บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 โดนสวมเขา

โดนสวมเขา

เขากลับมาถึงที่ห้องพักของเขาในเวลาสองทุ่มกว่า ๆ แต่ก็ไม่พบเธอแล้ว นั่นแสดงว่าเธอคงกลับคอนโดฯของเธอไปแล้ว เขาจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจตรงไปยังคอนโดฯเธอทันที เขาไม่ได้บอกว่าจะไปหาเธอ เพราะตั้งใจจะไปง้อ และอยากเซอร์ไพรส์เธอด้วย

เขาสามารถเข้าหรือออกคอนโดฯของเธอได้ทุกเมื่อทุกเวลา เพราะเธอนั้นให้คีย์การ์ดไว้ที่เขาด้วย เผื่อว่าเขาอยากไปหาเธอตอนไหนจะได้สะดวก

“อ๊ะ พี่เจ แรง ๆ ค่ะ เเรงกว่านี้อีก เมย์ชอบแรง ๆ”

“อ่าสสส ได้เลยยัยร่าน ไอ้แฟนเด็กของเธอมันทำไมถึงใจเหรอ เธอถึงเรียกใช้งานฉันอยู่ตลอดเลย”

“อยู่กันสองคน อย่าเอ่ยถึงคนอื่นสิคะ พี่มีหน้าที่ทำให้เมย์มีความสุขก็พอแล้ว...”

“ได้เลย...อ่า เธอนี่แม่งโคตรเด็ดเลย”

เพี๊ยะ!

ชนาวิชญ์ไม่อาจยืนดูภาพชายหญิงร่วมรักกันอย่างเร้าร้อนแบบชนิดที่ดุเดือด ภายในห้องนอนที่ประตูไม่ได้ปิดเอาไว้ได้ เขาจึงเดินมานั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง เผื่อที่จะได้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย

เขานั่งรออย่างใจเย็น ใบหน้าคมขบกรามแน่น มือกำหมัดด้วยความเคียดแค้น เขารู้ตัวดีว่าไม่เคยให้ความสุขกับเธอได้ แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะสวมเขาแบบนี้...

เมื่อศึกรักจบลง เมยาวีเดินออกมาข้างนอกห้อง บนกายมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบกายเอาไว้ แต่กลับต้องเบิกตาโตทันที เมื่อพบว่ามีคนนั่งอยู่ที่โซฟา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะคนเดียวที่มีคีย์การ์ดคือชนาวิชญ์เท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่เอาในตอนนี้

“วะ วิชญ์”

“หึ ตกใจอะไรขนาดนั้น ไม่ดีใจเหรอที่ผมโดดงานมาหา” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหันไปตามเสียง พร้อมกับใบหน้าที่แค่นหัวเราะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที เมื่อเห็นสภาพของเธอในตอนนี้

“...” เมยาวีไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ อยู่แล้ว

“นานเท่าไหร่แล้ว ที่ทำแบบนี้” เสียงเข้มถามขึ้นมาทันที

“คือว่า...”

“สนุกมากเลยใช่ไหม...” เขาตวาดเสียงขึ้นมา แต่กลับเสมองไปทางอื่น เพราะไม่อยากมองหน้าเธอ

“ช่วยไม่ได้น่ะ ก็นายละเลยเอง ฉันเลยต้องมาบริการแทนให้ไม่ดีเหรอที่นายไม่ต้องออกแรงให้เสียเหงื่อ” เสียงทุ้มของคนที่เดินออกมาจากห้องดังขึ้นมาด้วยท่าทีที่เย้ยหยันเขา

ชนาวิชญ์มองหนุ่มสาวที่ร่างกายมีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มอย่างเคียดแค้น เขาเคยเจอผู้ชายคนนี้อยู่บ้างไม่กี่ครั้ง เขาคือหนุ่มหล่อวิศวะสุดฮอตที่จบออกไปแล้วนั่นเองชื่อ ‘เจ เจตริน’

“ทุเรศกันทั้งคู่ ผมอุตส่าห์ให้เกียรติอยากให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีค่าที่สุดในวันแต่งงาน โดยการแตะต้องคุณให้น้อยที่สุด แต่คุณกับไม่ให้เกียรติร่างกายของตัวเองเลยเมย์...” เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกเธอทันที แล้วเอ่ยกับเธออย่างตักพ้อทันที

“อย่างว่าละนะ คนบ้านนอกมันหัวโบราณแบบนี้นี่เอง ผู้หญิงเขาเลยเรียกใช้บริการฉันแทน” เจตรินพูดขึ้นมาอย่างดูถูกเขา

ชนาวิชญ์ที่ไม่อยากต่อความยาว ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเดิมทีก็พูดน้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้กลับเป็นวันที่เขาใช้คำพูดมากที่สุดเลยก็ว่าได้

“ขอกุญแจห้องผมคืนด้วย” เขาเอื้อมมือออกไปทางเธอ

“ไปแล้ว ก็อย่ากลับมาล่ะ ฉันอุตส่าห์ยอมเปย์ทุ่มเทให้ทุกอย่างแต่กลับหยิ่งยโส กล้าที่จะปฏิเสธน้ำใจกัน ก็เชิญหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองไปเถอะ วัน ๆ ทำแต่งานก็ไม่เห็นว่าวันข้างหน้า ฉันจะมองเห็นอนาคตของนายเลย...” เมยาวีพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด แล้วปากุญแจห้องของเขาที่มีคนละดอก ใส่เขาทันที

เขาก้มเก็บกุญแจห้องพักของเขา ที่เคยให้เธอไว้ ขึ้นมาแล้วกำไว้แน่น ก่อนจะลุกขึ้นหมุนตัวเดินออกจากห้องของเธอไป โดยไม่หันกลับมามองหน้าเธอเลย และไม่ลืมที่จะโยนคีย์การ์ดไว้ให้เธอคืนด้วย

สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดส่วนรวมของนักท่องราตรีในยามค่ำคืน หนึ่งในนั้น ก็มีชายหนุ่มนักศึกษาคณะนิเทศฯชั้นปีที่สาม นั่งกระดกเครื่องดื่มสีอำพรางเข้าไปในร่างกายไม่หยุด จนร่างกายที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่

“มีอะไรหรือเปล่ายัยปลา ฉันเห็นแกมองไปแต่ทางโต๊ะนั้น” นันธิดา เสียงใสของคนในห้องวีไอพีของสถานบันเทิงเอ่ยถามเพื่อน ที่มาด้วยกัน อย่างอยากรู้ เพราะเพื่อนเอาแต่สนใจหนุ่มโต๊ะข้างล่างที่ยกเครื่องดื่มขึ้นกระดกไม่เว้นเลย

“คนที่รู้จักน่ะ” หญิงสาวที่ถูกถามเอ่ยตอบเพียงแค่นั้น แต่สายตาไม่ยอมละออกไปจากหนุ่มโต๊ะนั้นเลยสักนิด เพราะกลัวจะคลาดสายตา

ปาณิศา ทัศนโสภณ หรือ ปลา หญิงสาวชาติตระกูลดีในวัย 25 ปี ครอบครัวมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่เธอกลับเลือกทางเดินด้วยตัวเอง เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงแทนเพื่อหาประสบการณ์ก่อน โดยเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดง แต่ก็ยังไม่ได้มีใครอยู่ในความคุ้มครองเลย

ปาณิศามีเพื่อนที่ออกมาร่วมสังสรรค์ด้วยกันสองคน คือ นันธิดา และ สาวิกา ทั้งสามเพื่อนสนิทกัน คบกันตั้งแต่ที่อยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง แต่จบออกมาแล้ว เพื่อนทั้งสองเข้าไปทำงานที่บริษัทของครอบครัว

มีแต่เธอที่ขอเวลาทำงานที่ตัวเองรักก่อน โดยการขอบิดาว่าจะมาเป็นผู้จัดการดารา ปั้นนักแสดง บิดาเลยให้เวลาเธอห้าปี หากว่าเธอไม่สามารถปั้นใครให้มีชื่อเสียงได้ เธอต้องกลับไปบริหารงานธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเธอก็ตอบตกลง

“ใครเหรอ” นันธิดาสะกิดถามเธอต่อทันที

“น้องที่คณะ แถมเคยไปรับจ้างขับรถให้พ่อฉันด้วยน่ะ แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น” ปาณิศาตอบออกไปตามตรง เพราะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอะไรอยู่แล้ว

“วิชญ์เหรอ” คราวนี้เป็นสาวิกาที่เป็นฝ่ายถามขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่หยานยาว เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในร่างกาย ที่ทำให้เริ่มรู้สึกเมา

“อื้มมม” เธอจึงพยักหน้ารับเป็นคำตอบอีกที

“ดูเหมือนจะมีปัญหาอะไรนะ กรอกเหล้าเข้าปากยังกับกรอกน้ำหวานเลย” นันธิดาเอ่ยขึ้น เมื่อเพ็งมองอยู่พักหนึ่ง

“เดี๋ยวฉันมานะ พวกแกกลับไปก่อนก็ได้” ปาณิศาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสองไปให้กลับไปก่อน

“เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนน่ะยัยปลา” นันธิดาเสนอขึ้นมา เพราะเป็นห่วงเธอ

“แกดูยัยวิกกี้ไปเถอะดา น่าจะเมามากแล้ว” เธอรีบปฏิเสธออกไปทันที เพราะเพื่อนอีกคนน่าจะเมาหนัก ตอนนี้ฟุบหลับไปกับโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ดูแลตัวเองด้วยนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel