บท
ตั้งค่า

CHAPTER 4

บางครั้งการไปสถานที่ที่ไม่อยากไปแต่ต้องฝืนไปมันก็ทำยากเหมือนกันนะ อยากที่ต้องเจอกับความทรงจำอันเลวร้ายบ้าบอพวกนั้น

ยากที่ต้องมารับรู้เรื่องราวชวนตอกย้ำไม่มีที่สิ้นสุดทว่าจะทำยังไงได้การหลีกเลี่ยงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำการเผชิญหน้าต่างหาก

นี่คือสิ่งที่ฉันยังเลือก

“สบายดีมั้ย?”

“...”

“ฉันสบายดีนะ ไม่ต้องห่วง”

“...”

“คงเหงาแย่เลยอยู่ที่นั่น... หัดสู้คนเสียบ้างสิอย่าให้ใครมาทำร้ายได้อีกนะ ดูฉันเป็นตัวอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนขนาดนี้...”

“...”

ถึงจะพูดติดตลกรั้งท้ายแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลที่กำลังคุยด้วยหรอกต่อให้อยากได้ยินเสียแทบตายยังไงมันก็ไม่สามารถเป็นไปได้อยู่แล้ว การที่พูดออกมาแบบนี้ก็ไม่ได้การันตีอีกเหมือนกันว่าอีกคนที่คิดว่าเธอซึ่งคู่สนทนาจะรับรู้ได้แม้แต่ความรู้สึกแต่มันเป็นทางเลือกที่เหลือเพียงทางเดียวของฉัน

เธออยู่อีกโลกหนึ่งไปแล้ว

เธอไม่สามารถทำอะไรในโลกใบนี้ได้อีก

“ฉันเอาของที่เธอชอบมาให้ด้วย” ช่อดอกลิลลี่สีชมพูถูกวางด้วยมือเรียวขาวซึ่งดวงตาภายใต้แว่นตาดำขนาดใหญ่จดจ้องอยู่จุดเดียวสะท้อนกับรูปผู้หญิงคนหนึ่ง เธอยิ้มกว้างสดใสประกอบด้วยดวงตาอันหวานฉ่ำผมสั้นรับเข้ากับใบหน้ากลมดูเผินๆ เหมือนยังมีชีวิตอยู่แต่น่าเสียดายที่เธอได้จากโลกใบนี้ไปแล้วทั้งที่อายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำในตอนนั้น “เป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะ”

ฉันพูดขึ้นพลางหลับตาลงเพื่อกล้ำกลืนความรู้สึกอ่อนแอลงไปให้หมด ชีวิตของคนเราจะมีความสุขอยู่ไม่กี่อย่างหรอกหนึ่งในนั้นก็คือ ครอบครัวที่สมบูรณ์ทว่าในชีวิตฉันไม่ได้สัมผัสมัน ผู้หญิงด้านหน้าก็เหมือนกัน

ฟาง... พี่สาวฝาแฝดของฉัน

เธอแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกทำร้าย

เธอแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนตายทั้งเป็น

และเธอก็เลือกทางที่ใครๆ ในโลกนี้ไม่น้อยเลือกทำ

“ส่วนอันนี้ของตาหนู...” กล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินอ่อนผูกโบว์สีฟ้าอ่อนวางไว้คู่กันข้างช่อดอกลิลลี่ ภายในไม่มีอะไรหรอกก็แค่คุกกี้อัลมอนด์ไม่กี่ชิ้นที่ถูกทำขึ้นสดจากตอนเช้า “ทานให้อร่อยนะครับอย่าดื้อกับป้าฟางล่ะ”

ในขณะที่พูดคล่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ทุกคนไม่ได้เข้ามารู้ในใจฉันว่าความจริงแล้วมันรู้สึกยังไง ปกติงั้นเหรอเหอะ... บ้าแล้ว

จุดๆ นี้มันเลยทุกอย่างแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เสียใจ

“คิดถึงลูกมากนะครับ”

คิดถึงแต่ก็ทำได้แค่นี้...

ฉันทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว...

“ส่วนฟาง... จำได้มั้ยว่าฉันเคยบอกอะไร เคยย้ำอะไร ฉันจะตามจองเวรทุกคน ฉันจะรับกรรมทุกอย่างจากการกระทำตัวเอง ฉันจะทำให้คนพวกนั้นได้กระอักเลือดเหมือนที่มันทำกับเรา ฉันจะไม่ปรานีใครแม้แต่มัน ได้ยินใช่มั้ยเธอได้ยินชัดแล้วก็ไม่ต้องเป็นคนดีเข้ามาห้ามในความฝันอีกไม่ต้องให้ลูกเข้ามาให้ฉันเห็นซ้อนกับผู้ชายคนนั้น มันจะต้องเจ็บกว่าพวกเรายังไงฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่ขอแค่อย่างเดียวอยู่ที่นั่น... ขอให้ดูแลลูกให้ฉันก็พอ ดูแลให้ดี”

ทุกครั้งที่มาฉันขอภาวนาแค่นี้ต่อหน้าฝาแฝดของตัวเอง

ลูก...

เขาเป็นลูกชายนะ

ลูกชายที่ฉันเคยเห็นหน้าเห็นทั้งตัวเป็นก้อนกลมๆ เชียว เขาเด่นมากโดนเฉพาะจมูกโด่งจริงจังเห็นแค่ในตอนอัลตร้าซาวครั้งแรก ตัวเล็กกลมแต่ว่าหัวใจกับเต้นแรงตึกตักในยามที่เขาดิ้นเคลื่อนตัวสามารถเรียกรอยยิ้ม ทั้งที่เราไม่เคยได้เห็นหน้าในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่เคยได้จับมือ ไม่เคยได้หอมแก้มสักครั้ง ไม่เคยได้สบตากันแต่กลับต้องจากกันทิ้งแค่ความทรงจำเป็นเครื่องตอกย้ำความเจ็บปวด

ถ้าฉันดูแลเขาให้ดีคงไม่เป็นแบบนี้ ถ้าฉันไม่โง่งมเขาจะไม่จากไปทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตา

มันผิดที่ฉัน ผิดที่พวกนั้น...

Rr...

แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดกับความคิดที่เริ่มเพ้อไปไกลจากปัจจุบันมาก มันคืออดีตที่ไม่เคยลืมเลือนได้เลยสักครั้งเดียว

“อืม... ว่าไงเฟย์”

[เป็นอะไร หวัดเหรอ?]

“ใคร? คนอย่างฉันเหรอที่จะเป็นหวัดไม่อ่ะ คิดมาก”

[แล้วไปแล้วเสียงคัดจมูกนึกว่าไม่สบาย เป็นไงบ้างอยู่ที่นั่น]

“ก็ดี”

[ขอขยายความมากนี้หน่อยสิแฟน]

ฉันจำเป็นต้องลุกขึ้นก่อนถอนหายใจยาวให้ปลายสายรับรู้ ถึงแม้จะได้ยินเสียงหัวเราะออกมาแต่มันก็ไม่ใช่เสียงหัวเราะที่บ่งบอกถึงความสุขนักหรอก เก้าสิบเปอร์เซ็นมันคือความคิดมากมากกว่า

ทำไมฉันถึงจะไม่รู้ความคิดของพี่สาวตัวเองล่ะอาการพวกนี้มันเป็นแค่เครื่องบังหน้าปกปิดความเจ็บปวดเท่านั้นเอง

“ก็ดีหมายถึงมหาลัยสวย ห้องเรียนติดแอร์ทุกห้อง การเรียนการสอนโอเค เริดทุกอย่างแม้กระทั่งคอนโดก็หรูอยู่ได้อย่างสบาย ไปไหนมาไหนสะดวกแค่นี้โอเคมั้ย”

[แล้วตัวแฟนโอเคเปล่า]

“หมายความว่าไงก็ต้องโอเคสิ ดีทุกอย่างขนาดนี้”

[หมายถึงจิตใจนะแฟน]

จิตใจงั้นเหรอ... ไม่หรอก

“...”

ฉันเลือกไม่ตอบเพราะไม่อยากโกหกสู้ไม่ตอบดีกว่า

[ตั้งใจเรียนด้วยอย่ามัวแต่ทำเรื่องอื่น]

“...”

เรื่องอื่น...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel