บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้าน กุลธารินทร์ก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง พยายามคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ในคืนที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจำได้แค่เพียงว่าเธอเหยียบคันเร่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่ดื่มเหล้าเข้าไปจำนวนมาก แล้วก็โชคร้ายขับรถพุ่งเข้าชนรถคันที่แล่นสวนมา แต่ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นตายร้ายดีอย่างไร

แม้มารดาอธิบายให้ฟังจนเข้าใจแล้วว่าคืนนั้นไม่มีใครเป็นอะไรมาก มีเพียงน้าศรที่บาดเจ็บสาหัสพอสมควร และตอนนี้ก็ได้ลางานไปพักฟื้นที่บ้านต่างจังหวัด ทว่าเธอกลับรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย เหมือนว่าเหตุการณ์ในคืนนั้นจะไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดา

กุลธารินทร์ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกคนรอบข้างบิดเบือนความจริงอยู่...

เสียงเคาะประตูหนักๆดังขึ้นติดกัน ก่อนจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของคู่หมั้นหนุ่ม ซึ่งกำลังจะกลายเป็นสามีในอีกไม่ช้านี้แล้ว นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ เขาก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเธอมากขึ้น พยายามแยกเวลางานกับเวลาส่วนตัวออกจากกัน เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถ้าละเลยคนรักจนต้องเฉียดเข้าใกล้ความสูญเสียอีก

ชยางกูร ปิยปฐพี หนุ่มหล่อรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาโดดเด่นกับผิวที่ขาวจัดทำให้เขาดูดีไม่เป็นรองใคร ยิ่งเมื่อมีเสื้อผ้าแบรนด์หรูประดับอยู่บนร่างกาย ยิ่งบ่งบอกถึงความร่ำรวยได้เป็นอย่างดี ชยางกูรอายุมากกว่ากุลธารินทร์เพียงแค่สามปี และเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลปิยปฐพีซึ่งมีเชื้อสายผู้ดีเก่า

“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับกุล” ชายหนุ่มถามขณะทิ้งตัวนั่งลงที่ริมเตียง

“ก็ดีเหมือนทุกวันนั่นแหละค่ะ เพียงแต่กุลยังไม่อยากออกไปไหน” กุลธารินทร์ยิ้มหวาน

“อุดอู้อยู่แต่ที่บ้านแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพเลยนะครับ พี่ว่ากุลน่าจะออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง”

“กุลทราบค่ะว่าพี่ชลเป็นห่วงกุล แต่กุลรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยไม่อยากไปไหนจริงๆค่ะ”

“บอกพี่ได้ไหมครับว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร” ชยางกูรดูกังวลใจขึ้นมาทันที

“คือ...ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ กุลแค่รู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างค้างคาอยู่ในใจ แต่กุลคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก บอกตรงๆนะคะว่ากุลไม่แน่ใจเรื่องอุบัติเหตุในคืนนั้นเลย กุลคิดว่าจะต้องมีใครเป็นอะไรไปแน่ๆ กุลรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะคะ” หญิงสาวยืนยันความรู้สึกของตัวเอง

“โธ่กุล เรื่องคืนนั้นมันไม่มีอะไรหรอกนะครับ ถ้ามีใครเป็นอะไรไปคุณแม่ท่านคงไม่ปิดบังกุลหรอก ชีวิตคนมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะ พี่ว่ากุลคิดมากเกินไปแล้วล่ะ รู้ไหมว่าอาจจะทำให้ล้มป่วยได้อีกนะครับ” ชยางกูรก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนนั้น สิ่งที่เขารู้ก็ล้วนแล้วแต่ได้ยินมาจากว่าที่แม่ยายทั้งสิ้น

“แล้วคู่กรณีได้รับการดูแลอย่างดีหรือเปล่าคะ คุณแม่บอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่กุลก็ยังอยากไปขอโทษเขาอยู่ดี ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา กุลไม่เคยได้พบเขาเลยนะคะ” หญิงสาวหน้าเครียด

“คุณแม่กุลจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แล้วก็ชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างให้แล้วครับ อันที่จริงพี่เองก็ไม่เคยเห็นฝ่ายนั้นหรอกนะ ตอนแรกอยากจะไปเยี่ยมเขาแทนกุลอยู่เหมือนกัน แต่คุณแม่บอกว่าไม่ต้อง เพราะท่านได้ไปขอโทษเขาด้วยตัวเองแล้ว” คำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้กุลธารินทร์เริ่มเบาใจ

“แสดงว่าเขาปลอดภัยดีจริงๆสินะคะ”

“ใช่ครับ เขาปลอดภัยดี คุณแม่บอกว่านอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลไม่กี่วันก็กลับบ้านได้ มีแค่กุลนั่นแหละที่เจ็บหนักจนต้องเข้าเฝือกเกือบทั้งตัว รู้ไหมว่าหัวใจพี่แทบสลายเลยนะ ถ้าคืนนั้นพี่ไม่สนใจงานมากกว่ากุล กุลคงไม่ดื่มหนักแล้วก็ดื้อดึงขับรถกลับบ้านเองแบบนั้นหรอก...พี่ขอโทษนะครับ” ชยางกูรดึงมือบางมากุมไว้

“อย่าขอโทษเลยค่ะ ความผิดทุกอย่างเกิดจากตัวกุลเอง กุลประมาทเองค่ะพี่ชล”

“เอาเถอะครับ ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้วเราก็อย่ารื้อฟื้นมันเลย จากนี้ไปพี่จะคอยดูแลกุลเอง อีกไม่นานเราก็จะได้แต่งงานกันแล้ว พี่สัญญานะว่าจะเป็นสามีที่ดีของกุล” ชายหนุ่มมองเธอด้วยความรัก

“ขอบคุณนะคะพี่ชล กุลสัญญาเหมือนกันค่ะว่าจะไม่ทำตัวให้ทุกคนเป็นห่วงอีก”

“ดีมากครับ พี่จะถือว่ากุลสัญญาแล้วนะ” ชยางกูรดึงกุลธารินทร์เข้าไปกอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน ซึ่งมันสามารถช่วยให้จิตใจที่หนักอึ้งของเธอเบาบางลงไปได้มากพอสมควร ในเมื่อทุกคนยืนยันว่าคืนนั้นไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น นอกจากเป็นอุบัติเหตุธรรมดา เธอก็จะพยายามไม่เก็บมันมาคิดอีกแล้ว

นับจากนี้ไปเธอจะทำตัวเป็นคนรักที่ดีของชยางกูร เพราะรู้สึกปลื้มใจไม่น้อยที่เห็นเขายอมทิ้งงานมาขลุกอยู่กับเธอแทบทุกวัน ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องคัดค้านการแต่งงานอีก นอกจากมารดากับชยางกูรแล้ว กุลธารินทร์ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครที่รักและหวังดีกับเธออีก การสูญเสียบิดาไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกย่ำแย่เลย เนื่องจากได้รับการเอาใจใส่จากผู้เป็นแม่ไม่เคยขาด บางครั้งมันก็มากเกินไปจนทำให้ลำบากใจเสียด้วยซ้ำ

“วันนี้เราไปช้อปปิ้งกันดีไหมครับ” เสียงทุ้มนุ่มหูของคู่หมั้นหนุ่มดึงหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์

“แต่กุล...”

“ไหนกุลสัญญาแล้วไงว่าจะไม่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง ถ้าจะรักษาสัญญาก็ควรกลับมาเป็นกุลธารินทร์คนเดิมได้แล้วนะครับ คุณแม่บ่นกับพี่ทุกวันเลยว่าอยากให้กุลออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ถ้ากุลยอมออกไปกับพี่ คุณแม่ท่านคงสบายใจขึ้นนะ” ชายหนุ่มรู้ดีว่าการยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้างจะทำให้เธอตัดสินใจง่ายขึ้น

“ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นพี่ชลลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะ กุลขอแต่งตัวสักครู่ค่ะ” สุดท้ายหญิงสาวก็ตอบตกลง

“ต้องให้ใครขึ้นมาช่วยแต่งตัวไหมครับ”

“ไม่ต้องค่ะ กุลโอเคแล้ว” เธอยิ้มยืนยัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel