บทที่ 2 สายลับ (3)
บทที่ 2
สายลับ (3)
หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในตอนนี้นอกจากจะต้องเล่นละครทำทีว่าเป็นลูกค้าร่ำรวยแล้วก็ยังต้องรับบทเป็นสายสืบให้ตำรวจคอยสอดส่องพิรุธของคนในร้าน จากการรายงานรู้มาว่าเจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่จะใช้ที่แห่งนี้เป็นที่นัดรับของ มันเป็นสถานบันเทิงที่คนพลุกพล่านและไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่ในมุมมองของตำรวจและคนที่คลุกคลีอยู่กับการหาข้อมูลย่อมรู้ดีว่านี่เป็นสถานที่ส่งของชั้นดี
ที่ที่อันตรายที่สุดอาจเป็นที่ปลอดภัยที่สุด ผู้คนมากมายเลือกที่จะมาหาความสุขและความสนุก ไม่มีใครสังเกตหรอกว่าอีกฟากหนึ่งกำลังใช้มันเป็นที่ส่งยานรก
ร่างสูงใหญ่หยัดขึ้นจากโซฟาและเดินเข้าไปที่โซนบาร์เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีอะไรน่าสงสัย ในเมื่อสายรายงานมาว่าลูกค้านัดรับยาใกล้จะเดินทางมาถึงแล้ว แต่ทำไมคนของ ‘ตัวการ’ ถึงยังเพิกเฉยอยู่
นอกจากที่นี่จะมีพนักงาน แม่เล้า และเด็กเอ็น ก็ยังมีชายชุดดำซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าพ่อค้ายาที่คอยดูแลความเรียบร้อย ทว่าตอนนี้ทำเพียงยืนดูสถานการณ์ภายในร้านเฉย ๆ ทั้งที่ความเป็นจริงควรจะวิ่งวุ่นออกไปเตรียมการเคลียร์ทางเสียมากกว่า
“รับอะไรดีครับ” เสียงทุ้มต่ำของคนหลังบาร์เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
คนที่เพิ่งเดินมาดูลาดเลาก็ถึงกับต้องวกความสนใจกลับมาเพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ
“โมจิโต” ตอบส่ง ๆ และทิ้งตัวนั่งบนสตูล แสร้งกวาดตามองความสวยงามของร้านและขวดเหล้าที่วางเรียงราย จากนั้นก็หันกลับมายังเครื่องดื่มของตัวเองที่กำลังถูกรังสรรค์จากคนตรงหน้า
“ไม่เรียกเด็กมาดูแลสักคนล่ะครับเสี่ย” บาร์เทนเดอร์หนุ่มพูดยิ้ม ๆ ขณะหมุนควงจังหวะข้อมือด้วยลีลาการทำเครื่องดื่มอย่างชำนาญ นอกจากหน้าที่ทำตามคำสั่งแล้วอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดก็คือเชียร์ขายกับลูกค้า ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการแนะนำเด็กสวย ๆ มานั่งบริการข้างกาย
คนถูกถามตากระตุกนิด ๆ ทรงอย่างเขาห่างไกลกับคำว่าเสี่ยมาก แต่พอเคลื่อนมือมาจับที่ใบหน้าก็เลิกกังขา เพราะไอ้หนวดหนา ๆ ที่แปะกาวอยู่เหนือริมฝีปากคงเพิ่มวัยได้เป็นสิบปี
ไอ้ห่า...เลือกชุดแก่กับประโคมทองเหลืองอร่ามไม่พอ แม่งยังแปะหนวดเพิ่มอายุให้กูอีก!
“เลือกไม่ถูก สวย ๆ ทั้งนั้น” เสียงเข้มเอ่ยปนขำ ซึ่งก็เป็นจังหวะที่เครื่องดื่มถูกเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าพอดี
เขาหยิบมันขึ้นมาจิบดื่มเล็กน้อย แล้วก็ต้องตะลึงกับรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนกับที่เคยลิ้มลอง ปกติเครื่องดื่มค็อกเทลก็แทบไม่ค่อยแตะอยู่แล้วส่วนมากก็กระดกเหล้าเพียว ๆ หรือไม่ก็ซัดยาดองเวลาตั้งวงสังสรรค์ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยรู้รส มันอร่อยและแตกต่าง จนอดพยักหน้าชื่นชมให้กับคนทำไม่ได้
“รสชาติดี”
“ขอบคุณครับเสี่ย” เมื่อได้รับคำชมก็ค้อมศีรษะลง จังหวะนั้นเพื่อนในตำแหน่งเดียวกันเดินเข้ามาสะกิดเรียกและพูดกระซิบบางอย่าง ใบหน้ายินดีจากคำชมเชยถูกเปลี่ยนกลับเป็นเรียบนิ่งทันตา และการกระทำเหล่านั้นล้วนอยู่ในสายตาของนักแสดงหน้าบาร์ทองทั้งหมด
“ไอ้รุต ได้เวลาแล้ว”
“อืม”
ครั้นอีกฝ่ายหันกลับมาเขาก็จำต้องเล่นละครในฐานะเสี่ยผู้ร่ำรวย แม้ว่าตอนนี้จะจับพิรุธอีกหนึ่งอย่างได้จากบาร์เทนเดอร์คนนี้
“ตามสบายนะครับ ได้เวลาเลิกงานของผมแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นอีกคนที่มาทำเครื่องดื่มแทน เอ็นจอยนะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มยิ้มและค้อมศีรษะลง จากนั้นก็หันหลังไปเก็บอุปกรณ์ทำเครื่องดื่ม หยิบจับอะไรบางอย่างแถวถังน้ำแข็ง กระทั่งหยิบกล่องขนาดพอดีออกมาซึ่งไม่น่าจะถูกเก็บไว้ในถังนั้นตั้งแต่แรก
ดวงตาของศตวรรษวาววับเพ่งมองถึงของด้านใน เขาพยายามยืดตัวนั่งหลังตรงเพื่อให้องศากล้องที่ซ่อนไว้จับภาพได้ชัดเจนและอยากให้ช่วยยืนยันว่ารู้สึกเหมือนกันหรือไม่
เตวินทร์สารวัตรไฟแรงควบคุมอยู่ในรถตู้คอยดูสถานการณ์ และเป็นผู้บงการฉากละครเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
บาร์เทนเดอร์หนุ่มกำลังเดินออกไปแล้ว ออกไปพร้อมกับกล่องสี่เหลี่ยมที่เพิ่งหยิบมาจากถังน้ำแข็ง ความร้อนใจเกิดขึ้นจนผุดตัวลุกยืนหยุดการแสดงไปชั่วขณะ ไม่แน่ว่าบาร์เทนเดอร์คนนี้อาจจะได้รับมอบหมายให้มีส่วนในการส่งยา แม้ว่าปกติแล้วจะเป็นชายชุดดำซึ่งเป็นผู้ติดตามของตัวการใหญ่ ทว่าสถานการณ์ย่อมพลิกแพลงได้ทั้งนั้น เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ผลุนผลันรีบก้าวเดินตามออกไปทันที
“ไอ้เต กูสงสัยไอ้บาร์คนนั้น” ศตวรรษกรอกเสียงกับเครื่องมือสื่อสารขณะที่ขาสองข้างก็รีบเดินตามออกไป
แรงสั่นครืดจากโทรศัพท์เกิดขึ้นต่อเนื่องที่คาดเดาได้ง่าย ๆ ว่าน่าจะมาจากคนที่เฝ้าการสนทนา หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้หยิบมันขึ้นมาเพราะกำลังลนลานร้อนใจกับท่าทางบาร์เทนเดอร์คนนั้น
“เดินไปไหนวะ” ศตวรรษพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นว่าคนถูกตามเดินออกไปนอกร้าน
