บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เมามาย

เมามาย

เธอเห็นเขาฟุบแนบลงกับโต๊ะ จึงเรียกให้พนักมาคิดบิล แล้วเธอจึงเข้าไปช่วยพยุงคนร่างสูงออกจากตรงนี้ไปยังรถของเธอที่จอดอยู่ลานจอดรถต่อ

“นายเดินให้มันดี ๆ หน่อยสิวิชญ์ ฉันหนักนะ” เธอตำหนิเขาออกไปทันที เมื่อเขาเอาแต่ทิ้งน้ำหนักมาที่เธอ ตั้งแต่ที่เดินออกมาจากโต๊ะแล้ว แต่ยังไม่ถึงลานจอดรถ

“จ่มได้แท้ว่ะ เมย์...” (บ่นได้จริง ๆ เลย เมย์...) คนเมาเอ่ยออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดด้วยความหงุดหงิดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แถมยังเปล่งเรียกชื่อหญิงสาวอีกคนออกมาอีก เมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยพยุงร่างของเขานั้นคือผู้หญิง

“ช่วยพูดภาษาที่ฉันฟังออกด้วย แล้วฉันก็ไม่ใช่เมย์ของนาย ฉันปลาไง...” เธอตอกกลับทันทีอย่างเหลืออด เมื่อได้ยินเขาเอ่ยชื่ออีกคนออกมา

“ปลา ปลาอีหยังละ...ปลาแข่ง ปลาคอ หรือปลาปักเป้า” (ปลา ปลาอะไรละ...ปลาหมอ ปลาช่อน หรือปลาปักเป้า) ไม่เพียงแค่ปากที่ยังคงพูดออกมา มือยังยกขึ้นมาขยี้แก้มของเธออีกด้วย

“โอ้ยยย เมาแล้วยังจะกวนตีนอีกนะ ไอ้วิชญ์!” เธอต่อว่าออกมาอย่างเหลืออด แล้วกัดฟันฝืนพาเขาขึ้นรถของเธออย่างทุลักทุเล เพราะเขานั้นตัวใหญ่และสูงกว่าเธอ จากนั้นจึงรีบเดินไปทางฝั่งคนขับทันที

“ฮู้จักซื่อบักวิดพ้อม...” (รู้จักชื่อไอ้วิชญ์ด้วย...)

เสียงคนเมายังเอ่ยออกมาไม่หยุด เธอได้แต่ส่ายหน้ามองเขาอย่างเอือมระอา ก่อนที่จะเอ่ยสั่ง แล้วถามที่อยู่จากคนเมา เพื่อที่จะได้ไปส่งถูก

“หุบปากได้แล้ว ฉันจะพาไปส่งที่บ้าน บอกมาว่าอยู่ที่ไหน”

“อยู่ขอนแจ่นนนน...” เสียงคนเมาเอ่ยตอบออกมาแบบลากเสียงยาว

“ไอ้วิชญ์!!!”

ปาณิศาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนเมาอีก เพราะขืนเถียงไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแน่ จึงพาเขาไปที่คอนโดมิเนียมของเธอแทน ไม่รู้อะไรดลใจทำให้เธอกล้าพาผู้ชายที่ไม่ได้สนิทเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวแบบนี้ ขนาดคนในครอบครัวก็มีแต่บิดาของเธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่ท่านก็ไม่เคยเข้ามายุ่งในพื้นที่ส่วนตัวแบบนี้

*

*

*

คอนโดมีเนียมหรู-ปาณิศา

ปาณิศาใช้เวลาในการขับรถไม่นานก็มาถึงคอนโดมิเนียมที่พักของเธอ เพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานบันเทิงมากนัก

“วิชญ์ ตื่นก่อน” เธอปลุกคนเมาขึ้นมา เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายตัวโตกว่าเธอมาก และเธอเองก็ไม่สามารถที่จะแบกเขาขึ้นไปได้

“อื้อ คนสินอน” (อื้อ คนจะนอน) คิ้วขมวดชนกันปากบ่นอู้อี้ครางอยู่ในลำคลอเป็นภาษาบ้านเกิดเช่นเดิม พร้อมกับมือที่พยายามปัดป่ายสิ่งรบกวนที่อยู่ตรงหน้าออก

“ลุกออกจากรถก่อน ไปนอนข้างบน” เธอเอ่ยบอกอีกครั้ง แล้วพยายามปลุกเขาอย่างใจเย็น

“วุ่นวายอีหลี คนสินอน” (วุ่นวายจริง ๆ คนจะนอน)

“ตื่นก่อน...” เธอเขย่าตัวเขาอีกครั้ง เมื่อคนเมาขี้เซาไม่ยอมลืมตาขึ้นมาสักที

“มาอยู่นี่ได้จังใด๋” (มาอยู่ที่ไหนได้ยังไง) สายตาเลื่อนรางลมองสำรวจดูรอบ ๆ แล้วเป็นสถานที่ไม่คุ้นชิน จึงเอ่ยปากถามเธอขึ้นมาทันที

“คอนโดฯฉันเอง” ปาณิศาที่ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ก็พยายามจับใจความตามอาการและสีหน้าที่เขาแสดงออกมา จึงบอกเขาพาไปตามตรง

ชนาวิชญ์ไม่พูดอะไร ยอมทำตามที่เธอบอก แถมยังยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอ แต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักตัวไปหมดเหมือนกับคราแรกที่เมาจนขาดสติ

เธอพาเขาเข้ามาภายในห้องได้สำเร็จ ก็พาเขาเดินไปยังห้องนอนอีกห้องหนึ่งที่อยู่อีกฝั่งกับห้องนอนของเธอ เป็นห้องนอนเล็กไว้สำหรับรองรับแขกมาหา แต่ก็ยังไม่เคยมีใครได้ย่างก้าวเข้ามาสักคน มีเขาเป็นคนแรกแถมยังเป็นผู้ชายอีก

“นี่นายจะทิ้งน้ำหนักลงมาทำไมเยอะจัง ฉันหนักนะ ว้ายยย”

“วิชญ์ ลุกขึ้นฉันหนักนะ” เธอเอ่ยบอก และพยายามดันตัวเขาลุกขึ้น เมื่อคนเมาทาบทับตัวเธอไว้อยู่ จนเธอแทบจะขยับไม่ได้

“อยู่กับผมก่อนสิเมย์” คนเมาเพ้อออกมาอีกครั้ง เมื่อคิดว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองนั้นคือเมยาวี คนที่เขารัก

“ฉันไม่ใช่เมย์ของนาย” คนใต้ร่างพยายามบอกให้เขาได้สติ และดิ้นหนีออกจากสถานการณ์ล่อแหลมตรงนี้

“ทำไมเมย์ต้องมีคนอื่นด้วย ผมทำงานหนักเพื่ออนาคตของเรานะ แต่ทำไมเมย์ไม่รอผมเลย...” คนเมาระบายออกมาอย่างอัดอั้น

“วิชญ์ ฉันหายใจไม่ออกแล้ว อื้อออ” ปาณิศาพยายามจะดันร่างแกร่งออกจากเธอ เพราะเริ่มที่จะรองรับน้ำหนักของเขาไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อปากหยักก้มลงมากระกบปิดปากนุ่มของเธอเข้าเสียแล้ว

คนใต้ร่างเบิกตากว้างขึ้นมาทันที เมื่อเขาประกบปากเธอ พยายามหาทางดิ้นหนี แต่ก็ไม่อาจที่จะทำได้ จนเขายอมปล่อยเสียเอง แต่กลับล็อคมือของเธอไว้เอาเหนือศีรษะ

“เมย์ คุณเปลี่ยนน้ำหอมเหรอ กลิ่นไม่คุ้นเลย ผมชอบกลิ่นนี้จัง...” ชนาวิชญ์ซุกไซ้ซอกคอของเธอ แล้วเอ่ยถามขึ้นมาโดยไม่ได้มองหน้าของเธอเลย

“วะ วิชญ์ ปล่อยฉันน่ะ” เธอเริ่มมีน้ำเสียงติดขัด เมื่อถูกลุกเร้าอารมณ์ แต่ก็ยังคงพยายามเอ่ยเรียกเขาให้ได้สติขึ้นมา

ชนาวิชญ์ซุกไซ้ไปตามซอกคอขาวอย่างหลงใหลไปกลับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ไม่คุ้นเคยของหญิงสาวใต้ร่าง เขาชอบกลิ่นแบบนี้ ซึ่งมันดีกว่าน้ำหอมราคาแพงที่เธอใช้เสียอีก เขาไถลปากไปตามซอกคอขาว แล้วขบเม้มอย่างห้ามไม่ได้ จนเกิดรอยสีกุกลาบขึ้นมา

“นี่! มีสติหน่อยสิ ฉันไม่ใช่เมย์ ไม่ใช่ผู้หญิงของนาย ฉันคือปลา ปาณิศาลูกสาวพ่อปรานที่นายเคยไปขับรถให้ไง” เมื่อสู้แรงของเขาไม่ไหว เธอจึงหาเหตุผลเอาตัวรอดขึ้นมา เพราะถึงอย่างไรก็ไม่อาจสู้แรงเขาได้ จึงนึกถึงชื่องคนเป็นพ่อขึ้นมา เผื่อชนาวิชญ์จะได้สติ

“ปราน? พี่ปลา!” เขาทวนชื่อที่หญิงสาวเอ่ยบอก แล้วกลับต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกใจ เพราะคนที่เขาฉวยโอกาสนั้น ไม่ใช่คนรักของเขา แต่กลับเป็นหญิงสาว ลูกสาวของคนที่เขาเคยไปขับรถให้เมื่อก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel