บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 สติ๊กเกอร์สีนีออน (1)

บทที่ 4

สติ๊กเกอร์สีนีออน (1)

เสียงสัญญาณจากประตูอัตโนมัติเป็นเหมือนโปรแกรมคำสั่งให้พนักงานหลังเคาน์เตอร์ขานต้อนรับลูกค้า พระแพงที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของร้านย่อมทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ก็ไม่คิดว่าคนที่เดินผ่านประตูและมาหยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์ประจำจะเป็นพี่ชายของตัวเอง

“พี่รุต” เสียงเล็กเอ่ยเบาบางด้วยความตกใจ แต่ก็รับรู้ได้ทันทีว่าการที่พี่ชายมาหากันแบบนี้คงต้องมีเรื่องสำคัญแน่

“ออกไปคุยกับพี่หน่อยสิ ใกล้พักหรือยัง”

หญิงสาวไม่ได้ตอบแต่ก้มมองนาฬิกาบนข้อมูลเพื่อดูเวลา เหลืออีกเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาพักของเธอ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในช่วงลูกค้าเข้าพีค ๆ เลยคิดว่าน่าจะขอปลีกตัวออกมาคุยกับพี่ชายได้

พระแพงเดินนำมารุตออกไปด้านนอกตัวร้าน เลือกสถานที่คุยที่คิดว่ามีคนเดินผ่านน้อยที่สุด ดูจากความร้อนใจที่พี่ชายมาหากันในเวลาแบบนี้คงไม่พ้นเรื่องคืนนั้นที่เธอบังเอิญเข้าไปเห็นเหตุการณ์แน่นอน

“มีอะไรก็พูดมา” เปิดประโยคถามก่อนและสุดท้ายก็ทนไม่ไหวส่งคำถามก่อนที่พี่ชายจะอ้าปากพูดเสียอีก “พี่รุตทำงานอะไรกันแน่”

พระแพงกดสายตามองพี่ชายที่อยู่ในความเรียบนิ่งทว่าสะท้อนถึงความเครียด เป็นพี่น้องกันมาทำไมจะไม่รู้ว่าท่าทางแบบนี้ สีหน้าแบบนี้บ่งบอกถึงความรู้สึกแบบไหน เรื่องคืนนั้นเธอตั้งใจที่จะไม่พูดมันขึ้นมาเพราะยังจับจุดและปรับประมวลไม่ได้ พอผ่านมาสองวันก็เพิ่งตกตะกอนและคิดว่าต้องถามออกไปให้รู้แล้วรู้รอดว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“พี่รุตจะฆ่าเขาเหรอ นี่ถ้าแพงเข้าไปห้ามไม่ทันพี่คงฆ่าเขาตายไปแล้ว” ในเมื่อพี่ชายยังเงียบก็เลือกที่จะส่งคำถามต่อ มันเป็นประโยคตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม เธอควรได้รู้อาชีพที่แท้จริงของพี่ชายสักทีว่าเขาทำอะไรกันแน่

คืนนั้นเธอออกจากบ้านขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปรับพี่ชายที่ร้านสังสรรค์ตามคำสั่ง ไปจอดรออยู่ด้านหลังซึ่งเป็นทางเข้าออกสำหรับพนักงาน แต่ใครจะไปคิดว่าจะเห็นพี่ชายตัวเองกำลังง้างมีดหมายจะพรากชีวิตของคนคนหนึ่ง

ตอนนั้นเธอเห็นแผ่นหลังไว ๆ แม้จะเห็นไกล ๆ แต่ก็จำได้ว่านั่นคือพี่ชาย เธอเลยเดินตามไปเพราะคิดว่าเขาไม่เห็น กระทั่งพบว่าพี่ชายตัวเองกำลังต่อสู้อยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง พี่เธอมีทั้งมีดและปืน ส่วนอีกคนมามือเปล่าแถมยังเจ็บหนัก เธอไม่รู้ว่าทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร แต่ดูจากเจตนาของพี่ชายที่ตั้งใจจะฆ่าให้ตายทำให้เธออยู่เฉยไม่ได้

“ก็มันแส่ไม่เข้าเรื่อง!” มารุตกดเสียงต่ำหวนนึกไปถึงเหตุการณ์คืนนั้น หากน้องสาวเขาไม่เข้ามาห้ามก็คงกำจัดคนรนหาที่ตายให้สิ้นซากไปแล้ว วงการนี้หากไม่แข็งจริงก็ต้องมีจุดจบด้วยความตายเท่านั้น

“พี่ทำงานอะไรกันแน่ ไหนบอกเป็นบาร์เทนเดอร์ไง แล้วที่แพงเห็นในคืนนั้นที่พี่ถือปืนถือมีดมันคืออะไร พี่ทำงานให้ใคร” ถามในสิ่งที่อยากรู้ที่สุด เธอปิดหูปิดตากับอาชีพของพี่ชายมานานหลายปี แต่วันนี้เธอคงทำแบบนั้นอีกไม่ได้แล้ว

มารุตบอกกับเธอแค่ว่าเขาจะต้องไปทำงาน กว่าจะกลับทีก็หายไปเกือบอาทิตย์ เธอระแคะระคายว่าพี่ชายอาจทำงานที่ไม่สุจริต แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเพราะไม่อยากปรักปรำโยนมลทินให้ใคร

ทว่าภาพในค่ำคืนนั้นเป็นเหมือนคำยืนยันไขความสงสัยทุกอย่าง เธอไม่รู้หรอกว่างานที่ไม่สุจริตของพี่ชายนั้นคืออะไร แต่การฆ่าคนและใช้กำลังแบบนั้นย่อมอนุมานได้ง่าย ๆ ว่าเป็นงานสกปรก

“แกไม่ต้องรู้หรอก มันเป็นงานของพี่ แกไม่ต้องมายุ่ง”

“จะไม่ให้ยุ่งได้ไง มันเป็นงานสกปรกนะพี่รุต ถ้าเกิดพี่ถูกตำรวจจับขึ้นมาจะทำยังไง” หากให้เดาคนที่พี่ชายเธอกำลังจะฆ่าในคืนนั้นคงเป็นสายให้ตำรวจ เพราะหลังจากที่พี่ชายดึงตัวเธอออกมาเขาก็พาเธอหนีทันที และหลังจากนั้นไม่กี่นาทีนายตำรวจหลายรายก็เข้าล้อมพื้นที่

“ไม่ถูกจับง่าย ๆ หรอก นายพี่เขาไม่ธรรมดา อำนาจเขามีล้นฟ้า พวกตำรวจยศใหญ่ก็เป็นพวกเขาทั้งนั้น แต่คนนั้นมันเป็นพวกนอกคอก เสนอหน้าอยากทำผลงาน แล้วก็โง่ถูกปั่นหัว มันก็แค่ตำรวจธรรมดา นายพี่ไม่โดนจับง่าย ๆ หรอก”

เหตุการณ์คืนนั้นเป็นเหมือนการถ่ายละครฉากหนึ่งเสียมากกว่า คืนนั้นเป็นคืนส่งของล็อตใหญ่ให้กับลูกค้า แต่สายก็รายงานมาว่าจะมีตำรวจมาดักซุ่มและล้อมจับ นั่นจึงทำให้มารุตและคนอื่น ๆ ต้องเล่นละครตบตาและปั่นหัวหลอกฆ่า ในขณะที่การส่งของล็อตใหญ่เกิดขึ้นอีกสถานที่หนึ่ง และก็เสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยมีนายตำรวจยศสูงช่วยเคลียร์ทางให้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel