธอคนนั้นขึ้นมาไม่ได้
ต้องมาเจอกับคนอย่างไอ้เกื้อเสียด้วย
คิดแล้วก็เหนื่อยใจแทน