บท
ตั้งค่า

​คำเตือนครั้งที่ 8 เรื่องของเรา (2)

​คำเตือนครั้งที่ 8

เรื่องของเรา (2)

ผมไม่รู้ว่าเทียจะโอเคหรือเปล่ากับการที่ถูกเรียกว่าเป็นแฟนของผมแบบนั้น…

ถึงแม้ว่าเราสองคนจะสนิทสนมกัน แถมความสัมพันธ์ก็ค่อนข้างจะพัฒนาไปได้ไกลมากกว่าคำว่าพี่น้อง แต่ผมยังไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอสักที ผมเลยไม่รู้ว่าเธอจะโอเคหรือเปล่าที่ผมไม่ชัดเจนพูดถึงสถานะของเราสักที

“ชื่อของพี่โมนาก็น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ชื่อเหมือนเจ้าหญิงในการ์ตูนเลย”

“โหยปากหวานมาก น่ารักสุด ๆ ไปเลยอ่าเมฆ นายหาแฟนน่ารักแบบนี้จากที่ไหน เราเห็นเรายังละลายเลย งื้อ น้องเทียน่าทำไมน่ารักแบบนี้คะเนี่ย”

“โมนา เยอะไปแล้ว”

“อะไรของนายองศา ขัดเราตลอดเลย เราไม่ได้ยุ่งอะไรกับนายเลยนะ เราคุยกับน้องอยู่ต่างหาก!”

เทียน่าหัวเราะกับการถกเถียงของโมนาและองศา ซึ่งยกนี้กลายเป็นว่าไอ้องศาถอนหายใจแทนการตอบโต้ เหมือนกับว่ามันยอมแพ้หรือไม่ก็กำลังเหนื่อยใจอยู่ก็ไม่ปาน

“เทียจะอยู่ที่นี่จนร้านปิดเลยหรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามพลางหันไปมองยังโต๊ะที่จัดงานวันเกิด ซึ่งตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความสนุกสนานและผู้คนมากมายที่ล้อมรอบอยู่บริเวณนั้น

“เทียว่าจะกลับแล้วล่ะค่ะ บอกเจ้าของวันเกิดไว้แล้ว นี่ก็ว่าจะมาเข้าห้องน้ำแล้วก็กลับกันนี่แหละค่ะ พวกพัชกับแฟงก็คงรออยู่ห้องน้ำแล้ว”

“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” ผมรีบเสนอตัวทันที รู้ดีว่าโดยปกติแล้วเธอมักจะขอกลับกับเพื่อนที่ชื่อพัชชา แต่การที่ผมมาอยู่ในร้านนี้ก็เป็นเพราะผมตั้งใจจะมาหาเธอ การที่ผมต้องไปส่งเธอที่คอนโดฯ จึงเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

“แต่พี่เมฆมากับเพื่อนไม่ใช่เหรอคะ ไม่ต้องไปส่งเทียหรอกค่ะ อยู่กับเพื่อน ๆ นี่แหละเดี๋ยวเทียกลับ...”

“โอ๊ย! น้องเทียน่า ไอ้เมฆมันตั้งใจมาหาหนูนั่นแหละ มันลากพวกพี่มาที่นี่เพื่อหนูเลย มันแค่เอาคำว่าเพื่อนมาบังหน้าเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมันแทบไม่เห็นหัวพวกพี่เลยครับ”

“ไอ้ติณณ์!” ผมกดเสียงต่ำและส่งสายตาดุ ๆ ไปให้

เรื่องเสนอหน้าต้องยกให้มันจริง ๆ นอกจากจะชอบสอดเรื่องคนอื่นแล้ว ปากของมันก็ว่องไวจนผมอยากหาเทปมาปิดไว้ให้รู้แล้วรู้รอด

“พวกพี่เองก็ว่าจะกลับแล้วล่ะครับ ให้เพื่อนพี่ไปส่งเถอะ” เป็นเสียงของไอ้องศาที่เอ่ยขึ้นเรียบ ๆ ซึ่งผมถึงกับยกนิ้วโป้งยกยอไปให้มัน

ส่วนไอ้ติณณ์ผมก็ยกให้เหมือนกัน...แต่เป็นนิ้วกลางนะ ยกให้สองมือไปเลย!

“ถ้างั้นเดี๋ยวเทียขอเดินไปบอกเพื่อนก่อนนะคะ”

“ครับ พี่ออกไปรอตรงที่จอดรถนะครับ”

เทียน่าพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหาเพื่อนของเธออย่างรวดเร็ว โดยที่ผมเองก็มองตามเธอไปจนกระทั่งสุดสายตา พลันเมื่อหันกลับมาก็พบว่าตอนนี้กำลังถูกจ้องทึ้งอย่างเอาคำตอบเป็นทิศทางเดียว

“มองไร” ผมถามพลางปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้ปกติ พอโดนมองด้วยความกดดันแบบนี้ก็ทำให้ไปไม่เป็นเหมือนกัน

“ซุ่มนะมึงอะ มีแฟนไม่บอกเพื่อนเลยนะไอ้หนุ่ม!”

“ยังไม่ใช่แฟน” ผมถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ตอนนี้จะพูดแบบนั้นไปไม่ได้เพราะสถานะของผมและเทียเราสองคนยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น

“อ้าว ม่านเมฆกับน้องไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ!”

“ก็...ใช่ ไม่ได้เป็นแฟนกันน่ะโมนาแต่...”

“ขอคบได้แล้วไอ้เมฆ อย่าทำอะไรให้มันยืดเยื้อ” ผมตวัดสายตามองไอ้องศาที่พูดคำคำนั้นออกมา มันเต็มไปด้วยความหนักแน่น เด็ดเดี่ยว จนผมเองก็เกิดความมั่นใจขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว

“อืม งั้นกูไปนะ” สิ้นคำนั้นผมก็รีบลุกขึ้นและเดินออกไปด้านนอกร้านทันที

ถึงเวลาแล้วล่ะที่ผมจะบอกความรู้สึกของตัวเองสักที และผมก็หวังว่าเทียน่าคงจะรู้สึกเหมือนกันกับผม

ขอให้ความรู้สึกของเราสองคนเป็นแบบเดียวกัน

ขอให้ความสัมพันธ์ของเราพบเจอกับจุดประสานในทิศทางเดียวกัน...

รถมอเตอร์ไซค์จอดเทียบหน้าคอนโดฯ ของเทียน่า ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ครึ้มมืดและมีลมแรงกระโชกราวกับว่าพายุกำลังจะก่อมวล ซึ่งในจังหวะนั้นเป็นช่วงที่คนตัวเล็กกำลังทรงตัวลงจากรถและเดินมาหยุดข้างกายของผมพอดี

แม่ง...ฝนกำลังจะตก มันก็เท่ากับว่าสิ่งที่ผมอยากจะคุยกับเธอตอนนี้ต้องพังไม่เป็นท่านี่สิ

“ลมแรงมาเลย คืนนี้ฝนต้องตกหนักมากแน่ ๆ เลยค่ะพี่เมฆ”

“น่าจะแบบนั้นครับ เทียรีบขึ้นห้องเถอะ” ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ใจจริงอยากจะเรียกรั้งเธอไว้อีกสักพักเพราะอยากคุยเรื่องของเรา แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้มันคงไม่เอื้ออำนวยนัก

“คือ...เทียมีเรื่องอยากคุยกับพี่เมฆน่ะค่ะ”

“ครับ? เรื่องอะไรเหรอ” ผมมุ่นคิ้วมองดวงตาหวานด้วยความแปลกใจ

“เอ่อ...มันเป็นเรื่องสำคัญน่ะค่ะ เทียอยากคุยกับพี่เมฆมานานแล้วแต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที จะคุยผ่านโทรศัพท์ก็ไม่เท่ากับการคุยตัวต่อตัว เทียเลยอยาก...”

“เรื่องของเราใช่ไหมครับ”

ผมเห็นเทียน่าลอบกลืนน้ำลายลงคอ แถมอาการประหม่าก็ยังสะท้อนออกมาเด่นชัด ความจริงก็ไม่กล้าปักใจว่าเรื่องที่เธออยากจะคุยคือเรื่องเดียวกันกับผมนักหรอก แต่ความรู้สึกส่วนลึกมันกลับตะโกนบอกออกมาแบบนั้น

“พะ...พี่เมฆ”

“ใช่ไหมครับ” ผมทวนถามอีกครั้งพร้อมกับจดจ้องมองคนตัวเล็กด้วยความหนักแน่น

ภายในใจก็พร่ำพูดถึงการตอบรับของเธอซ้ำไปซ้ำมา ขอให้เธอตอบตกลงว่าสิ่งที่เธออยากพูดกับผมคือเรื่องของเราสองคนอย่างที่ผมคิดไว้จริง ๆ

“ชะ...ใช่ค่ะ เรื่องของเรา” เทียน่าหลับตาแน่นก่อนจะพยักหน้ารับรัวเร็ว ซึ่งการกระทำนั้นทำให้ผมถึงกับพรูลมหายใจออกมา เฉกเช่นเดียวกับรอยยิ้มกว้างที่เหมือนกับว่าผมได้ยกของหนักอึ้งออกไปจากอก

“พี่เองก็อยากจะคุยกับเทียเรื่องนี้เหมือนกันครับ...เรื่องของเรา”

“อีกเดี๋ยวฝนก็คงตก ถ้าอย่างนั้น...เราขึ้นไปคุยกันที่ห้องเทียไหมคะ” คนตัวเล็กหลบเลี่ยงสายตาของผม ใบหน้าหวานก้มงุดลงสู่พื้น รวมไปถึงพวงแก้มใสที่ตอนนี้ออกสีแดงระเรื่อจนผมอดที่จะแกล้งไม่ได้

“ชวนพี่ขึ้นห้องอีกแล้วนะตัวแสบ”

“พะ...พี่เมฆ! เทียไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย!” จากเดิมที่หน้าแดง ๆ ตอนนี้ก็ยิ่งทวีคูณเข้าไปใหญ่ ผมยกมือขึ้นลูบเบา ๆ ที่เรือนผมนุ่มก่อนที่เธอจะหมุนตัวและรีบเดินหนีผมเข้าไปด้านในตัวอาคารด้วยความเขินอาย

“รอพี่ด้วยครับ” ผมหัวเราะในลำคอ รีบจัดแจงหาที่จอดรถของตัวเองและรีบวิ่งตามคนตัวเล็กเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ผมคงรออีกต่อไปไม่ได้แล้ว ถึงเวลาที่ผมจะแสดงออกถึงความรู้สึกของผมให้เทียน่ารับรู้สักที

MARNMEK’ S PART ; END

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel