THE FLIRT : 04
Minarin Talk
ฉันเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องเป็นร้อยๆรอบตั้งแต่กลับมาจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรฉันก็สลัดภาพรุ่นพี่ยูตะออกจากหัวไม่ได้เลย ยิ่งสัมผัสนั่น…
ฉันเผลอเอามือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างอดไม่ได้ วินาทีนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับฉันวะ สมองเบลอไม่ประมวลผล หูอื้อไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงใครนอกจากเสียงใจตัวเองที่เต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา ริมฝีปากเขา ลิ้นเขา หรือแม้แต่ลมหายใจของเขาทุกอย่างเหมือนมีมนต์สะกดให้ฉันตกอยู่ใต้ภวังค์ที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมา…
Line~ Line~
โฮะ...ตกใจหมด เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นเรียกสติฉันให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริง...ความจริงที่ว่า ผู้ชายอย่างเขาไม่มีวันที่จะมาสนใจเด็กกำพร้าจนๆอย่างฉันจริงๆแน่ นี่มันเป็นแค่แผนหลอกๆเท่านั้น...เพราะฉะนั้นห้ามเผลอใจให้เขาเด็ดขาด แล้วนี่ฉันเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย คิดถึงเขาอยู่ได้ ฉันสบัดหัวไล่ความคิดพวกนั่นก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไลน์ดู
Num : มึง กูกำลังจะเข้าไปเอาเลคเชอร์
Min : เครๆ
ฉันพิมพ์ไลน์ตอบน้ำเพื่อนที่คณะ มันยืมเลคเชอร์ฉันไว้ตั้งแต่เย็นแล้วแต่ฉันรีบไปหาพี่หนูดามันเลยจะเข้ามาเอาที่หอแทน
ก๊อกๆๆ
ทำไมถึงเร็วนักวะ...ฉันหยิบเลคเชอร์ที่มันจะเอาแล้วเดินไปเปิดประตูทันที แต่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่เพื่อนฉัน..แต่เขาคือคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุด ฉันรีบดันประตูปิดทันทีแต่รุ่นพี่ยูตะแรงเยอะกว่าเขายกแขนขึ้นดันประตูไว้แล้วผลักมันเข้ามาอย่างแรงจนตัวฉันเซถลาไปข้างหลังดีที่เขาเข้ามาคว้าตัวฉันไว้ก่อนที่จะล้มลงกับพื้นแล้วใช้มืออีกข้างปิดประตูห้องพร้อมกดล็อกทันที
“มะ...มาได้ไงเนี่ย คุณ…”
“หืม” เขาคำรามเสียงขัดขึ้นในลำคอพลางหรี่ตามองฉันอย่างจับผิดเพราะฉันกำลังขัดคำสั่งเขาไม่ได้เรียกอย่างที่เขาต้องการ คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด
“ปล่อย!” ฉันพูดเสียงแข็งพลางผลักเขาออกอย่างแรงจนเขาเซไปชนประตูจนฉันตกใจ ปกติเขาไม่ได้แรงน้อยอย่างงี้นิ แล้วทำไมผลักนิดเดียวถึงได้เซไปขนาดนั้นหล่ะ หรือเขาไม่ได้ตั้งใจจะออกแรงตั้งแต่แรกเขาแค่ประคองฉันเอาไว้เท่านั้น
ปึกกกก///
อ๊ะ//
“ซี๊ดดด รุนแรงนะเรา เดี๋ยวก็ตบ เดี๋ยวก็ผลัก เฮียระบบไปหมดแล้วเนี่ย” เขาพูดพลางเอามือไปจับไหล่ซ้ายที่กระแทกกับประตูเมื่อกี้ด้วยสรรพนามแทนตัวเองที่มันทำให้ใจฉันเต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ ทำไมฉันประหม่าขนาดนี้..ทั้งที่เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
“แล้วคุณมาทำอะไร แล้วรู้ที่อยู่ฉันได้ไง ออกไปเลยนะ จะมาทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้นะ” พูดจบฉันก็รีบดันร่างสูงเพื่อให้เขาออกจากห้องฉันไปให้เร็วที่สุด เพื่อนก็จะมา..ถ้ามาเห็นเขาอยู่แบบนี้เป็นเรื่องแน่
“หนึ่งพัน เดือนนี้เหลือ สี่หมื่นเก้า”
“ห๊ะ!!”
สิ้นเสียงเขาฉันร้องขึ้นอย่างตกใจและหยุดการกระทำรีบดีดตัวยืนตรงทันที อะไรกัน...เขาจะมาเที่ยวหักเงินฉันแบบนี้ไม่ได้นะ
“เมื่อกี้เราเรียกเฮียว่าอะไรหล่ะ” เขาเลิกคิ้วถามพลางโน้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกับฉัน แล้วยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ฉันรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นดันแผงอกแกร่งของเขาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยต่อว่าเขาเสียงเรียบ
“เอาแต่ใจ...มากเกินไปแล้วนะ”
ก๊อกๆๆ
ฉันรีบหันไปมองประตูหน้าตาตื่นและจับข้อมือรุ่นพี่ยูตะที่กำลังจะเอื้อมไปบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตูไว้ก่อนพลางส่ายหน้าเลิ่กลั่กให้เขาแล้วรีบลากตัวเขาเข้ามาในห้องน้ำทันที
“อยู่ในนี้ห้ามออกไปนะ เข้าใจไหม” ฉันเอ่ยบอกเขาเสียงแผ่วจนแทบจะไม่ได้ยินด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนสุดๆ เหมือนแอบพาผู้ชายเข้าบ้านแล้วพ่อแม่จับได้ยังไงก็ไม่รู้ ฉันกำลังจะหันกลับเพื่อจะออกจากห้องน้ำแต่รุ่นพี่ยูตะรั้งแขนฉันให้หันกลับมาหาเขาแล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ทำไม แฟนเรามาหรอ แต่ไอ้รุ่นน้องมันบอกมิณาไม่มีแฟนหนิ”
“เพื่อน ห้ามส่งเสียงด้วยรู้ไหม” ฉันตอบเขาด้วยสีหน้าที่ร้อนลนขึ้นเรื่อยๆ เสียงเคาะประตูก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่องเร่งเร้าฉันจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วเนี้ย ฉันรีบแกะมือเขาออกแล้ววิ่งไปที่ประตูก้มหยิบเลคเชอร์ที่ล้วงอยู่กับพื้น สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนพ่นมันออกมาทางปากเพื่อปรับให้ดูเป็นปกติมากที่สุด
“มาแล้วๆ” ฉันทำเอ่ยบอกคนข้างนอกก่อนจะเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูแล้วแง่มน้อยๆเพื่อส่งเลคเชอร์ออกไปให้น้ำที่ยืนทำหน้าเหวี่ยงอยู่ด้านนอก
“มึงทำห่าไรอยู่วะ กูเคาะตั้งนานแล้วเนี้ย นี่มึงเป็นอะไร ซ่อนอะไรไว้” พอมันด่าฉันเสร็จก็ทำท่าชะเงือมองเข้ามาในห้องก่อนจะดันประตูเพื่อจะเข้ามาในห้องฉันให้ได้แต่ฉันก็ขืนมันสุดแรงเหมือนกัน แม่งเอ้ยยย..ทำไงดีวะ จะปล่อยให้เข้ามาได้ไงเล่า
“เห้ยมึง กูโป้อยู่ ก็กูกำลังอาบน้ำยังไม่เสร็จเลยเนี้ย รีบมาเปิดประตูให้มึงก่อน” ฉันจำเป็นต้องโกหกมันออกไปแบบนั้นเพื่อไม่ให้มันสงสัยและเข้ามาในห้องฉัน ดีนะที่เอาตัวแอบไว้หลังประตูมันเลยไม่เห็นว่าฉันใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้ว
“แน่ใจ” มันหรี่ตาถามฉันอย่างสงสัย ฉันรีบพยักหน้าให้มันแทนคำตอบแล้วยัดเลคเชอร์ใส่มือมัน
“เออๆ งั้นกูกลับแหละ..แต๊งค์มึง”
ฉันปิดประตูลงหันหลังพิงประตูและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งออกที่สุดท้ายมันก็ยอมกลับไปทั้งที่หน้าตามันดูลังเลและสงสัยเอามากๆ ตัวปัญหาจริงๆ ฉันจะทำยังไงกับผู้ชายเอาแต่ใจคนนี้ดีนะ
ฉันเดินไปเปิดประตูห้องน้ำเห็นเขารีบโดดลงจากเคาน์เตอร์ล้างหน้าแล้วหันมายิ้มให้ฉันอย่างดีใจราวกับกำลังรอให้ฉันมาเปิดประตูอยู่อย่างงั้นแหล่ะ...จะเป็นไปได้ยังไง นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี้ย ไร้สาระที่สุด
“เพื่อนไปแล้วหรอ”
“อืม คุณ เอ้ย! ฮะ...เฮียก็กลับไปได้แล้ว” ฉันรีบกลับคำแทบไม่ทันจนเขาหลุดยิ้มน้อยๆออกมาในท่าทางของฉัน ก็เล่นเอาเงินมาขู่แบบนั้น...จนๆอย่างฉันก็แพ้ไปซิ
“หึ กลับได้ไง ยังไม่ได้คุยธุระเลย” พูคจบเขาก็ลากฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วพาฉันมานั่งที่เตียง ส่วนเขาก็เดินที่โต๊ะหนังสือหยิมมือถือฉันและยกเก้าอี้มาวางหน้าฉันก่อนนั้งลงบนเก้าอี้นั่น ห้องฉันมันเล็กน่ะ ไม่มีที่ตอนรับแขกหรอกแต่ก็ยังดีที่เขาไม่ถือวิสาสะมานั้งบนเตียงฉัน
“ปลดล็อก” เขาส่งมือถือมาให้ฉันแล้วเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง
“ทำไม”
“ไม่ต้องถาม เร็ว ถ้าดึกมากเขาปิดประตูข้างล่างเฮียได้นอนนี้นะ” ฉันปลดล็อกหน้าจอมือถือแล้วส่งให้เขาอย่างจำยอมก่อนจะเอ่ยบอกเขาเสียงแผ่ว
“ความจริงอยู่กันสองคน ไม่ต้องเรียกแบบนั้นก็ได้มั้ง”
“ไม่ได้เดี๋ยวมันไม่ชิน เกิดหลุดขึ้นมาซวยแน่ เฮียไม่อยากหมั้นกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆนะ มีแค่มิณาคนเดียวที่ช่วยเฮียได้” เขาพูดขึ้นโดยที่ยังไมละสายตาจากมือถือของฉัน ทำไมเขาถึงอ่อนลงได้ขนาดนี้ ผิดกับคนที่ฉันเจอเมื่อช่วงหัวค่ำเลยราวกับคนละคน แต่คำพูดเมื่อกี้...เขาไม่อยากหมั้นกับผู้หญิงคนนั้นแล้วมาบอกฉันทำไม...ทำไมถึงเป็นฉันคนเดียวที่ช่วยเขาได้ ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองสำคัญขึ้นมายังไงยังงั้นทั้งๆที่รู้ว่าเขาพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร เขาแค่อยากให้แผนตัวเองสำเร็จก็เท่านั้น ยังจะเสือกคิดตามเขาอีกทำไมวะ
“อ่ะ อันนี้เบอร์เฮีย” เขาเงยหน้าขึ้นส่งมือถือมาให้พร้อมกับชะงักไปนิดนึง ฉันรับมือถือแล้วหน้าหนีไปอีกทางอย่างรีบร้อนแต่ก็ไม่ทันอยู่ดีเขาเห็นแน่ๆว่าฉันกำลังมองเขาอยู่ บ้าฉิบ…
“แค่นี้ใช่ไหม..กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวประตูปิดก่อน” ฉันรีบลุกเดินนำเขามาที่ประตูทันที ต้องให้เขากลับไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิดประหม่าไปหมดแล้วเขาก็ลุกตามฉันมาอย่างจำยอม อยู่ได้ก็หน้าด้านไปแล้วแหละ ไล่ขนาดนี้
“เครๆ ตอนแรกกะว่าจะคุยให้จบไปเลยแต่เดี๋ยวเฮียส่งข้อมูลมาให้ในไลน์แทนหล่ะกัน ข้อมูลที่มิณาต้องจำให้ได้เกี่ยวกับเฮียหน่ะ”
“ฉันชื่อมิณ” ฉันพูดย้ำเขา เรียกมิณาอยู่ได้ ชื่อก็มี ได้ยินเรียกแบบนี้ทีไรใจไม่ดีทุกที..
“ก็อยากเรียกแบบนี้อ่ะ น่ารักกว่าตั้งเยอะ”
อื้ออออ>////<
เขาพูดจบแล้วเอามือขึ้นมาหยิกแก้มฉันทั้งสองข้างด้วยพลางทำหน้าแบบหมั่นไส้ฉันสุดๆอีกด้วย ฉันรีบเอามือเขาออกหันไปเปิดประตูดันร่างสูงออกไปให้พ้นๆห้องฉันแล้วปิดประตูลงทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงหวานล้อเลียนฉันอยู่ด้านนอกนั่น เขานี่มัน...ตัวอันตรายชัดๆ ฉันรีบเอามือขึ้นปิดหู ฉันไม่อยากได้ยินเสียงเขาแม้แต่นิดเดียว...ม่ายยย
“ฝันดีนะครับ พรุ่งนี้เจอกันนะหนูมิณา~”
