Ep.2
ในปันจาร์ทุกคนในหมู่บ้านดูเป็นกันเองและอัธยาศัยดีกันทุกคน จนเธอไม่คิดว่าภัยจะมาถึงตัว กระทั่งในวันคล้ายวันเกิดของปู่เธอในคืนที่ผ่านมา เธอได้แสดงโชว์เต้นระบำหน้าท้องเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับทุกคนในงาน จนกระทั่งงานเลิกเธอจึงขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อพักผ่อน แต่กลับถูกโจรชุดดำจับตัวมาที่นี่เสียก่อน
มันจับเธอมาขังไว้ในบ้านของมันก่อน นอนได้งีบหนึ่งมันก็สั่งให้คนรับใช้พาเธอไปอาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณแล้วก็ให้เธอกลับมาใส่ชุดเดิม แล้วสั่งว่าเธอจะต้องใส่ชุดส่าหรีประยุกต์ที่เธอออกแบบเองเต้นระบำหน้าท้องให้เจ้านายของมันดู
‘แล้วเจ้านายของมันเป็นใคร’
ตอนแรกพรีมรตาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่นี่คือที่ไหน เพราะตอนที่ถูกจับตัวมาเธอถูกพวกโจรเอาผ้าดำมาปิดตาเธอเอาไว้ตลอดทาง เมื่อลืมตาขึ้นมาได้อีกครั้ง เธอก็มาอยู่ในบ้านของมันแล้ว และเมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวตามที่มันสั่งแล้วเสร็จ ก่อนที่จะออกจากบ้านของมัน ไอ้หัวหน้าโจรซึ่งเป็นเจ้าของบ้านก็เอาผ้าดำมาปิดตาเธอเอาไว้อีกครั้งก่อนจะพาเธอมาที่วังหลวงแห่งนี้ เธอรู้ว่าที่นี่คือวังก็เพราะมองไปทางไหนมันก็เรียกว่าบ้านไม่ได้
รอบกายมีแต่สาวใช้ที่แต่งกายแบบสาวชาววังคอยเฝ้ามองเธออยู่ มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นทหารในชุดสีน้ำตาลอมเขียวเดินสวนสนามกันไปมาอยู่ด้านล่าง และเมื่อกวาดสายตามองภายในห้องที่เธอถูกขังอยู่ในตอนนี้ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียงที่มีส่วนประกอบของทองคำเหลืองอร่ามแกะสลักลวดลายงดงามตระการตา ภาพวาดที่สวยงามบนฝาผนัง ผ้าม่านที่คลุมตั้งแต่หัวเสาจนถึงพื้น รวมถึงผ้าม่านหน้าต่าง แม้แต่พรมเปอร์เซียที่ปูพื้น ล้วนดูหรูหรามีราคาเกินกว่าที่สามัญชนคนธรรมดาจะใช้เงินซื้อหามาตกแต่งในบ้านของตนเองได้
“แกจับฉันมาที่นี่ทำไม ไอ้โจรชั่ว!”
“ไม่ต้องถาม หากไม่อยากถูกข่มขืนแล้วฆ่า จงทำตามที่ข้าสั่ง”
“แกต้องการให้ฉันทำอะไร”
“เต้นระบำ ทำให้เจ้านายของข้าพอใจ ตอบคำถามในสิ่งที่เจ้านายของข้าต้องการรู้ ชีวิตของเจ้านับจากนี้ จะอยู่ในกำมือของเจ้านายของข้าเท่านั้น”
“แล้วเจ้านายของแกเป็นใคร ชื่ออะไร”
“จะบอกให้เอาบุญก็ได้สาวน้อย เจ้านายของข้าก็คือ ท่านชีคซาฮิม อัล ฟาร์ฮาน ราชาแห่งซาร์เนเวียร์”
“ถ้าที่นี่คือซาร์เนเวียร์ พระราชาของประเทศนี้ก็ต้องเป็นองค์ราชา โอมาร์ มิใช่หรือ มันจะกลายเป็นท่านชีคของเจ้าไปได้อย่างไร”
“ไม่ต้องถามมาก หากเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ก็จงเต้นระบำให้เป็นที่พอใจของเจ้านายข้า หากท่านใจดี ท่านอาจจะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ”
พรีมรตายังจดจำบทสนทนาระหว่างตนกับไอ้โจรชั่วนั่นได้ มันคงเป็นข้ารับใช้ของชีคซาฮิมจอมทมิฬคนนั้นแน่ คนที่เธอได้ยินข่าวลือมาว่าเขาเป็น ‘ปีศาจทรายที่ป่าเถื่อน ร้ายกาจ!’ เธอเคยถามปู่ของเธอเหมือนกันว่าเรื่องนี้มันเป็นข่าวจริงหรือว่าข่าวลือ ปู่ของเธอบอกว่าถ้ามีเวลาจะเล่าให้ฟัง เพราะเธอเพิ่งเดินทางมาถึงปันจาร์เหนื่อยๆ แล้วพอมาได้ยินชื่อของผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดหวั่นในหัวใจไม่น้อย
ป่านนี้ปู่ของเธอจะรู้หรือยังว่าเธอถูกจับตัวมา แต่ภาวนาขออย่าเพิ่งให้พ่อกับแม่ของเธอที่อยู่เมืองไทยรู้เลย เพราะกลัวว่าท่านทั้งสองจะไม่สบายใจเอาได้
‘เอาน่า ทำใจดีสู้เสือเข้าไว้พรีมรตา เธอมาถูกที่แล้วไม่ใช่หรือ แค่เต้นระบำให้เขาพอใจ เขาถามอะไรมาก็ตอบไปตามความจริง แค่นี้ก็จบ’ สาวน้อยปลอบใจตัวเอง และสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา
ดวงตาดำขลับตวัดมองผู้มาใหม่ หญิงสาวร่างอวบในชุดประจำชาติเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับส่งสายตามาให้เธออย่างเป็นมิตร พรีมรตาจึงรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างแล้วยิ้มตอบกลับไปตามมารยาท
“ท่านไฮซาลบอกให้มาเชิญมิสค่ะ” สาวรับใช้ที่สูงวัยกว่าบอกสั้นๆ ตามคำสั่งที่ได้รับมา พรีมรตาพยักหน้าด้วยความเข้าใจ พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้นแกมหวั่นวิตก เมื่อคิดว่าต้องไปเต้นระบำต่อหน้าชีคผู้เหี้ยมโหด
เธอเคยได้ยินแต่ชื่อของเขาและวีรกรรมอันโหดร้ายของเขาจากปากคนอื่นเท่านั้น แต่ยังไม่เคยเห็นหน้าตาผู้ชายที่มีจิตใจเหี้ยมโหดอำมหิตดังกล่าวตามคำกล่าวขานร่ำลือคนนี้ หน้าตาของเขาคงจะอัปลักษณ์ หนวดเครารกรุงรัง ผิวเข้ม ตัวโต และดวงตาราวกับปีศาจกระมังผู้คนถึงได้ตั้งฉายาให้เขาว่าเป็น ‘ปีศาจทรายที่ป่าเถื่อน ร้ายกาจ!’ และหลายคนที่เอ่ยถึงเขาถึงได้แสดงอาการหวาดกลัวไปตามๆ กัน
แต่เธอจะต้องไม่กลัวเขา เธอไม่ได้เป็นศัตรูกับเขา เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา ตอนเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศสเธอเจอผู้ชายมาหลายรูปแบบ ทั้งดีและก็เลว ผู้ชายที่เป็นเสือผู้หญิงบางคนที่คิดจะลวนลามเธอยังเคยโดนเธอซ้อมมาแล้ว ยังไงเธอก็ต้องเอาตัวรอดได้น่า หากว่าชีคใจโหดนั่นคิดจะล่วงเกินเธอ เธอก็จะขอสู้สุดชีวิตเลยล่ะ
เมื่อประตูบานใหญ่ของท้องพระโรงเปิดออก สาวน้อยรูปร่างอรชรในชุดส่าหรีประยุกต์แปลกตาสีแดงเพลิงประดับด้วยสายสร้อยอัญมณีหลากสี ห้อยระย้าลงมากลางหน้าผากมนเป็นรูปหยดน้ำล้อมกรอบด้วยดอกไม้สีทองสวยงามจับตา แล้วร้อยรัดรูปร่างอรชรลงมาจนถึงช่วงสะโพกกลมมนเน้นส่วนโค้งส่วนเว้าให้ชวนมองมากยิ่งขึ้น สองเท้าเรียวย่างกายก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ค่อยมั่นใจนัก จนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชีคหนุ่มที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทางประหม่าที่ปิดไม่มิด ก่อนจะช้อนสายตามองราชาหนุ่มรูปงามตรงหน้า
‘นี่หรือคือ ชีคซาฮิม อัล ฟาร์ฮาน ปีศาจทรายที่ป่าเถื่อน ร้ายกาจ’
ใบหน้าของนางถูกปิดไว้ด้วยผ้าโปร่งบางสะท้อนแสงสีโทนเดียวกับชุดที่สวมใส่ ดวงตาดำขลับไหวระริกเล็กน้อยเมื่อช้อนขึ้นมาสบตากับเขา ทว่าพอเสียงดนตรีพื้นเมืองที่เร้าใจดังขึ้นเท่านั้น ดวงตาคู่สวยก็ดูเด็ดเดี่ยวน่ามองขึ้นมาทันที พร้อมกับการเต้นระบำที่น่าดูน่าชม
ท่าเต้นพลิ้วไหวที่เร้าใจ เคลื่อนไหวไปตามท่วงทำนองของ ทับบล้า1ทรวงอกที่กระเพื่อมไหว หน้าท้องที่สั่นระริกด้วยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เต้น สะกดสายตาชีคหนุ่ม ให้จดจ้องเพียงนางระบำสาวแต่เพียงผู้เดียวอย่างไม่อาจละสายตาไปไหนได้
‘นางมีดวงตาที่สวยซึ้งและรูปร่างดีทีเดียว การเต้นใช้ได้ แต่ก็คงเหมือนนางระบำคนอื่นๆ ที่ยอมขายเรือนร่างเพื่อแลกกับความสุขสบาย จากนั้นก็ใช้มารยาหญิงทำให้เขาพอใจเหมือนกับทุกคนนั่นแหละ’ ชีคหนุ่มส่งเสียง ‘หึ’ ในลำคอด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ความสวยของผู้หญิงอาจมีผลต่อร่างกายส่วนล่างของเขา แต่ไม่มีทางมีผลต่อก้อนเนื้อที่อยู่ใต้อกซ้ายของเขาอย่างแน่นอน
ขณะที่พรีมรตารู้สึกตื่นเต้นจนเกือบจะลืมท่าเต้นของตนเองไปในนาทีแรก แต่ความเป็นมืออาชีพ ก็ทำให้หญิงสาวสามารถควบคุมการแสดงโชว์ของตนเองได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คนที่มองการเต้นระบำหน้าท้องของเธอราวกับถูกมนต์สะกด ให้จดจ่อเฝ้ามองการแสดงของเธอตั้งแต่ต้นจนจบแบบไม่ให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อเสียงทับบล้าเงียบลง พร้อมกับที่ร่างอรชรย่อกายโค้งคำนับอย่างอ่อนช้อยงดงาม เสียงปรบมือจากท่านชีคแห่งซาร์เนเวียร์ก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงปรบมือของทุกคนที่ได้ชมการแสดง
ร่างสูงสง่าน่าเกรงขามเดินเข้ามาใกล้นางระบำสาว นางยังคงก้มหน้าก้มตา กระทั่งได้ยินเสียงกระแอมเบาๆ จากคนที่มายืนอยู่ข้างหน้า ทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นมอง
