บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“ล่ามโซ่เธอเอาไว้แล้วใช่ไหมเขม” มาร์คัสถามขึ้นขณะที่เขมกำลังใช้โซ่อีกเส้นปิดล็อคประตูทางเข้าออกของโรงม้าเอาไว้

“เรียบร้อยครับท่านผู้นำ... ว่าแต่จะไม่ให้ใครเอาอาหารกับน้ำดื่มเข้าไปไว้ให้เธอสักหน่อยเหรอครับ” เขมตอบพร้อมกับถามกลับในเวลาเดียวกัน

ดวงตาคมสีสวยแปลกตาจ้องมองใบหน้าของคนถามอยู่พักหนึ่ง แต่เขมกลับไม่รู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงอะไร เพราะอากัปกิริยาแบบนี้ของมาร์คัสนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ไม้เมืองและผู้อารักขาอีกสองคนต่างก็เงียบไป ปล่อยให้นายหนุ่มใช้เวลาคิดทบทวนกับคำถามของเขมโดยไม่กล้าเสนอแนะใดๆทั้งสิ้น

“ไม่ต้อง... ในนั้นมีน้ำและหญ้า เธอคงไม่อดตายก่อนที่ฉันจะลงมือทำอะไรหรอก” มาร์คัสสรุปก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่รถเบนซ์คันงาม โดยมีสองบอดี้การ์ดตามติดไปด้วย ส่วนเขมและไม้เมืองก็ทำได้แค่เพียงมองตากันปริบๆอย่างไม่เข้าใจเท่านั้น

“ไปกันเถอะไม้” เขมตบบ่าคนข้างกายที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เบาๆ

“พี่เขม เราจะทิ้งเธอไว้แบบนั้นได้เหรอ” ไม้เมืองถามเสียงเครียด และสีหน้าของเขมในตอนนี้ก็กำลังแสดงออกเช่นเดียวกันกับเขา

“จำที่บอกไม่ได้หรือไงวะ... รู้เท่าที่เจ้านายอยากให้รู้ และก็ทำอย่างที่เจ้านายอยากให้ทำไง” เขมย้ำขึ้นอีก

“ผมจำได้ขึ้นใจนั่นแหละน่า แต่พี่คิดว่าท่านผู้นำทำแบบนี้ไม่เกินไปหรือไง” ไม้เมืองยังดื้อรั้นตามประสาหนุ่มเลือดร้อน แต่นั่นก็เป็นเพราะจิตสำนึกที่ดียังทำให้เขารู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง

“แกก็รู้ดีนี่ว่าท่านผู้นำไม่เคยทำอะไรอย่างไร้เหตุผล... ไปกันเถอะน่า ถ้าตามรถท่านไปไม่ทันจะโดนสงสัยเอานะเว้ย” เขมว่าพลางลากแขนไม้เมืองให้ตรงไปที่รถ จากนั้นเขาก็ขับรถออกจากไร่อัปสรโดยไม่รีรออีก

แต่ตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่ในโรงม้านั้น อาจจะต้องหมดลมหายใจอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เพียงเพราะโรงม้าที่เธอถูกขังเอาไว้นั้นเป็นโรงม้าร้างที่ไม่มีม้าอยู่เลยสักตัว ด้วยเหตุนี้หน้าต่างทุกบานจึงถูกปิดตาย และดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมไปเสียสนิท...

มาร์คัสยืนทอดสายตามองออกไปยังเกาะเล็กๆอีกหลายแห่งเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด มือหนาถือแก้วใบสวยที่มีน้ำสีอำพันบรรจุอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับมันในเวลานี้ ภาพวิวทิวทัศน์ยามเย็นที่เขาชอบมายืนชื่นชมอยู่ริมระเบียงคฤหาสน์ประจำตระกูลแห่งนี้ ครั้งหนึ่งมันมีความหลังที่น่าประทับใจอย่างสุดซึ้ง แต่เมื่อนึกถึงคนที่ทำให้ความสุขของเขาหายไป อารมณ์ที่ทำท่าว่ากำลังจะสงบนิ่งก็คุกรุ่นขึ้นมาอีก

เสียงเคาะประตูอย่างมีมารยาทดังขึ้น ก่อนที่มาร์คัสจะได้ทันปาแก้วทิ้งไปนอกระเบียง เขาชะงักเล็กน้อยพร้อมกับกระดกเหล้าราคาแพงเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มกระชับเสื้อคลุมเนื้อดีเข้าหาตัว จากนั้นจึงเอ่ยปากบอกให้คนที่รออยู่ข้างนอกเข้ามาได้

“เชิญ” มาร์คัสพูดขึ้นในขณะที่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่บานประตูไม้สักขนาดใหญ่ และทันทีประตูถูกเปิดออก เรือนร่างระหงงดงามในชุดเดรสยาวคลุมเข่าสวยหรูก็ก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างในห้องอย่างช้าๆ พร้อมส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตร ซึ่งมาร์คัสเองก็แย้มยิ้มตอบกลับไปอย่างพึงพอใจเช่นกัน

แพรรุ้ง ภาคภิริยะ คือลูกสาวเพียงคนเดียวของรัฐมนตรีชีวิน ที่ถูกส่งมาเพื่อเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ในวันเกิดมาร์คัส ทั้งที่รู้กันอยู่แล้วแท้ๆว่าชายหนุ่มไม่เคยคิดจริงจังกับผู้หญิงคนไหน กระนั้นพวกบรรดาเศรษฐีน้อยใหญ่ก็ยังสมัครใจส่งลูกสาวตัวเองมาเพื่อทำให้เขาพึงพอใจอยู่ร่ำไป

มาร์คัสรู้ดีว่าคนพวกนั้นไม่ได้ทำทุกอย่างไปเพื่อเงิน เพราะหญิงสาวที่ถูกส่งตัวมาหาเขาแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกผู้รากมากดีมีอันจะกินกันทั้งนั้น แต่ที่ต้องทำไปก็มีเหตุผลอยู่อย่างเดียวซึ่งมันก็คืออำนาจ ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเอกรัฐ ต่างก็อยากได้อำนาจจากเขาไปไว้ใช้ปกป้องตัวเองและครอบครัวในเวลาที่เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น แต่มาร์คัสก็ไม่ได้คิดที่จะมอบมันให้กับใครไปง่ายๆ

“คุณมาร์คัสให้คนไปตามฉันมา ไม่ทราบว่าต้องการอะไรเหรอคะ” แพรรุ้งเดินเยื้องกรายเข้ามาใกล้ร่างสูงสง่าที่ยืนนิ่งมองเธออยู่อย่างช้าๆ ดวงตากลมโตจ้องลึกลงในดวงตาคมกล้าสีสวยประหลาดอย่างหวาดหวั่น ขณะที่มือเรียวบางบีบเข้าหากันแน่นเพราะความกังวล

“จะให้บอกอีกกี่ครั้งกันว่าอย่าเรียกผมอย่างนั้น สำหรับคุณมันไม่จำเป็นเลยสักนิดนะครับ ผมเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าคุณไม่เหมือนทุกคนของผม... แล้วที่ผมเรียกคุณมาที่นี่ คุณก็น่าจะรู้นะว่าเพราะอะไร” มาร์คัสพูดขึ้นหลังจากที่เอาแต่ยืนพิจารณาหญิงสาวตรงหน้า มือหนารั้งเอวบางให้เข้าประชิดตัว ก่อนจะก้มลงจุมพิตข้างแก้มใสอย่างแผ่วเบา

แพรรุ้งไม่ตอบอะไรและพยายามบังคับสายตาให้จดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเขา มือที่กำลังสั่นระริกปลดสายเสื้อคลุมออกตามหน้าที่ ก่อนจะดึงมันให้พ้นตัวชายหนุ่ม มาร์คัสโน้มใบหน้าขาวสะอาดลงมาใกล้เพื่อประทับจูบแนบชิดกับเรียวปากอิ่มสีชมพูระเรื่ออย่างเร่าร้อน มือใหญ่อบอุ่นเลื่อนขึ้นกอบกุมทรวงอกอิ่ม ขณะที่ริมฝีปากหยักลึกสีจัดก็เริ่มซุกไซร้ไปตามลำคอขาวผ่อง ขบเม้มเบาๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์

แพรรุ้งครางเสียงแผ่ว แข้งขาพาลอ่อนปวกเปียกเพราะตัวเธอเองก็ใช่ว่าจะโชกโชนเรื่องพวกนี้นัก และนี่ก็เพิ่งเป็นครั้งที่สองเท่านั้นที่กำลังจะได้รับสัมผัสวาบหวามจากชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า

เจ้าของร่างสูงเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาวอีกครั้ง แววตาประหม่าเขินอายผิดกับตอนแรกที่ก้าวเข้ามาในห้องทำให้มาร์คัสนึกพอใจมากขึ้นอีก เขาตวัดแขนแข็งแรงขึ้นช้อนร่างของแพรรุ้งไว้ เพราะเห็นว่าเธอยืนแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อแผ่นหลังบอบบางสัมผัสกับเตียงนอนนุ่ม

“อย่าทำหน้าเหมือนเห็นผมเป็นปีศาจนักสิ คราวก่อนที่เป็นครั้งแรกของคุณผมเองก็ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดอะไรไม่ใช่เหรอ” มาร์คัสถามขณะเอนกายเบียดเสียดร่างนุ่มนิ่มที่นอนสั่นระริกอยู่อย่างจงใจ มือใหญ่เริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างของหญิงสาวทีละชิ้นอย่างชำนิชำนาญ

“คุณมาร์คัสคะ คือว่า...” แพรรุ้งขยับจะถาม เพราะแปลกใจในการกระทำบางอย่างของเขา แต่กลับไม่มีโอกาสนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel