บทย่อ
“คุณคิดจะบอกเรื่องนี้กับผมเมื่อไหร่!” เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่พิชญะรู้สึกโกรธใครสักคนได้มากมายขนาดนี้แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยเพราะเธอกำลังท้อง และดูเหมือนจะท้องลูกของเขาด้วย “ไม่คิดจะบอกสินะครับ!” ชายหนุ่มตอบแทนเพราะอีกฝ่ายเอานิ่งแต่เงียบ เขาเชื่อในสิ่งที่เห็น พิณรัมภาไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้กับเขาจริงๆ “ท่านประธานคะ…คือว่าฉัน…” “กรุณาเรียกผมว่าหมอก! เพราะผมไม่ได้เป็นท่านประธานของคุณอีกแล้วครับคุณเดือน!” เขาไม่ชอบที่เธอแสดงท่าทีห่างเหินใส่ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงก็เห็นๆ กันอยู่ตรงหน้าว่าเธอกับเขาเป็นมากกว่านั้นหลายเท่า และยิ่งไม่ชอบใจไปกันใหญ่เมื่อเธอเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว “จะอะไรก็ช่างเถอะค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจกับเรื่องนี้สักนิด เด็กคนนี้เป็นลูกฉัน ฉันจะดูแลเอง” หากเธอต้องการความรับผิดชอบจากเขา ก็คงติดต่อกลับไปตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องนั่นแล้ว แต่เพราะเธอไม่ต้องการอะไรจากเขาทั้งนั้น สำนึกได้เองว่าที่ทุกอย่างมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอทำตัวเองทั้งนั้น แล้วจะให้เธอมีหน้าไปเรียกร้องเอาอะไรจากเขาได้ ต่อให้จะทำได้เธอก็ไม่เคยคิดที่จะทำมัน “ลูกคุณคนเดียวเหรอครับคุณเดือน!” พิชญะตวาดลั่นอย่างเหลืออดไม่ชอบใจคำพูดของอีกคนเลยสักนิด ลูกของเธอคนเดียวที่ไหน “นี่คุณ!” “หรือคุณลืมไปแล้วครับว่าเราสองคนทำยังไงเขาถึงได้เกิดมา” คำพูดนั้นทำพิณรัมภาหมดสิ้นความอดทน เชิดหน้าขึ้นก่อนตอบกลับไป “แล้วคุณจะเอายังไงเล่า!”
บทนำ
โรงแรมวินเนอร์ โฮเทล
ภาพของงานเลี้ยงฉลองวันครบรอบของบริษัทพี เอส อาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทน้ำหอมชื่อดังอันดันหนึ่งของประเทศไทยที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะของเจ้าของผู้ซึ่งกำลังยืนรับแขกด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ทุกท่วงท่าชวนมองจนสาวๆ ต่างพากันจับจ้องด้วยความหวังว่าคืนนี้อาจถูกเลือกให้เป็นคู่เต้นรำเปิดงานของเขา ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปหมดไม่ว่าจะด้วยหน้าตา ฐานะ หรือแม้แต่สมองอันเฉลียวฉลาด แต่ก็เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ให้ความสนใจกับใครหรืออะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างรอบกายเป็นเพียงลมเบาๆ ที่บังเอิญพัดผ่าน ไม่ได้น่าสนใจอะไรมากนัก
พิชญะเริ่มรู้สึกเบื่อกับหลายสิ่งรอบตัวจนนึกอยากให้มันจบลงไวๆ เขาไม่ชอบงานเลี้ยง ไม่ค่อยชอบที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาใครต่อใคร
“ขอมือหน่อยครับคุณเดือน”
แต่เพราะหน้าที่งานการที่จำเป็นต้องสิ่งเหล่านี้วนเวียนเป็นองค์ประกอบหลักในชีวิต ชายหนุ่มจึงหมดทางเลือกจำต้องมองหาคู่เต้นรำในคืนนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนนอกจากพิณรัมภา เลขาของตัวเอง
หญิงสาวที่ไม่เคยมองเขาด้วยสายตาแพรวพราวเหมือนผู้หญิงคนอื่น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจเลือกเธอแทนที่จะเป็นใครคนไหน
“คะ ท่านประธานว่าอะไรนะคะ”
คนถูกเรียกร้องถาม ยังไม่กล้าส่งมือให้คนตรงหน้าไป เพราะอยากจะรู้ให้เข้าใจก่อนว่าเขาจะทำอะไร
“ในงานนี้ผมรู้จักคุณดีกว่าใครๆ เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ” พิชญะไขข้อข้องใจให้เลขาสาวก่อนจะส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน แต่เพียงเท่านั้นมันก็เรียกเสียงฮือฮาได้ทั่วงาน ส่งผลทำให้เขากับเลขาสาวตาคมที่กำลังมีความสุขกับการกินตกเป็นเป้าสายตาคนทั้งงานไปอย่างง่ายดาย สำหรับเขาคงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับอีกคนนั้นไม่ใช่เลยจริงๆ
“เดือนเต้นรำไม่เป็นค่ะ คงไม่สะดะ…”
“คุณเดือนกำลังหักหน้าผมรู้ตัวรึเปล่า” สิ้นคำพิณรัมภาก็เงียบสนิท เธอใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาทีคิดว่าจะเอายังไงเพราะดูเหมือนสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากตกเป็นขี้ปากของคนทั้งบริษัทในวันพรุ่งนี้ ถ้าหากเลือกได้จริงเธอขอมีชีวิตอย่างสงบสุขจะดีกว่า
“เอาเป็นว่าผมจะเพิ่มโบนัสสิ้นปีให้ ตกลงไหมครับ” คนที่รักเงินมากกว่าผู้ชายทั้งโลกไม่รีรอที่จะรีบส่งมือให้ พร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะท่านประธาน” พิชญะยิ้มรับก่อนจะควงเลขาคนสวยไปที่ฟลอร์ท่ามกลางสายตาของใครต่อใครที่มองมาที่เขาและเธอเป็นตาเดียว กับพิชญะไม่เท่าไหร่ แต่อีกคนดูท่าจะหนักกว่าเพราะเธอกำลังตื่นเต้น เสียจนเผลอเหยียบเข้าที่เท้าของเขาไม่ยอมหยุด

