บทที่ 11
“งั้นก็ตามสบายครับ” ชยางกูรยิ้มตอบ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที
กุลธารินทร์ถอนหายใจขณะพาตัวเองก้าวลงจากเตียงนอน ตอนนี้เธอกลับมาเดินได้คล่องแคล่วเหมือนอย่างเดิมแล้ว บาดแผลจากการผ่าตัดและร่องรอยต่างๆแทบไม่มีหลงเหลืออยู่บนผิวขาวสวยอีก เพราะอาศัยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าช่วยแก้ไขจนกลับมาเป็นปกติ หากจะมีก็แค่เพียงรอยแผลเล็กน้อยที่สามารถหายได้เองตามกาลเวลาเท่านั้น
ร่างบอบบางเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า เลือกชุดกระโปรงผ้านิ่มมาสวมอย่างเรียบง่าย บัดนี้ผมที่เคยยาวเกือบถึงบั้นเอวถูกตัดให้อยู่ในระดับแค่กลางหลัง เพราะไม่สะดวกในช่วงที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องเสียเวลาจัดแต่งทรงผมนานเหมือนเคย แค่หวีให้เรียบสลวยเข้าทรงก็เพียงพอแล้ว ดวงหน้าสวยงามลงตัวใช้เวลาแต่งแต้มไม่นานนัก แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้เธอสวยหวานจนชยางกูรแทบไม่อยากสายตาเลย
“ลงมาพอดีเลยครับคุณแม่” ชายหนุ่มหันมาบอกกับว่าที่แม่ยาย เมื่อเห็นกุลธารินทร์กำลังเดินเข้ามาสมทบในห้องรับแขก สายตาของเขาดูปลาบปลื้มอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นทำให้หญิงวัยสี่สิบเศษมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรมากระทบเรื่องการแต่งงานของทั้งสองคนได้อีก ถึงแม้จะโดนเลื่อนมาแล้วสามเดือน เพราะกุลธารินทร์ดันโชคร้ายประสบอุบัติเหตุ แต่อีกไม่ถึงนานก็จะได้ดั่งใจหวังอีกครั้ง
“มานั่งนี่สิลูกกุล” คุณนภาเอ่ยเรียกลูกสาวให้มานั่งข้างกัน
“วันนี้คุณแม่ไปออกไปไหนเหรอคะ” กุลธารินทร์เดินไปนั่งเคียงข้างมารดา
“ไปสิลูก แต่มันยังไม่ถึงเวลา แม่มีประชุมช่วงบ่ายน่ะจ้ะ” คุณนภาลูบศีรษะหญิงสาวแล้วยิ้มเอ็นดู ถึงทุกวันนี้จะต้องเหน็ดเหนื่อยกับงานที่ต้องสานต่อจากสามีซึ่งเสียชีวิตไปนานมากแล้ว แต่เมื่อได้เห็นแก้วตาดวงใจมีความสุข คุณนภาก็มีความสุขตามไปด้วย ท่านรักกุลธารินทร์มากเกินกว่าคนอื่นจะคาดคิด เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เพียงเพราะต้องการรักษาชื่อเสียงของลูกสาวไว้แบบนี้หรอก
“ถ้าคุณแม่เหนื่อยก็บอกกุลนะคะ กุลจะเข้าไปเรียนรู้งานแล้วช่วยคุณแม่เอง ถึงจะเพิ่งเรียนจบ แต่กุลคิดว่าน่าจะเรียนรู้จากคุณแม่ได้เร็วมากเลยล่ะค่ะ กุลไม่อยากเห็นคุณแม่เหนื่อยแบบนี้เลย” กุลธารินทร์สวมกอดมารดาไว้แน่น เป็นห่วงไม่น้อยที่ต้องเห็นท่านเคร่งเครียดกับงานอยู่ทุกวัน ยิ่งธุรกิจอัญมณีของครอบครัวเธอได้ช่างออกแบบชื่อดังคอยทำงานให้ จนกลายเป็นที่นิยมและโดดเด่นอันดับหนึ่ง ภาระหน้าที่ของมารดาก็ย่อมหนักขึ้นด้วยเป็นธรรมดา
“เหนื่อยที่ไหนกันล่ะจ้ะ กุลก็รู้ว่าแม่รักงานนี้แค่ไหน กุลไม่ต้องลำบากไปช่วยแม่ดูแลงานที่บริษัทหรอก แค่ลูกขอเป็นคนรับผิดชอบเรื่องร้านอาหารแก้วมุกดา แม่ก็กลัวลูกเหนื่อยแทบแย่แล้ว” คุณนภายังคงพูดจาอ่อนหวานเสมอ ความห่วงใยที่สองแม่ลูกมีต่อกันทำให้ชยางกูรยิ้มกว้าง หากกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้เมื่อไหร่ เขาจะไม่ยอมให้ทั้งคุณนภาและกุลธารินทร์ต้องเหนื่อยอีก
“จริงสิคะ กุลลืมเรื่องร้านอาหารแก้วมุกดาไปเลย กุลนี่แย่จังนะคะ แทนที่จะเอาเวลาไปดูแลงานที่ร้าน แต่กลับมานอนเล่นอยู่ที่บ้านแบบนี้” หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดเพื่อสบตากับผู้เป็นแม่
“พูดอะไรแบบนั้นล่ะครับกุล ร้านอาหารมันไม่หนีไปไหนหรอกนะ กุลพักผ่อนจนร่างกายพร้อมค่อยไปเริ่มงานดีกว่า ถ้าฝืนไปอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพก็ได้” ชยางกูรแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“ใช่ลูก แม่ว่ารอให้กุลพร้อมกว่านี้หน่อยดีไหมจ้ะ” คุณนภาเห็นด้วย
“กุลพร้อมแล้วค่ะคุณแม่ จริงๆนะคะ...กุลสบายดีแล้ว ไม่เจ็บไม่ปวดตรงไหนเลย ไหนคุณแม่บอกว่าไม่อยากให้กุลอยู่บ้านเฉยๆยังไงล่ะคะ ให้คุณไปดูแลงานที่ร้านเถอะค่ะ กุลสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด” กุลธารินทร์อ้อน
“แต่ว่า...”
“ผมว่าอนุญาตให้กุลไปเถอะครับคุณแม่ เดี๋ยวผมจะอาสาทำหน้าที่ไปรับไปส่งให้เอง” ชายหนุ่มช่วยพูด
“อืม ถ้าชลรับปากว่าจะทำหน้าที่รับส่งน้องให้ แม่ก็ไม่ขัดข้องหรอกจ้ะ” คุณนภายิ้ม
“ขอบคุณมากค่ะคุณแม่ ขอบคุณพี่ชลด้วยนะคะ ช่วงนี้กุลคงต้องรบกวนก่อน เอาไว้ถ้ากุลกล้าขับรถอีกเมื่อไหร่ กุลคงไม่รบกวนพี่ชลแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวยกมือกระพุ่มกราบลงที่อกมารดา และไหว้ขอบคุณชยางกูรด้วยความนอบน้อม
“ไม่รบกวนหรอกครับ เพราะอีกไม่นานพี่ก็จะได้เข้ามาดูแลกุลอย่างเต็มตัวแล้ว”
“แต่ยังไงกุลก็ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ ถ้าพี่ชลไม่ว่ากัน คืนนี้ช่วงสองทุ่มช่วยมารับกุลไปส่งที่ร้านเลยนะคะ กุลอยากไปทำงานเต็มแก่แล้ว” กุลธารินทร์บอกเขา เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ ใบหน้าสวยก็มีรอยยิ้มแต่งแต้มขึ้นในทันที
ร้านอาหารแก้วมุกดาเปิดให้บริการมาตั้งแต่สมัยที่คุณยายของเธอยังมีชีวิตอยู่ ชื่อร้านก็เป็นชื่อของท่าน กุลธารินทร์รักคุณยายมาก และนั่นก็ทำให้เธอรักร้านอาหารของคุณยายด้วย นับตั้งแต่คุณยายเสียชีวิตไปเมื่อสี่ปีก่อน เธอก็ได้ขอร้องให้คุณนภาเปิดร้านอาหารต่อไป และปรับปรุงร้านตามความเหมาะสมของสมัยนิยม แม่ครัวแต่ล่ะคนต้องมีฝีมือเรื่องอาหารไทยเป็นอันดับหนึ่งตามที่คุณยายเคยย้ำเตือนไว้เสมอ ซึ่งภายหลังได้นำแม่ครัวที่มีความสามารถด้านอาหารนานาชาติมาไว้บริการลูกค้าด้วย เหตุนี้เองร้านอาหารแก้วมุกดาจึงมีผู้คนแวะเวียนมาใช้บริการเป็นจำนวนมากในทุกวัน
