บท
ตั้งค่า

บทที่4 ตัน เครียด กินเหล้า

หนึ่งชั่วโมงก่อน

หลังจากถูกเพื่อนรักเทนัดกะทันหัน ปาริมาที่สั่งเหล้ากับมิกเซอร์มารอเลยนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง ไหน ๆ เธอก็ต้องการมากินเหล้าแก้กลุ้ม เลยคิดว่าจะดื่มอีกสักหน่อยแล้วค่อยกลับ ยังไงที่นี่ก็เป็นร้านอาหารกึ่งผับที่ค่อนข้างมีระดับ ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นเลือดร้อน แต่เป็นคนทำงาน บางครั้งหากโชคดีก็อาจจะเจอซูเปอร์สตาร์อีกด้วย เธอจึงค่อนมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย โดยไม่รู้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหนก็อันตรายกับผู้หญิงที่ดื่มจนเมามายคนเดียวอยู่ดี

หลังจากปาริมาดื่มไปได้สักระยะหนึ่ง ชายหนุ่มทั้งหลายที่แอบชำเลืองมองมาทางเธอบ่อยครั้งเพื่อดูสถานการณ์ เริ่มมั่นใจแล้วว่าหญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดเดรสสั้นสีขาวรัดรูปมาดื่มเหล้าคนเดียว

ในแวดวงคนนิยมย่ำราตรี ต่างก็รู้กันดีว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมาดื่มเหล้าเพียงคนเดียวมีอยู่ไม่กี่อย่าง บางคนอกหักจึงใช้เหล้ามอมเมาตัวเองให้ลืมความเจ็บปวด บางคนก็มาหาความสุขชั่วข้ามคืน จะมีส่วนน้อยที่มาหาลูกค้ากระเป๋าหนักที่นี่ ดังนั้นชายหนุ่มหัวใจเสือทั้งหลายจึงต่างจับจ้องนางฟ้าชุดขาวด้วยแวววาดหวังอย่างไม่ปิดบัง

ทว่าคนที่แทบไม่เคยมาสถานที่แบบนี้คนเดียวอย่างปาริมากลับไม่รับรู้ถึงบรรยากาศรอบตัวเลยสักนิด

เธอเผลอดื่มเอา ๆ รู้ตัวอีกทีก็มึนไปหมด แต่โชคดีที่ระหว่างผู้ชายชุดดำโต๊ะข้าง ๆ กำลังมาชวนไปดื่มด้วยกัน ก็มีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากดาราเกาหลีสองคนเข้ามากันท่าคนคนนั้นออกไปได้

“อ่า...นึกว่าใคร ที่แท้ก็...พี่พระเอกกับพี่กฤษณ์...เพื่อนอีตาพี่ชายใจร้ายข้างบ้านนี่เอง” ปาริมายังไม่ลืมความเจ็บช้ำที่คิรากรมอบให้เมื่อกลางวัน จึงเรียกเขาด้วยสรรพนามนั้น

“น้อง...เอ่อ...”

“ปาล์มค่ะ”

“ครับน้องปาล์ม ว่าแต่ทำไมถึงมานั่งดื่มคนเดียวแบบนี้ ไม่ได้ชวนคินมาด้วยกันเหรอ” กฤษณ์ถามในขณะที่อธิปเดินออกไปโทรศัพท์หาคิรากร เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอคนที่เพื่อนบอกว่าแอบชอบนั่งกินเหล้าอยู่คนเดียว

“หึ! รายนั้นน่ะเหรอ...อย่าให้พูดเลย...เขาสนใจแค่กาแฟฟรีเท่านั้นแหละ เคยรู้สึกอะไรกับปาล์มที่ไหน...ไอ้พี่คินบ้า” หญิงสาวต่อว่าคนที่วิจารณ์นิยายของเธอเละเทะ แล้วยังมีหน้านัดผู้หญิงออกไปหาความสุขกันทั้งที่เธอก็อยู่ตรงนั้นด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้

กฤษณ์ได้ยินแบบนั้น ก็เข้าใจว่าเธอกับคิรากรน่าจะมีเรื่องหมางใจกัน มิน่าหล่อนถึงได้มานั่งกินเหล้ากลางดงเสืออยู่คนเดียว

“เอ่อ...พี่ว่าน้องปาล์มกลับบ้านดีกว่านะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งให้” กฤษณ์เสนอด้วยความเป็นห่วง

“ม่ายอ่าว...ม่ายกลับ ปาล์มจะกินเหล้า เข้าใจไหมคะ”

“ได้ครับได้ งั้นย้ายไปนั่งโต๊ะ VIP ของพวกพี่ดีกว่า ถ้าขืนนั่งอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวก็มีคนมายุ่มย่ามอีก”

“พี่จะกิน...ปาล์ม เฮ้ย ม่ายช่าย ดวลเหล้า...กับปาล์มช่ายเปล่า” หญิงสาวหรี่ตามองใบหน้าคมสันอย่างคาดคั้น

“เอ่อ...” กฤษณ์อยากถามหญิงสาวที่แทบพูดไม่เป็นภาษาคนนี้เหลือเกินว่าไหวเหรอ ถึงได้มาชวนคนคอทองแดงอย่างเขาดวลเหล้า

“ถ้าพี่ไม่ตกลง ปาล์มไปชวนคนอื่นก็ได้”

“ไม่ต้องไปชวนไอ้กฤษณ์หรอก มันกลัวเมียด่า น้อง...เอ่อ...มากินกับพี่ดีกว่านะครับ” อธิปที่ออกไปโทรตามคิรากรเดินกลับเข้ามาด้วยใบหน้าเกลื่อนยิ้ม เขาปราดเข้าไปหาหญิงสาวที่ตนเองจำชื่อไม่ได้แม้กระทั่งชื่อ ก่อนยื่นมือไปแตะที่หลังของเธอ แล้วประคองร่างบางให้ลุกขึ้นเดินตามเขาไปที่โต๊ะ VIP อย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยให้กฤษณ์ทำหน้าที่คว้ากระเป๋าถือของหญิงสาวที่วางอยู่ตามมาภายหลัง

“ตัน เครียด กินเหล้า เอ้า! ชนนนน...”

“งานไม่แมส ผู้ก็นัดไปเอากับคนอื่น เราต้องดื่มให้ลืมเขา”

ปาริมาร้องตะโกนออกมาหลายประโยคอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ พลางยื่นแก้วออกไปชนกับอธิปอย่างสนุกสนาน ในขณะที่กฤษณ์พยายามติดต่อคิรากรทางไลน์

“มึงทำอะไร ไม่ใช่ว่าบอกริสาแล้วเหรอว่ามาดื่มกับกู” อธิปเห็นเพื่อนเอาแต่โทรสลับกับกดส่งข้อความมาสักพักแล้ว เลยอดถามไม่ได้

“เปล่ากูไม่ได้โทรหาริสา”

“อ้าว แล้วมึงโทรหาใคร”

“ไอ้คิน”

“ในเมื่อกูโทรแล้วมันไม่มา มึงจะตามมันอีกทำไม”

“ให้มันมาพาเด็กมันไปเคลียร์น่ะสิ อย่าบอกนะว่ามึงจะปลอบใจน้องเขาเอง”

“ปลอบใจ?” อธิปเลิกคิ้วถาม

“ดูท่าสองคนนี้จะทะเลาะกันอยู่”

“มิน่า มันถึงอนุญาตให้กู...เอาได้” อธิปหัวเราะอย่างน่าหมั้นไส้

“ไอ้เชี่ยธรรม์ มึงเอาจริงดิ”

“เอากับผีน่ะสิ นี่ของของเพื่อน กูยังมีสามัญสำนึกอยู่หรอกน่า เมื่อกี้ก็แค่แกล้งไอ้คินมันเฉย ๆ ใครจะไปรู้ว่าไอ้บ้านั่นจะไม่เหลียวแลน้องเขาจริง ๆ ล่ะ” ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นคาสโนวา แต่อธิปก็รู้จักขอบเขต จึงยังรักษาชื่อเสียงเอาไว้ได้ อย่างร้ายที่สุดก็อาจถูกนักข่าวหยิก ๆ หยอก ๆ ใส่อักษรย่อในข่าวกอสซิปบ้างในบางครั้ง ซึ่งข่าวลือเหล่านั้นไม่ได้ส่งผลกับความนิยมในตัวเขาเท่าไรนัก

“อยู่ ๆ ก็เป็นคนดีขึ้นมา นี่มึงกำลังทำให้ใครดูหรือเปล่า” กฤษณ์มองอธิปด้วยสายตาแฝงนัยบางอย่าง จนพระเอกหนุ่มต้องกระแอมแก้เก้อ

“รู้มาก” ว่าแล้วก็ก้มลงมองไอจีของกีรติกานต์ วันนี้เธอไปถ่ายแฟชั่นที่เชียงใหม่กับไอ้พระรองที่เล่นคู่กัน ท่าทางสนิทสนมแบบนั้นทำให้เขาหัวเสียจนต้องลากกฤษณ์มากินเหล้าที่นี่ ตอนแรกกะว่าจะหาสาวสวยสักคนกลับไประบายอารมณ์ที่คอนโด แต่เอาเข้าจริงกลับไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาตื่นเต้นได้เลย

“งั้นเราไปส่งน้องปาล์มก่อนที่จะเมาไปกว่านี้กันเถอะ” กฤษณ์เลิกล้ออธิป แล้วกลับไปให้ความสนใจปาริมาที่กำลังกระดกแก้วเหล้าไม่หยุด

“เรื่องอะไร เด็กของใครก็ให้มันมารับเองสิ” อธิปเหยียดยิ้ม

“ก็ไอ้คินมันไม่รับสายพวกเราไม่ใช่เหรอไง” กฤษณ์พูดด้วยน้ำเสียงจนใจ

“มึงก็ส่งข้อความไปอีก เอาแบบรัว ๆ เลยนะ” อธิปพูดพลางกระเถิบเข้าไปใกล้ปาริมา แล้วถ่ายรูปเธอในมุมที่ดูหมิ่นเหม่ จากนั้นก็จัดการโอบไหล่บอบบางของเธอแล้วขอถ่ายเซลฟี่ หญิงสาวกำลังเมาได้ที่จึงซบลงบนไหล่เขาแล้วฉีกยิ้มให้กล้องพร้อมโพสต์ท่า

เสร็จแล้วดาราหนุ่มก็เลือกรูปสองสามรูปแล้วส่งไปในไลน์ของกฤษณ์

“พอมันอ่านข้อความมึงก็ส่งรูปพวกนี้ให้มัน จากนั้นก็ปิดเครื่อง รับรองแม่งต้องแล่นมาภายในยี่สิบนาที” รอยยิ้มบนเรียวปากได้รูปขยายออกเกือบจะถึงดวงตา เล่นเอาผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ หูตาพร่ามัว นึกอิจฉาปาริมาที่ถูกดาราหนุ่มโอบไหล่ถ่ายรูปคู่จนตัวสั่น

จากนั้นไม่นาน คิรากรก็อ่านข้อความจริง ๆ กฤษณ์จึงรีบส่งข้อความและรูปถ่ายที่เตรียมไว้ไปให้ชายหนุ่มที่มัวแต่ไลฟ์สด แต่คราวนี้ได้ผล พ่อเกมเมอร์ตอบกลับมาอย่างร้อนรน พอถึงตรงนี้กฤษณ์ก็ปิดเครื่องทันที

อธิปกับกฤษณ์มองหน้ากันอย่างรู้ใจ จากนั้นก็พากันหัวเราะออกมาเสียงดัง ปาริมาที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาก็พลอยหัวเราะสนุกสนานไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel