ตอนที่ 7
ตอนที่ 7
“แล้วเอ็งมัวยืนทำอะไรอยู่ รีบลงมาทำงานต่อสิ”
“ไปแล้วป้า” อ้อยขานรับแล้วก็รีบเดินลงมา แล้วฉุดแขนป้าหงส์เอาไว้ เพราะมีเรื่องจะถาม
“อะไรของเอ็งนังอ้อย มาดึงแขนข้าไว้ทำไม ข้าจะรีบไปจัดอาหารขึ้นโต๊ะให้นายหัวกับคุณเกรซ”
“ฉันมีเรื่องสงสัยจะถามป้า”
“เรื่องอะไรของเอ็ง” ป้าหงส์ถามกลับอย่างรำคาญ
“ก็คุณเกรซสิป้า หิ้วกระเป๋าออกมาด้วย ทั้งที่นายหัวเพิ่งให้คนไปเอามาให้ แล้วเมื่อครู่หนูสังเกตดูหน้าตาคุณเกรซ หน้าตาคุณเกรซดูไม่ดีใจเลยที่จะได้แต่งงานกับนายหัวของพวกเรา”
“อยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่องเลยนะแก ไป! ไปทำงานได้แล้ว” ป้าหงส์มอบมะเหงกให้หนึ่งที ก่อนจะไล่ให้เด็กสาวไปทำงาน แต่ก็ใช่ว่าตัวเองจะไม่สังเกต เพราะว่าที่เจ้าสาวของนายหัวดูเครียดๆ ไม่เหมือนว่าที่เจ้าสาวอย่างที่ตัวเองเคยเห็น ที่แต่ละรายสีหน้าดูมีความสุขกันทั้งนั้น ช่างผิดกับว่าที่เจ้าสาวของนายหัว
*************************
ก๊อกๆ
หลังจากยืนทำใจอยู่ครู่หนึ่งตั้งแต่มาถึงห้องทำงาน พรรษกรก็เคาะห้องบอกกล่าวเจ้าของห้อง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเมื่อเจ้าของห้องอนุญาต
“คุณเองเหรอยาหยี” ภคิน กิตินันท์ หรือ นายหัวคิน ทักทายว่าที่เจ้าสาวทั้งที่ตอนแรกคิดว่าเป็นสาวใช้ ก่อนที่สายตาคู่คมจะมองไปยังกระเป๋าที่เจ้าตัวถือมาด้วย เห็นแล้วก็สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถาม เพราะเดาได้ว่าเจ้าตัวคงกำลังจะไปจากที่นี่
พรรษกรชักสีหน้าเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเรียกเธอแบบนั้น ก่อนจะเดินไปเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่งโดยไม่รอให้เจ้าของห้องกล่าวเชิญ
“มาหาผมถึงที่นี่ มีอะไรกับผมเหรอ”
“ฉันต้องการคุยเรื่องแต่งงานค่ะ”
“ที่คุณมารอผมทั้งวันทั้งคืน เพราะเรื่องนี้งั้นเหรอยาหยี”
“ค่ะ”
ภคินพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้ สายตาก็จับจ้องไปยังว่าที่เจ้าสาว ที่เห็นตัวเป็นๆ แบบนี้แล้วเขาก็ยิ่งพอใจ
“ฉันไม่อยากแต่งงานกับคุณ” พรรษกรเปิดฉากคุยอย่างตรงไปตรงมา เมื่ออีกคนเอาแต่จับจ้องเธอ
“แต่ผมอยากแต่งกับคุณนะยาหยี”
“อย่ามาเรียกฉันแบบนี้” คนทนฟังคำว่ายาหยีไม่ได้โต้กลับทันควัน
“ทำไมจะเรียกไม่ได้ ในเมื่อคุณเป็นยอดยาหยีของผม”
“ฉันไม่ใช่ยอดยาหยีของคุณ กรุณาอย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของพรรษกรบอกชัดว่าไม่พอใจ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่สน
“ขอเหตุผลได้ไหมยาหยี”
“ฉันไม่ชอบ”
“แต่เรียกไปบ่อยๆ คุณอาจชอบ”
พรรษกรเริ่มหงุดหงิดกับน้ำเสียงและท่าทางกวนโมโหของเขาเหลือเกิน แต่จำต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้ แล้วพูดเรื่องสำคัญ เพราะเธออยากคุยให้จบ แล้วจะได้ไปจากที่นี่
“ฉันว่าเรามาคุยเรื่องแต่งงานกันต่อดีกว่าค่ะ”
“ผมบอกไปแล้วว่าผมอยากแต่งงานกับคุณ”
“แต่ฉันไม่อยากแต่งงานกับคุณ แล้วที่ฉันมาที่นี่ ฉันมาขอเจรจากับคุณเรื่องเงินที่คุณช่วยเหลือครอบครัวของฉัน ฉันขอผ่อนจ่ายเป็นเดือนแทนการแต่งงานกับคุณได้หรือเปล่าคะ”
“แล้วถ้าผมบอกไม่ได้ คุณจะทำยังไง”
“ฉันก็จะขอร้องคุณไปเรื่อยๆ”
“ผมว่าอย่าเสียเวลาเลยดีกว่า เพราะจำนวนเงินที่ผมเอาไปช่วยพยุงธุรกิจของพ่อคุณ มันไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยนะยาหยี แล้วถ้าผมยอมทำตามที่คุณขอ ผมไม่ต้องรอยันลูกโตเลยหรือไง กว่าจะได้เงินครบทุกบาททุกสตางค์”
พรรษกรฟังแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าเธอไม่เคยสอบถามบิดาเลยว่าตอนนี้บิดาเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่
“ฉันขอทราบได้ไหมว่าจำนวนเงินที่คุณให้คุณพ่อของฉันไป เท่าไหร่”
“คุณลุงไม่ได้บอกคุณเลยเหรอยาหยี”
พรรษกรส่ายหน้าช้าๆ
“ผมเพิ่งให้คุณลุงไปเก้าสิบล้าน แต่นั่นเป็นเพียงเงินก้อนแรกเท่านั้น เพราะดูเหมือนธุรกิจของคุณลุงอยู่ในขั้นวิกฤติ คงต้องใช้เงินอีกมาก แต่ไม่ว่าเท่าไหร่ผมก็ยินดีจ่ายให้ เพื่อคุณเลยนะยาหยี”
“เก้าสิบล้าน!” พรรษกรลมแทบจับเมื่อรู้จำนวนเงิน แล้วที่สำคัญนั่นเป็นแค่เงินก้อนแรกเท่านั้น
“ใช่แล้วยาหยี แต่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ถ้าคุณทำตามที่ผมยื่นข้อเสนอไป”
“เงินนั่นคงเป็นค่าตัวฉันสินะ”
“สินสอดต่างหากยาหยี แต่ผมว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้แล้วออกไปกินอาหารเช้ากันดีกว่า ป้าหงส์คงจัดไว้รอเรียบร้อยแล้ว” นายหัวหนุ่มลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินอ้อมออกมา และเดินมาฉุดมือเล็กให้ลุกขึ้น แต่พรรษกรดึงมือออกแล้วหันไปคว้ากระเป๋าที่วางไว้ข้างเก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง
