บทที่สอง ป่าต้องห้าม (2)
ทั้งสามเดินทางต่อไปจนได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่ง เธอประคองไรอัน และพาเขาเข้าไปพักในถ้ำเพื่อจะได้ทำการรักษาให้เขา
เธอบอกให้เขาถอดเสื้อออก ไรอันรู้สึกเจ็บแผลจึงต้องให้ลีอาช่วยถอดให้ หลังจากถอดออกหมดแล้วลีอารู้สึกใบหน้าผ่าวร้อน เมื่อสายตาเจอกับรูปกายของชายหนุ่ม ไล่มาตั้งแต่แผงอกเปล่าเปลือยนั้น ลงมาถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง เรียบเรื่อยไปถึงสะดือ และ ณ จุดนั้นมีขนบางๆไล่ลงไปและหายลับไปตรงที่กางเกงปิดทับ เธอรีบเสมองไปทางอื่น
“หึๆ” ไรอันหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ
“แผลของข้าอยู่ที่แผ่นหลังนะ” เขาพูดพลางค่อยๆขยับมานั่งหันหลังให้ลีอา
เธอค่อยๆหันกลับมา สลัดความเขินอายและความคิดอื่นๆออกไปและเริ่มลงมือใช้พลังรักษาให้เขา
อาเรียน่ามองดูพวกเขาทั้งสองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“พี่ชายจะหายดีไหมคะ?” อาเรียน่าถามไรอันด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ และจับมือเขาไว้แน่น ไรอันมองหน้าเด็กหญิงเล็กๆ คนนี้ที่แม้จะกลัวแต่ก็พยายามให้กำลังใจเขา เขายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
“ข้าจะไม่เป็นไร เจ้าก็ต้องเข้มแข็งเหมือนกันนะอาเรียน่า”
เด็กหญิงพยักหน้าแล้วล้วงกระเป๋าเสื้อคลุมของเธอออกมา เธอหยิบขนมปังชิ้นเล็กๆ ที่เหลืออยู่ในกระเป๋าแล้วยื่นให้ไรอัน
“นี่ค่ะ พี่ชายต้องกินนะ จะได้มีแรงต่อไป”
ไรอันหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เขารับขนมปังจากเธอและกัดกิน แม้ขนมปังจะแข็งและเย็น แต่ความอ่อนโยนและความใส่ใจของอาเรียน่าทำให้มันกลายเป็นมื้ออาหารที่อบอุ่นที่สุดที่เขาเคยได้รับ
หลังจากทำแผลเสร็จ ไรอันจึงออกไปล่าสัตว์เพื่อนำมาทำอาหารให้ลีอาและอาเรียน่า
“ท่านระวังตัวด้วย” ลีอาพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
“พี่ชายต้องรีบกลับมาไวๆนะคะ” อารีน่าพูดพร้อมเข้าไปกอดแขนไรอันเขย่าเบาๆ
“ได้ ข้าจะรีบไปรีบกลับ พวกเจ้าหลบอยู่ในนี้ให้ดี ได้ยินเสียงอะไรก็อย่าออกไปเด็ดขาด” ไรอันกำชับ
จากนั้นเขาก็ออกไปอย่างเร่งร้อน แต่ก็ระมัดระวังไม่นานไรอันก็กลับมาพร้อมกระต่ายป่าสองตัวที่จัเดารถลกหนังและชำแหละมาจากในป่าแล้วเขาจัดการนำมันมาเสียบไม้และย่างกับไฟ
ทั้งสามนั่งล้อมรอบกองไฟ และกินไปเงียบๆ แต่ละคนต่างอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง
หลังจากมื้ออาหารก็ได้เวลาพักผ่อน ลีอากับอาเรียน่าช่วยกันหาหญ้าแห้งเท่าที่จะหาได้มากองสุมกัน และวางใบไม้ทับไว้ ขนาดพอให้นอนได้ทั้งสามคน
ขณะกำลังจัดแจงที่นอนอยู่นั้น ลีอาก็ร่ายเวทย์เพื่อป้องกันสัตว์มีพิษไม่ให้มารบกวน
ไรอันเลือกนอนทางซ้าย ขณะที่ลีอากำลังลังเลว่าจะนอนอย่างไร อาเรียน่าก็ดึงมือลีอาให้นอนลงข้างไรอัน และตัวเธอเองก็มุดเข้าไปนอนแทรกกลางระหว่างคนทั้งคู่
“อื้มมม อบอุ่นดีจังเลย” อาเรียน่าพูดอย่างมีความสุขพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“แต่จะอบอุ่นกว่านี้ถ้าหากว่า…” เด็กน้อยพูดพลางจับมือไรอันและมือของลีอาให้จับกันไว้ พาดลงตรงลำตัวของเธอ แต่ลีอาชักมือออก
“เอ่อ…ข้าว่าไม่ค่อยเหมาะกระมัง”เธอพูดในขณะที่สายตาเผอิญไปสบกับไรอันที่มองมาพอดี
อาเรียน่าก้มหน้าลง เปล่งเสียงแผ่วเบาสั่นเครือออกมา “ข้าขอโทษที่ทำให้พี่ลีอาไม่สบายใจ แต่ข้าแค่คิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่ เวลานอนพวกท่านจะนอนกอดกันและกอดข้าไว้” น้ำตาเด็กน้อยหยดลงมาเป็นสาย
ใจของลีอาอ่อนยวบ เธอก็นึกถึงท่านพ่อและท่านแม่ของเธอเช่นกัน แต่ตอนนี้ไม่มีพวกเขาแล้ว อาเรียน่าอายุเพียงแค่นี้ จะทุกข์ใจขนาดไหนหนอ
เช่นเดียวกับไรอัน เขาเศร้าใจอย่างยิ่ง ภาพของคนที่นอนตายเกลื่อนกลาดและซากปรักหักพังย้อนขึ้นมาให้เห็น เขาสลัดภาพเหล่านั้นออกไป และหันไปเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อย
“วันนี้เราเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ชายจะพาไปเล่นน้ำตก” เชาพูดพลางขยิบตาให้ลีอา
“นั่นสินะ พรุ่งนี้พีสาวก็จะพาเธอไปเก็บดอกไม้สวยๆด้วยล่ะ” ลีอายิ้มอย่างเอาใจ
อาเรียน่าหยุดร้องไห้ทันใด และหันมาส่งยิ้มสดใสให้กับพวกเขา
“สัญญานะคะ” เด็กน้อยยื่นนิัวก้อยเล็กๆออกมา
“จ๊ะ สัญญา” ลีฮาเกี่ยวก้อยกับอาเรียน่า และหันไปทำท่าให้ไรอันทำด้วย
คนตัวโตทำหน้าปูเลี่ยนๆ แต่ก็จำใจยื่นนิ้วออกมาเกี่ยวก้อยกับเด็กน้อย ทำให้อาเรียน่ายิ้มทั้งปากทั้งตา
ในที่สุด ลีอาก็จำต้องนอนโดยให้ไรอันจับมือตน ส่วนอาเรียน่านอนอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ไรอันสอดนิ้วมือประสานกับมือเธอ ทำให้เธอสะดุ้งจะชักมือกลับ
“ชู่ว มือจะได้ไม่หลุดจากกันไง” ไรอันกระซิบ
ลีฮาจึงทำได้เพียงปล่อยให้เขาประสานนิ้วมือเกาะเกี่ยวกับมือนุ่มของเธอไว้อย่างนั้น ทั้งสามหลับไปในท่านั้นเอง
ภายนอกถ้ำอันอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรักนั้น ปรากฎเงาร่างสายหนึ่ง มองเข้าไปในถ้ำอย่างเงียบงัน
