บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“คนอื่นก็ช่างมันสิ กุลไม่สนใจใครทั้งนั้นแหละ กุลจะขับเอง น้าศรไปขึ้นข้างกุลได้เลย” ว่าแล้วกุลธารินทร์ก็เดินอ้อมไปทางด้านคนขับ เปิดประตูรถออกแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่ง เพื่อนๆรีบพากันร้องห้ามด้วยความเป็นห่วง แต่คนเมาก็ยังไม่ยอมลงจากรถ

แทนธีราส่ายหน้าอย่างอิดหนาระอาใจ ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปที่รถของตัวเอง แล้วเร่งเครื่องขับจากมาโดยไม่สนใจอีก ผู้หญิงที่กล้าจูบผู้ชายที่มีลูกเมียแล้วไม่สมควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรอก คิดแล้วก็นึกรู้สึกผิดกับภรรยาเหลือเกิน ถ้าหากได้บอกเธอไปอาจจะทำให้เขาสบายใจขึ้น แต่นั่นย่อมทำให้เธอคิดมากเสียเอง ดังนั้นเขาจึงเลือกเก็บมันเป็นความลับที่อีกไม่นานคงลืมได้เอง

“ทางเปลี่ยวจังนะคะ สงสัยคงเพราะดึกแล้ว” ภัทรรัตน์ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย

“นั่นสิครับ แล้วนี่น้องอ้อนหลับไปนานหรือยัง” ชายหนุ่มเลื่อนมือมาลูบศีรษะเล็กของลูกสาวอย่างแสนรัก

“ขึ้นมารอในรถได้เดี๋ยวเดียวก็หลับปุ๋ยเลยค่ะ ปกติแกเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม แต่ตอนนี้มันสี่ทุ่มกว่าแล้วนี่นา” หญิงสาวหันมายิ้มกับสามี แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยเหมือนคนอมทุกข์

“เป็นอะไรไปหรือเปล่าภัทร ผมว่าวันนี้คุณดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจเลยนะ ไม่ชอบบ้านใหม่เหรอ...หรือว่าคิดถึงบ้านสวนของเรา” แทนธีราสังเกตมานานแล้วว่าภรรยาของเขาเหมือนมีบางอย่างอยู่ในใจ แต่ไม่ยอมพูดออกมา

“ภัทร...” ภัทรรัตน์เกือบพูดออกมาอยู่แล้วว่ารู้สึกใจหาย เหมือนว่าทั้งเขาและเธอจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็นึกขึ้นมาได้เสียก่อนว่าลืมกระเป๋าสะพายไว้ที่ร้านอาหาร

“ตายจริง...ภัทรลืมกระเป๋าค่ะ”

“อ้าวเหรอ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวขับรถกลับไปเอาก็ได้” ชายหนุ่มหันมายิ้มอบอุ่น

“จะดีเหรอคะ ภัทรว่าไว้ค่อยมาเอาพรุ่งนี้ดีกว่าไหมแทน” เธอเกิดอาการลังเลขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ

“ถ้าไม่กลับไปเอาตอนนี้เลย เด็กในร้านอาจจะเชิดเงินก็ได้นะภัทร บางทีอาจจะทำเนียนหาว่าเราไม่ได้ลืมทิ้งไว้ที่ร้านนั้นด้วยก็ได้ แต่ว่า...เราโทรไปบอกไว้ก่อนก็ได้นี่นา แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็ได้เนอะ” ชายหนุ่มเสนอ

“ไม่ต้องโทรหรอกค่ะ ภัทรว่าเรากลับไปเอากันเลยดีกว่า ในนั้นมีบัตรสำคัญมากมาย ถ้าหายไปคงแย่แน่” จู่ๆภัทรรัตน์กลับเป็นฝ่ายขอให้สามีพากลับไปที่ร้านอาหารร้านเดิมเสียเอง ตรงกันข้ามกับแทนธีราที่มีลางสังหรณ์บางอย่างบอกว่าเขาไม่ควรขับรถกลับไป แต่เมื่อนึกถึงความจำเป็น มือใหญ่ที่ควบคุมพวงมาลัยรถก็ตีไฟเลี้ยวรถเข้าริมถนน ก่อนจะวนรถมุ่งหน้ากลับไปยังเส้นทางเดิม

ทางด้านกุลธารินทร์นั้นดูเหมือนจะไม่ใช่แค่การเรียกร้องความสนใจธรรมดา เพราะเมื่อนั่งประจำตำแหน่งคนขับเรียบร้อยแล้ว เธอก็สตาร์ทเครื่องยนต์ทันที น้าศรกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดหวั่น แต่ก็จำเป็นต้องเข้าไปนั่งเคียงข้างคุณหนู แม้เพื่อนทุกคนจะพยายามโบกมือห้ามเธอก็ไม่สนใจ ซ้ำยังเหยียบคันเร่งพุ่งออกสู่ถนนเบื้องหน้าด้วยความเร็วสูง หวังจะแกล้งให้เพื่อนๆอกสั่นขวัญหาย

“ให้ผมขับเองดีกว่าไหมครับคุณกุล” น้าศรเอนตัวติดกับเบาะ สองมือเกาะเกี่ยวเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น เพราะหญิงสาวขับรถส่ายไปมาเหมือนงูที่กำลังเลื้อยไปบนหนทางที่มืดมิด

“แหม กลัวอะไรน้าศร กุลขับรถเก่งนะ ถ้าไม่เชื่อน้าศรคอยดูได้เลย ใช้เวลาไม่นานต้องถึงบ้านแน่ กุลขับรถเก่งกว่าผู้ชายหลายคนเลยนะ” หญิงสาวหัวเราะร่วน ทำท่าทางมั่นอกมั่นใจเสียเหลือเกิน น้าศรรู้ดีว่าคงเปลี่ยนใจคุณหนูคนสวยไม่ได้แน่ เขาจึงถอนหายใจแล้วนั่งนิ่งอย่างยอมรับชะตากรรม

รถเบนซ์สีบรอนด์แล่นไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูง ในขณะที่รถเก๋งสีดำแล่นผ่านความมืดมาด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีชีวิตของบุคคลอันเป็นที่รักให้ต้องห่วงใยถึงสองคน หากเป็นเวลาปกติกุลธารินทร์คงมองเห็นรถที่กำลังสวนมา แต่ในตอนที่แอลกอฮอล์กระจายไปทั่วร่างอย่างนี้ นัยน์ตาคู่สวยกลับเรือนลางเห็นภาพตรงหน้าเป็นเหมือนแค่เงาที่ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจ เท้าเรียวกดเหยียบคันเร่งจนมิด

โครม!!!

ในเวลาแค่เพียงพริบตาเดียว รถทั้งสองคันก็ประสานงาเข้าหากันจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วทุกสารทิศ ภัทรรัตน์กรีดร้องลั่นพร้อมกับกอดลูกสาวแนบอกตามสัญชาตญาณ แทนธีราพยายามเหยียบเบรกและหมุนพวงมาลัยหักหลบ แต่ทุกอย่างดูจะสายเกินไป รถของเขาถูกชนอย่างจังจนพลิกคว่ำหลายตลบ เนื่องจากรถข้างหน้าพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ยากจะหลีกหนีพ้น

การเบรกรถอย่างกะทันหันบวกกับแรงปะทะ ทำให้ร่างของแทนธีราที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยลอยละลิ่วทะลุกระจกหน้ารถออกมานอนอยู่ข้างรถของกุลธารินทร์ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง สมองมึนงงจนไม่รู้ถึงเหตุการณ์รอบตัว ไม่มีเสียงร้องของภัทรรัตน์หรือลูกสาวของเขา มีเพียงกลิ่นไหม้ของล้อรถที่เสียดสีกับพื้นถนนอย่างแรงลอยคลุ้งไปทั่ว และที่หนักกว่านั้นก็คือกลิ่นคาวเลือดที่แยกไม่ออกเลยว่าเป็นของใครบ้าง

สิ่งหนึ่งที่ชัดเต็มสายตาของแทนธีราคือร่างไร้สติของกุลธารินทร์ ตัวเธอเต็มไปด้วยเลือด ร่างกายช่วงบนถูกกระแทกออกมาทางประตูรถที่หลุดออกในลักษณะนอนหงาย ส่วนช่วงขาถูกคอนโซลรถที่บุบบี้ทับไว้แน่น เมื่อมองผ่านไปอีกเล็กน้อย เขาก็พบว่าข้างกายเธอมีชายคนหนึ่งนั่งนิ่งอยู่ เพราะถูกกระจกแทงกลางลำตัวติดกับเบาะรถจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีก

แทนธีราจ้องหน้ากุลธารินทร์เขม็ง...ก่อนที่จะหมดสติไปอีกคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel