บทที่ 3 เป็นเวรกรรม
สีหน้ายิ้มแย้มของมยุรดาหุบลงไปทันทีที่เห็นหน้าของแพรทอง เธอทำใจไม่ได้สักที ทั้ง ๆ ที่เรื่องราวต่าง ๆ ที่ขัดแย้งก็เกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว คุณแม่ของเธอก็จากโลกนี้ไปเกือบสิบสองปี
“คงไม่ไปค่ะ พ่อจ๋า หยกขอตัวไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ” หญิงสาวรีบหนีหน้าลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนไปในทันที
แพรทองขยับตัวลงไปนั่งใกล้กับพ่อเลี้ยงหาร หน้าตาแบบไม่สบายใจ
“แพรอย่าไปถือสาหยกเลยนะ” ฝ่ามือของพ่อเลี้ยงหารตบลงไปบนหน้าขาของเธอ
“แพรไม่ถือสาหรอกจ้ะพ่อเลี้ยง แพรชินแล้วแหละ”
“อยู่กันแบบนี้แหละ ให้บ้านของเรามันสงบสุข แพรอย่าทำให้ฉันต้องลำบากใจนะ”
“จ้า” แพรทองรับปากออกไปจริง แต่หัวใจร้อนรุ่มด้วยความเคืองแค้น สายตาส่งไปยังห้องนอนของมยุรดาแทบอยากจะให้ห้องนั้นเผาไหม้ แพรทองได้ยินเรื่องที่สองพ่อลูกสนทนากัน
“พ่อเลี้ยงไปแต่งตัวเถอะจ้ะ ฉันรีดผ้าไว้ให้แล้ว”
“ขอบใจนะ งั้นฉันไปอาบน้ำก่อน” พ่อเลี้ยงหารลุกขึ้นไป
“จ้า” รอยยิ้มที่หวานหยด ในหัวคิดถึงความสำเร็จที่ใกล้จะมาถึง
‘เข้าแผนกูเลย อีหยกมึงจะไปสอบที่ต่างจังหวัดพอดี หึ กูจะจัดให้สมใจอยากของกูเลย’ มันเป็นสิ่งที่แพรทองไม่ได้คาดไว้ แบบนี้เรื่องมันจะง่ายขึ้น
เวลา 19.15 น.
“ไอ้คนนั้นมันจะเบี้ยวกูหรือเปล่าเนี่ย นางลออ” สิงหาดูร้อนรน ต้องเดินทางไปอีกไกล เขาไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้
“ใจเย็น ๆ รออีกนิดหนึ่งน่าพี่ ถ้ามันไม่มา ฉันจะพาพี่ไปถล่มมันถึงที่บ้านเลยจ้ะ” นวลลออพูดให้สิงหาหายร้อนใจ แต่เธอก็เดินกลับไปกลับมาอยู่บริเวณนั้น
ทุกคนในบ้านพากันไปที่งานแต่งงานของลูกสาวกำนันไสวกันหมด มีทั้งวงดนตรีมาแสดงร้องรำทำเพลงเป็นที่ครึกครื้น ทุกคนเฮฮาสนุกสนานกันยกใหญ่ พ่อเลี้ยงหารเมาแอ๋อยู่ในงานแต่ง เพราะแพรทองมอมเหล้าพ่อเลี้ยงหารที่รู้สึกสนุกกับน้อง ๆ สาว ๆ ที่เต้นอยู่บนเวที
มยุรดาหิวข้าวมาก เธอเดินเข้าครัว ตรงดิ่งไปที่ตู้กับข้าว แต่ในตู้นั้นว่างเปล่า เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนมาถึงที่บ้าน มยุรดารู้ได้ทันทีทุกคนคงจะไปกินกันที่บ้านงาน
แพรทองเดินกลับมาจากงานเลี้ยง พร้อมกับปิ่นโตเถาใหญ่ พอเข้ามาถึงในครัวก็เอ่ยปากกับมยุรดาทันที
“จะใช้ใครมา ก็ไม่มีใครมา เมาจนพูดไม่รู้เรื่อง น้าจึงยกมาให้หยกกิน คงจะหิวละสิ อ่านหนังสือจะไปสอบถึงไหนแล้ว” แพรทองถามออกมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย สีหน้ายิ้มแย้ม
มยุรดากับวางหน้านิ่งเฉย มองแพรทองเหมือนเป็นอากาศธาตุ
แพรทองรีบพูดกลบเกลื่อนและเอาอกเอาใจมยุรดา
“กับข้าวมีหลายอย่างเลย เนี่ยกำลังร้อน ๆ หยกกินซะสิจ๊ะ” พูดแบบทำทีไม่สนใจ แพรทองวางปิ่นโตที่บรรจุอาหารลงไปบนโต๊ะกับข้าวกลางห้องครัว
“ที่บ้านงานคนเยอะ จะเข้าห้องน้ำห้องท่าก็ไม่สะดวก” พูดแล้วก็เดินหนีออกไปทำเป็นไม่สนใจมยุรดาที่หิวมาก เธอนอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องทั้งวันจนเลยเวลากินมื้อเที่ยง พอนึกได้ท้องก็ร้องจ๊อก ๆ เธอเงยหน้าละจากกองหนังสือ พระอาทิตย์ก็เกือบสิ้นแสงเสียแล้ว
กลิ่นหอมยั่วยวนที่ลอยออกมาจากปิ่นโต ทำให้เธอรีบตรงไปคว้าปิ่นโตถ้านั้นมาเปิด และกระจายลงไปกลางโต๊ะ
“อุ่น ๆ ร้อน ๆ จริงซะด้วย” พูดไปกลืนน้ำลายไป มยุรดารีบปิดกระติ๊บข้าว ปั้นข้าวเหนียวเป็นคำ ๆ กินกับอาหารที่แพรทองเอามาให้อย่างเอร็ดอร่อย จนอิ่มแปล้ เมื่อกินอิ่มแล้วเธอก็หาน้ำดื่ม หาฝาชีมาปิดอาหารที่เหลืออยู่ตรงนั้น มยุรดาเดินกลับเข้าไปที่ห้องนอนของเธอ
ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็ยกมือปิดปากหาวหวอด ๆ
‘ทำไมวันนี้ง่วงจังเลย สงสัยเราจะอ่านหนังสือเยอะไปหน่อย รู้สึกปวดตาด้วยนะเนี่ย’
เธอยกมือขึ้นมากุมที่ขมับแล้วนวดคลึงเบา ๆ
‘ขอนอนเอาแรงสักนิดหนึ่งเหอะ แล้วค่อยลุกมาอาบน้ำตอนดึก ๆ หลังจากนั้น ก็อ่านหนังสือต่อ’ หญิงสาวล้มตัวลงไปนอนแบบหมดเรี่ยวแรง ตาปิดลงไปทันที ลมหายใจที่ออกมาฟังดูสม่ำเสมอ
แพรทองที่แอบมองอยู่ และเธอลุ้นมาก เห็นสภาพของมยุรดาที่หลับสนิทอยู่บนเตียงก็รู้สึกโล่งใจ เดินเปิดประตูเข้ามาในห้องของมยุรดา
“เร็วเข้าไอ้พัน” เสียงที่บอกไปยังน้องชายแบบรีบเร่ง
“เอ็งเตรียมรถแล้วใช่ไหม”
“จ้ะพี่ พี่จะใช้รถของพี่เนี่ยนะ” ความรู้สึกตอนนี้ของพันวาเขาเริ่มกลัว
“ก็ใช่น่ะสิ แล้วจะใช้รถของใครล่ะ”
“มันจะแบบว่า เออ... มีคนจำรถของเราได้นะพี่” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเริ่มกลัวความผิด
“ไม่มีใครจำได้หรอกน่า เอ็งก็รีบ ๆ เข้าเถอะ อย่าพูดมาก มันเสียเวลา เนี่ย เอ็งดูนาฬิกาซิ มันกี่โมงกี่ยามเข้าไปแล้ว เดี๋ยวมีคนกลับมาจากบ้านงาน แผนก็เสียกันพอดี เร็ว” แพรทองเริ่มเสียงขุ่น พันวาจึงรีบเข้ามาเอาผ้าที่เตรียมไว้พันห่อตัวของมยุรดาปิดเพื่อให้ให้ใครเห็น ก่อนจะแบกขึ้นหลังเดินออกจากเรือนไปที่รถ
แพรทองค้นเอาเอกสารบางส่วนของมยุรดาตามที่สิงหาร้องขอ โกยใส่กระเป๋าเอาไปด้วย
“พี่แพร” พันวาทั้งเรียกและกวักมือ
แพรทองรีบวิ่งขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ ก่อนจะสตาร์ตรถ ใส่เกียร์ รถก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
สิงหาและนวลลออมองตามถนนลูกรังจนเบื่อเลย สิงหาหันมามองหน้านวลลออเหมือนจะเอาเรื่อง
“เดี๋ยวพวกมันก็คงมากันแหละพี่ นี่เพิ่งจะหนึ่งทุ่ม โอ้ย” นวลลออยกมือขึ้นจับกุมที่หน้าท้อง
“เอ็งเป็นอะไร”
“ฉันปวดขี้” นวลลออตดออกมาดังป้าด สิงหาส่ายหน้ายิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่
“เอ็งก็ไปสิ มายืนอั้นอยู่ได้ อีห่า” เขาทั้งด่าทั้งไล่ นวลลออรีบวิ่งเข้าไปที่หลังบ้านทันที
