ตอนที่ 7 ยื่นข้อเสนอ
คิงส์ตันถอนหายใจพลางโยนเสื้อลงบนตักของคนตัวเล็กที่ใส่กระโปรงสั้นจนร่นขึ้นมาครึ่งหน้าขา เขาไม่ได้มีความคิดอกุศลอย่างที่เธอกำลังแอบคิดอยู่ในใจ เพียงแค่เห็นอีกฝ่ายลูบแขนไปมาจนรำคาญลูกตา คิดว่าคงหนาวเลยจะถอดเสื้อออกมาให้ใช้คลุมตัว
“เอาไปใส่ซะ ฉันไม่อยากให้มีคนตายบนรถ”
“ขะ ขอบคุณ ฉันก็แค่หนาว ไม่ถึงกับแข็งตายบนรถคุณหรอกน่า”
หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไม่คิดว่าเจ้าของแววตาดุ ใบหน้าไร้รอยยิ้ม จะเป็นคนมีน้ำใจเหมือนกัน แม้ว่าปากของเขาจะเสียอยู่หน่อย ๆ แต่เธอก็ไม่กล้านำเสื้ออีกฝ่ายมาสวมใส่ จึงหยิบมาคลุมตัวทางด้านหน้าแทน
“เคลียร์ปัญหากันไม่ลงตัวเหรอถึงได้ถูกไล่ลงจากรถ”
คิงส์ตันลองถามหยั่งเชิง ทว่าหญิงสาวได้ฟังประโยคนี้ก็ถึงกับของขึ้น
“ใครถูกไล่ ฉันลงมาเองต่างหาก คนแบบนั้นไม่มีอะไรให้ต้องเคลียร์หรอก อีกอย่างถ้าฉันกลับไปคืนดีก็โง่เต็มทีแล้ว”
แค่คิดถึงเหตุการณ์วันนั้นกับที่เกิดขึ้นในวันนี้ เธอก็โมโหจนอยากจะชกหน้าสิงหาไปสักทีสองที คนอะไรหน้าด้านที่สุด
“หึ”
“ทำเสียงแบบนี้หมายความว่ายังไง”
เมษาหันไปจ้องคนที่ชื่อว่าคิงส์ตัน ขณะที่อีกฝ่ายกระตุกยิ้มมุมปากส่งเสียงแค่นหัวเราะในลำคอ คล้ายกับเยาะเย้ยเธออย่างไรอย่างนั้น
หญิงสาวจำชื่อของเขาได้ดี เพราะเป็นคนขโมยจูบแรกของเธอไป ทว่าดวงตาเจ้ากรรมไม่รู้นึกบ้าอะไรถึงได้มองไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย พลันเกิดความรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขึ้นมาดื้อ ๆ
ใบหน้าสวยเห่อร้อนผิดกับอุณหภูมิของแอร์ที่มอบสัมผัสหนาวเย็นกระทบผิว จนต้องเบือนหน้าออกไปมองข้างทาง
มุมปากของคิงส์ตันกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนเอ่ย “ก็แค่ไม่นึกว่าเธอจะเด็ดขาด แค่เห็นว่ามาด้วยกันก็นึกว่าทางนั้นมาขอคืนดี”
“ก็แค่คนนอกใจ ทำไมฉันต้องกลับไปเอา”
“นักศึกษาอย่างเธอต้องใช้เงินอีกมาก แฟนก็ทิ้งไปแล้วคงขาดคนเลี้ยงดู อยากมาทำงานให้ฉันไหม จะเรียกเงินเท่าไหร่ฉันยินดีจ่ายให้ไม่อั้น”
“งานอะไร อย่าบอกนะว่าคิดจะให้ฉันไปเป็นพีอาร์ แล้วก็รับงานไซด์ไลน์ที่ผับ นี่คุณจะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ ถึงฉันจะตัวคนเดียว แต่ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินจนถึงขั้นต้องขายตัว”
ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความไม่พอใจชัดเจน หันมาตะคอกใส่เจ้าของคำถามอย่างไม่ยำเกรงว่าอีกฝ่ายจะอายุมากกว่า และเวลาโมโหขึ้นมาจะน่ากลัวเกินบรรยายมากแค่ไหน
วินาทีนี้ในสายตาของเธอเห็นคิงส์ตันเป็นเพียงคนที่หากินกับร่างกายผู้หญิง เนื่องจากพอจะรู้มาบ้างว่าโซนวีไอพีของผับนั้นขึ้นชื่อเรื่องเอ็นเตอร์เทน โดยการหาสาวสวยมาบริการนักดื่มอย่างเอาอกเอาใจ บางรายก็ถึงขั้นรับข้อเสนอไปต่อกันข้างนอก
เธอไม่รู้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับผับนั้นอย่างไร เป็นผู้จัดการ หัวหน้าการ์ด หรือเป็นแค่คนไปเที่ยวเหมือนกับเธอ ทว่าคำถามของเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน แสดงว่าไม่ได้มาดี
และที่น่าขุ่นเคืองก็คือถ้อยคำของเขาฟังแล้วเหมือนดูถูก ตั้งแต่คบกับสิงหาเงินแม้แต่บาทเดียวก็ไม่เคยขอ หากแต่ทางนั้นอยากซื้อของอะไรให้ก็เป็นอีกเรื่อง
แทนที่เสียงต่อต้านหลายประโยคจะทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกรำคาญใจ แต่น่าแปลกที่เขายังทำใจเย็นและเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนเรียบ
“ไม่รอฟังข้อเสนอหน่อยเหรอ เพราะฉันไม่ได้ให้เธอมาทำงานที่ผับ”
“งานอะไรฉันก็ไม่รับทั้งนั้น” เมษาปฏิเสธเสียงแข็ง
ธุรกิจผลิตสื่อโฆษณาของทางบ้านก็ยังสร้างกำไรเลี้ยงดูคนในบริษัทและครอบครัวมาโดยตลอด เธอมีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ ทำไมจะต้องสละเวลาพักผ่อนไปทำงานให้เขาด้วย
คิงส์ตันลอบสังเกตอีกฝ่ายก็พลันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้จัดการได้ยาก ดังนั้นควรจะหาทางหว่านล้อมหรือคิดหาวิธีอื่นที่เธอไม่อาจปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้
“ฉันแค่ต้องการคนมาจดทะเบียนสมรส แลกกับเงินค่าจ้างที่ทำให้เสียสถานะโสด”
“แล้วทำไมต้องเป็นฉัน”
เมษาหันไปถามอย่างนึกสงสัย ผู้ชายหน้าตาดีแบบนี้คงจะหาคนมารับหน้าที่นี้ได้ไม่ยาก ทำไมถึงเจาะจงว่าต้องเป็นเธอ
“เห็นว่าหน้าตาเธอพอใช้ได้ที่จะได้รับสถานะภรรยาของฉัน ก็แค่ลองถามเผื่อว่าเธอจะสนใจ งานง่าย ๆ แต่ได้เงินไปไว้ใช้ จะเรียกสี่ห้าแสน หรือมากกว่านี้ก็ยังได้ แต่ถ้าหากไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ฉันจะลองหาคนอื่นที่เขาขัดสนเรื่องเงิน แต่ถ้าช่วงนี้ชักหน้าไม่ถึงหลังก็ติดต่อฉันมาได้”
มาเฟียหนุ่มเอ่ยพลางโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวในชุดนักศึกษา อีกฝ่ายเอนแผ่นหลังแนบชิดกับประตูไร้ที่ให้หลบหลีก อกข้างซ้ายเกิดอาการสั่นระรัว ดวงตาของเธอจ้องใบหน้าหล่อที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ เอ่ยถามน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“คะ คุณจะทำอะไร”
มือเล็กดันแผงอกแกร่งเพื่อไม่ให้ใกล้กันมากกว่านี้ มาเฟียหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตด้วยแววตายากจะคาดเดา ในขณะที่คนถูกต้อนให้จนมุมรู้สึกว่ามือของคิงส์ตันกำลังทำอะไรบางอย่างบริเวณต้นขาของเธอ หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักหลับตาแน่นสนิท เบี่ยงใบหน้าออกไปด้านข้าง สัมผัสกับลมหายใจอุ่นเป่ารดพวงแก้ม
ทว่าพออีกฝ่ายล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูตได้สำเร็จ เขาก็ผละตัวออกไปนั่งที่เดิม ทำให้เธอลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของรถหรูที่กำลังยื่นนามบัตรให้กับเธอ
เมษากวาดสายตาไล่อ่านข้อความที่อยู่บนกระดาษสีดำ มีทั้งชื่อ เบอร์โทร และสถานที่ติดต่อ นั่นก็คือผับที่เคยไปเที่ยวแค่ไม่กี่ครั้ง ก่อนจะเงยหน้าส่งเสียงตั้งคำถาม
“คุณเป็นเจ้าของผับ”
“อือ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นในลำคอ ก่อนเอ่ย “ฉันเป็นเจ้าของที่นั่น และก็เป็นนักธุรกิจ งานที่เสนอให้ทำไม่ต้องกลัวว่าฉันจะขาดทุน ทุกงานที่ฉันหยิบจับต้องคำนวณผลได้ผลเสีย และต้องได้กำไรเท่านั้น”
พูดไปเธอคงไม่เข้าใจ อีกอย่างงานนี้ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเมษาอยู่แล้ว เธอก็แค่ถามไปอย่างนั้น ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรวยมากแค่ไหนกัน ถึงได้กล้าเอาเงินมากมายมาแลกกับทะเบียนสมรสแค่ใบเดียว
จากนั้นต่างฝ่ายก็ต่างเงียบไปเพราะนักศึกษาสาวไม่ได้ถามอะไรต่อ บรรยากาศในรถกลับมาอึมครึมอีกครั้ง แม้แต่เสียงเพลงหรือเสียงวิทยุก็ไม่เปิดให้ได้ยิน จนกระทั่งรถหรูหยุดอยู่ที่หน้าคลินิกทันตกรรม
“พี่คะ ขอบคุณที่ขับรถมาส่งนะคะ”
เมษาเอื้อมมือไปสะกิดแขนของคนขับรถเบา ๆ แทนที่เธอจะเอ่ยขอบคุณคิงส์ตัน แต่ดันไปขอบคุณลูกน้องของเขาแทน ก่อนจะเปิดประตูก้าวลงจากรถ ทำทีไม่สนใจคนที่นั่งมาด้วยกัน ราวกับเขาเป็นเพียงอากาศที่มองไม่เห็น
คิ้วเข้มของคนที่ถูกละเลยเคลื่อนเข้าหากันเป็นปม ส่งเสียงถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่กับท่าทางยียวนของเธอ ในขณะเกิดความคิดว่าจะคอยดูว่าผู้หญิงคนนี้จะหนีจากเงื้อมมือของเขาไปได้สักกี่น้ำ
“จัดการตามแผนที่วางไว้”
“ครับนาย” เพลิงขานรับคำสั่งของผู้เป็นนาย
ขณะที่เมษาเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อก็คว้าตะกร้าสีแดงมาถือเอาไว้ในมือ ทำทีเลือกหยิบของทว่าดวงตากลับลอบมองออกไปนอกกระจกจนกระทั่งรถหรูขับออกไป
ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้เจอกันบ่อย ครั้งแรกนั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่เธอเผลอดึงเขาเข้ามาบังเพื่อไม่ให้สิงหามองเห็น ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอก็จะทำแบบนั้นอยู่ดี
หากแต่ครั้งที่สองคิงส์ตันกลับจงใจดึงเธอไปจูบเพื่อแก้แค้นแฟนเก่า เธอก็อุตส่าห์ไม่ไปที่ผับนั้นอีก แต่เขาก็ยังวนเวียนเข้ามาในชีวิตของเธออยู่ดี พร้อมกับมอบข้อเสนอที่เรียกได้ว่าถ้าร้อนเงินหรือโลภมากจะต้องตอบรับอย่างแน่นอน
“ไอ้พวกคนรวยนี่มันดีจริง ๆ แค่ใช้เงินฟาดหัวก็สั่งให้คนอื่นทำอะไรก็ได้”
เมษาส่ายหน้าเบา ๆ ราวกับคนปลงตก ก่อนจะเลือกซื้อของแล้วรีบกลับเข้าคอนโด
