บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ค่ำคืนแรก

บทที่ 4 ค่ำคืนแรก

คำกล่าวของหลงเทียนที่ว่า “เจ้าคือคนของข้า” ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของไป๋ซูเหมิงราวกับเสียงฟ้าผ่าลงกลางใจ ความหวาดกลัวที่เกาะกุมแน่นหนาทำให้ร่างกายของนางเย็นเฉียบจนไร้ความรู้สึก

หลงเทียนไม่ได้รอการตอบรับ เขาสะบัดมือเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้ทหารสองนายที่ยืนอยู่ด้านนอกออกไป ก่อนจะหันกลับมาจ้องมองไป๋ซูเหมิงด้วยแววตาที่ยากจะอ่านออก

“คืนนี้เจ้าจะอยู่ที่นี่” หลงเทียนกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของนาง หยิบม้วนแผนที่ขึ้นมากางออก ราวกับเรื่องเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร

ไป๋ซูเหมิงยังคงยืนนิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก หญิงสาวมองไปรอบๆ กระโจมกว้างขวาง สายตาจับจ้องไปที่ทางออกที่ตอนนี้ดูเหมือนจะถูกปิดตายสำหรับนาง

“จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหน” เสียงเย็นชาของหลงเทียนดังขึ้น ทำลายความเงียบลงอย่างฉับพลัน “ข้าไม่ชอบรอ”

ไป๋ซูเหมิงสะดุ้งเล็กน้อย นางจำต้องก้าวเท้าไปด้านในอย่างจำใจ ความรู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัยถาโถมเข้าใส่เมื่อรู้ว่าตนต้องอยู่ร่วมกับชายผู้นี้ในพื้นที่ส่วนตัว กระโจมที่ดูเหมือนจะกว้างขวาง กลับกลายเป็นกรงที่คับแคบสำหรับหญิงสาวในยามนี้

หลงเทียนยังคงก้มหน้ามองแผนที่อย่างตั้งใจ มือใหญ่ของเขาลากนิ้วไปตามเส้นทางต่างๆ ที่สลับซับซ้อนไปมา บรรยากาศภายในกระโจมเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ไป๋ซูเหมิงไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว นางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเก้อเขิน ไม่รู้จะวางมือวางเท้าไว้ตรงไหน

เวลาผ่านไปช้าเนิ่นนานราวกับหนึ่งชั่วยาม หลงเทียนยังคงไม่ละสายตาจากแผนที่ ในขณะที่ไป๋ซูเหมิงเริ่มรู้สึกถึงความปวดเมื่อยที่ขาจากการยืนเป็นเวลานาน

“เจ้ายังไม่นอนอีกหรือ” หลงเทียนเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เสียงของเขาทำให้ไป๋ซูเหมิงสะดุ้งอีกครั้ง

“ข้า...” ไป๋ซูเหมิงพึมพำ ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

หลงเทียนพับแผนที่เก็บ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ท่ามกลางความมืดสลัวภายในกระโจม ร่างกายสูงใหญ่ของเขาดูราวกับเงาปีศาจที่กำลังคืบคลานเข้ามา ไป๋ซูเหมิงถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว

“ไปพักผ่อนซะ” หลงเทียนกล่าวเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนเรียบง่ายที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของกระโจม เขาถอดชุดเกราะออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นแผ่นหลังกว้างและกล้ามเนื้อที่อัดแน่นภายใต้เสื้อผ้าเนื้อบาง

ไป๋ซูเหมิงเบือนหน้าหนีด้วยความเก้อเขิน นางรู้สึกกระดากอายที่ต้องมาเห็นร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มตรงหน้า ไป๋ซูเหมิงรีบเบือนหน้าหนีไม่กล้าที่จะมองคนตรงหน้าโดยตรง ร่างกายสั่นเทาขึ้นมาราวกับลูกนกที่ถูกทิ้งไว้ในรัง

“เจ้าจะยืนตรงนั้นทั้งคืนหรือ” หลงเทียนถามขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงเริ่มมีแววหงุดหงิดเล็กน้อย

ไป๋ซูเหมิงรีบหันกลับมา ดวงตาเหลือบมองไปที่เตียงนอนของหลงเทียน ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว

“ข้า... ข้าจะไปนอนตรงนั้น” ไป๋ซูเหมิงกล่าวเสียงตะกุกตะกัก พลางผายมือไปยังมุมหนึ่งของกระโจมที่ว่างเปล่า

หลงเทียนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองไป๋ซูเหมิงด้วยสายตาคมกริบ ดวงตาของเขาฉายแววเย็นเยียบจนไป๋ซูเหมิงรู้สึกได้ถึงไอหนาวที่แผ่ซ่านออกมา

“เจ้าคิดว่าที่นี่...เจ้ามีสิทธิ์ตัดสินใจอย่างนั้นหรือ” หลงเทียนกล่าวเสียงเข้ม “มานี่!”

หลงเทียนเดินเข้ามาหาไป๋ซูเหมิงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววไม่พอใจที่เห็นไป๋ซูเหมิงดื้อรั้น ไม่รอให้ไป๋ซูเหมิงปฏิเสธ หลงเทียนเอื้อมมือใหญ่ข้างหนึ่งออกไป คว้าต้นแขนของไป๋ซูเหมิงอย่างรุนแรง แรงบีบมหาศาลจนไป๋ซูเหมิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นางถูกดึงให้เข้าไปใกล้ร่างสูงใหญ่ของหลงเทียนจนแทบจะชนกัน

“ปล่อยข้า!” ไป๋ซูเหมิงร้องออกไปอย่างสิ้นหวัง นางดิ้นรนสุดแรง แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการนั้นได้เลย

“หึ! คิดจะขัดคำสั่งข้าหรือ” หลงเทียนแค่นหัวเราะในลำคอ ดวงตาคมกริบจับจ้องไป๋ซูเหมิงราวกับจะฉีกเป็นชิ้นๆ “เจ้ายังไม่รู้ว่าใครเป็นนายของเจ้าสินะ”

หลงเทียนออกแรงกระชากร่างบอบบางของไป๋ซูเหมิงให้เดินตามไปยังเตียงนอนอย่างไม่ไยดี ไป๋ซูเหมิงสะดุดล้ม แต่หลงเทียนก็ยังคงลากนางไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนไป๋ซูเหมิงล้มลงไปบนฟูกนอนอย่างแรง

ความกลัวเข้าครอบงำจนไป๋ซูเหมิงตัวสั่นสะท้าน หญิงสาวมองใบหน้าของหลงเทียนที่ก้มลงมาใกล้ ดวงตาของหลงเทียนดูดุดันและแข็งกร้าว ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องเหยื่อ

“เจ้าเป็นคนของข้า ต่อไปอย่าได้คิดดื้อรั้นกับข้าอีก” หลงเทียนกล่าวเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยอำนาจที่ไม่อาจโต้แย้ง มืออีกข้างของเขาเลื่อนขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของไป๋ซูเหมิง นิ้วหยาบกร้านไล้ไปตามโครงหน้าเล็กอย่างช้าๆ สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไป๋ซูเหมิงไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ไป๋ซูเหมิงเบือนหน้าหนี แต่หลงเทียนก็ออกแรงบีบที่แก้มบังคับให้ไป๋ซูเหมิงหันกลับมาเผชิญหน้า

“อย่าได้คิดที่จะขัดขืน” หลงเทียนกล่าวเสียงกระซิบ แต่แฝงด้วยความเยือกเย็นที่ทำให้ไป๋ซูเหมิงรู้สึกถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่อย่างนั้น เจ้าจะต้องเสียใจ”

ดวงตาของหลงเทียนเต็มไปด้วยประกายเพลิงที่น่ากลัว มันไม่ใช่ความโกรธเกรี้ยว แต่มันคือความเด็ดขาดที่พร้อมจะลงทัณฑ์ทุกเมื่อที่ถูกขัดคำสั่ง ไป๋ซูเหมิงรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านจากสัมผัสของหลงเทียน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความเย็นเยือกที่แล่นเข้าสู่กระดูกสันหลัง

ไป๋ซูเหมิงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นางกำหมัดแน่นพยายามรวบรวมความกล้าที่มีอยู่ทั้งหมด แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของหลงเทียน หญิงสาวก็รู้ว่าไม่มีทางสู้ได้เลย

“นอนซะ” หลงเทียนกล่าวเสียงห้วน ก่อนจะปล่อยมือจากใบหน้าของไป๋ซูเหมิง เขาล้มตัวลงนอนข้างๆ หญิงสาวบนเตียงเดียวกัน โดยไม่สนใจว่าไป๋ซูเหมิงจะรู้สึกอย่างไร

ไป๋ซูเหมิงตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป นางนอนนิ่งไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย ความใกล้ชิดกับชายผู้เป็นทั้งแม่ทัพผู้โหดเหี้ยมและผู้ควบคุมชีวิตของนาง ทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวจนแทบจะหยุดหายใจ นางสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกายกำยำของหลงเทียนที่แผ่ซ่านมา นางได้กลิ่นดินปืน กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นบุรุษที่เข้มข้นจากตัวของอีกฝ่าย

ไป๋ซูเหมิงนอนตะแคงหันหลังให้หลงเทียน นางพยายามขยับตัวออกห่างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีพื้นที่ให้ขยับมากนัก เตียงไม่ได้กว้างขวางพอที่จะรองรับคนสองคนได้อย่างสบายๆ

หลงเทียนไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เขานอนนิ่งราวกับก้อนหิน แต่ไป๋ซูเหมิงก็ยังสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม การนอนร่วมเตียงกับชายที่นางหวาดกลัวที่สุดเป็นความทรมานอย่างแสนสาหัส นางหลับตาลงแน่น พยายามบังคับตัวเองให้นอนหลับ แต่ความหวาดกลัวก็ยังคงเกาะกินในใจ

คืนนั้นเป็นคืนที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของไป๋ซูเหมิง นางไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปเมื่อไหร่ แต่เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นางก็พบว่าหลงเทียนไม่ได้อยู่ข้างกายแล้ว มีเพียงความว่างเปล่าและความเย็นยะเยือกที่หลงเหลืออยู่บนฟูกนอน ไป๋ซูเหมิงลุกขึ้นนั่งช้าๆ มองไปรอบๆ กระโจมด้วยแววตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น นางยังคงอยู่ในกรงขังของพยัคฆ์ทมิฬผู้นี้ และไม่รู้เลยว่าวันข้างหน้าจะต้องเผชิญกับสิ่งใดอีกบ้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel