บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ใจแตก (1)

บทที่ 1 ใจแตก (1)

บรรยากาศในตลาดเวลาตีสามครึกครื้นไปด้วยผู้คนไม่ว่าจะเป็นเหล่าแม่ค้า พ่อค้า และลูกค้าที่ออกมาจับจ่าย ทั้งที่ฟ้ายังมืดสนิท

เวลานี้ของใครหลายคนอาจจะใช้สำหรับการดื่มด่ำในห้วงนิทราบนเตียงหรือฟูกนอน ทว่าสำหรับพระแพงแล้วมันคือการเริ่มต้นทำงานต่างหาก

“วางตรงนี้เลยจ้ะพี่ อย่าโยนแรงน้า เดี๋ยวผักช้ำแล้วขายไม่ออก” เสียงเล็กเอ่ยทั้งรอยยิ้มให้กับพี่หุ่นล่ำที่แบกกระสอบผักเหวี่ยงลงมายังพื้น ที่ถูกปูด้วยแผ่นพลาสติก เธอจัดเตรียมที่ทางให้กับคนขนผักเรียบร้อย กลัวมันจะกระทบกับผักชนิดอื่นที่วางกองอยู่ใกล้ ๆ เลยเว้นที่ทางมากพอสมควร รู้ดีว่าคนแบกย่อมหนักอยู่แล้ว ครั้นจะให้ถนอมแรงช่วยวางมันอย่างเบามือก็คงเรื่องมากเกินไป น้ำเสียงหวานและยิ้มละไมจึงเป็นตัวกลางที่ช่วยผ่อนผันได้ดีที่สุด

“ไม่ต้องห่วงคนสวย พี่จะวางไม่ให้ช้ำเลยจ้ะ ขายดิบขายดีนะจ๊ะ” แน่ล่ะว่ายาใจจากการทำงานตรากตรำก็คือความสาวและความสวยของหญิงสาวตรงหน้า ถึงจะรู้ว่ามันคือคำพูดหวังผล แต่จะสนทำไมเพราะมันช่วยชโลมหัวใจให้พองฟูได้นานนับชั่วโมง

แม่ค้าแผงผักฉีกยิ้มจนตาหยี ทอดสายตามองพี่หนุ่มหุ่นล่ำเดินจากไปแล้วถึงเปลี่ยนกลับสีหน้าเป็นปกติ เธอหันตัวไปกระชับผ้าห่มและหยิบชีตเรียนมาพัดไกวให้กับลูกชายวัยสี่ขวบที่หลับปุ๋ยบนที่นอนปิ๊กนิก กดล็อกพัดลมให้อยู่ในจุดของเด็กน้อยเพียงคนเดียว พลางตบตูดกล่อมนอนด้วยความระอาที่บันดาลโชคชะตาได้น่าสมเพชเพียงนี้

หญิงสาวมองลูกชายที่กำลังหลับตาพริ้มผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอ สถานที่แห่งนี้ทั้งร้อนทั้งเหม็นแถมยังเสียงดัง แต่ลูกชายของเธอคงเคยชินเพราะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาเป็นปีเนื่องจากคนเป็นแม่ต้องมารับจ็อบขายผัก

คนต้นทุนต่ำเกิดมาลำบากตรากตรำย่อมไม่มีทางเลือกมากนัก ลำพังแค่ตัวเองก็ไม่ได้คิดว่าชีวิตแบบนี้มันหนักหนาอะไร ตื่นตีหนึ่งเตรียมตัวมาขายผักที่ตลาด พอฟ้าสว่างก็ผลัดผ้ามาอยู่ในชุดทำงานของร้านสะดวกซื้อหรือไม่ก็ร้านอาหารซึ่งเป็นงานพาร์ตไทม์ ตกเย็นรับจ้างรีดผ้าให้กับคนละแวกใกล้ ช่วงดึกบางคืนก็ยังเจียดมาอ่านหนังสือทบทวนตำรา เวลาที่หลงเหลือของห้วงวันก็เอาไว้พักผ่อนซึ่งไม่รู้เลยว่ามันสามารถเรียกว่าพักผ่อนได้หรือเปล่า ตารางการใช้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งวนเวียนแบบนี้มาตลอดหลายปี หากแต่มันไม่เหมาะสมเอาเสียเลยกับเด็กอายุสี่ขวบที่หอบกระเตงตามผู้เป็นแม่แบบนี้ทุกวัน

เด็กชายพระพายตัวติดแม่ไปทุกที่ กินง่าย อยู่ง่าย หลับง่าย แถมยังฉายความสุขให้เห็นตลอด พานทำให้คนมองอย่างเธอเปิดเผยความเหนื่อยล้าให้ลูกเห็นไม่ได้

เธอจะท้อไม่ได้ อนาคตของเด็กคนหนึ่งต้องเติบโตอย่างสวยงามและสมบูรณ์ ที่ทำงานหนักทุกวี่วันก็เพื่อเด็กชายตัวน้อยคนนี้คนเดียวเท่านั้น

“ลูกเอ๊ย...น่าเอ็นดูซะจริง นอนหลับปุ๋ยเลย แพงมาเอาพัดลมจากป้าไปเปิดอีกตัวให้ลูกเถอะ ตัวเดียวคงไม่พอหรอก อากาศในนี้มันร้อน” ป้าขายผักแผงข้าง ๆ ทอดเสียงเวทนาระคนสงสาร ต้องเห็นภาพสองแม่ลูกแบบนี้ทุกวันก็อดเห็นใจไม่ได้

“ไม่เป็นไรจ้ะป้า ขอบคุณนะจ๊ะ” พระแพงยกมือไหว้คนอายุมากกว่า ป้าคนนี้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในตลาดที่ไม่นินทาเธอ

แน่ล่ะว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งหอบกระเตงลูกมาลำบากย่อมต้องตกเป็นขี้ปากของคนที่เห็นผ่านตา สงสารเวทนาก็ส่วนหนึ่ง แต่ลึก ๆ เธอรู้ว่าคนอื่นจับกลุ่มเมาท์เธอเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องอายุในการมีลูก

แม้ว่าพระแพงจะอยู่ในชุดซอมซ่อ ใบหน้าไร้การเติมแต่ง แต่ความเกลี้ยงเกลาตามวัยย่อมทำให้หัวข้อการสนทนาน่าสนใจมากขึ้นเป็นกอง เพียงแค่มองไม่ต้องเอ่ยถามก็รู้แล้วว่าเธอยังอยู่ในวัยเรียนเท่านั้น

ใช่...พระแพงยังเป็นนักศึกษาที่อายุเพียงยี่สิบสองปี หากแต่ตอนนี้เธอมีอีกหนึ่งสถานะที่พ่วงมาก็คือการเป็นแม่ของเด็กชายอายุสี่ขวบ

หัวข้อสนทนาที่ได้ยินผ่านหูมีไม่กี่อย่าง ท้องตั้งแต่สิบเจ็ด ใจแตกแหลกเหลว ผัวทิ้งไม่ไยดี พวกนี้แหละคือหัวข้อที่คนในตลาดเขาเมาท์กัน

หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะฉีกยิ้มปั้นหน้ามีความสุข เธอไม่สนใจลมปากของคนอื่นหรอก คำพวกนั้นไม่ได้ช่วยเสกให้เงินลอยมาหาสักหน่อย

“ผักสด ๆ เลยจ้ะพี่ พี่จ๋ามองหาผักอะไรอยู่จ๊ะ ผักสด ๆ ทางนี้เลยจ้า” นี่แหละคือของจริงที่สามารถเรียกให้เงินเข้ากระเป๋ามาได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel