บท
ตั้งค่า

THE FLIRT : 02

ผมยังพูดไม่ทันจบไอ้เฮียวา พี่ชายตัวดีของผมก็เปิดประตูเข้ามาซะก่อนพร้อมกับผู้หญิงที่เดินตามหลังมันเข้ามา และผู้หญิงคนนั้นทำให้ผมช็อก...ช็อกมาก แม่งเอ๊ยยยย พามาทำไมวะเนี่ย กูเจอวันนั้นยังหลอนไม่หายเลย..แล้วเธอก็พูดขึ้นด้วยท่าทางดีใจสุดๆ ซึ่งขัดกับผมมากเพราะตอนนี้ผมคิดว่ามันเหี้ยสุดๆ

“พี่ยูตะอยู่ที่นี่จริงด้วย”

“ไอ้เฮีย! มึงพามาทำไมเนี่ย” ผมหันไปด่าไอ้พี่ชายตัวดีทันที เวรเอ๊ย อุตส่าห์หนีมานี้คิดว่าจะพ้นแล้วนะ

“ก็ซายะเขาบอกว่าอยากเจอมึง คิดถึงมึงจะแย่ กูก็เห็นว่าเดี๋ยวก็จะหมั้นกันแล้วเลยคิดว่าพามานี้ได้” มันตอบกลับมาพลางทำหน้าได้อินโนเซนต์สุดๆ ดูมัน..กวนตีนฉิบหายและทุกสายตาแม่งก็พร้อมใจกันหันมามองผม ก็ยังไม่มีใครรู้ไง ผมไม่คิดจะบอกและผมก็ไม่คิดจะหมั้นกับยัยซายะอะไรนี่ด้วย แม่นะแม่ทำอะไรไม่ปรึกษา ผมเลยหนีออกมาอยู่คอนโดซะเลย

“เชี่ยยยย..กูพลาดช็อตเด็ดไปเหรอวะ” ไอ้เฮียแม็กรีบพูดเสริมขึ้นทันที

“นี่ซินะ..กูถึงเจอมึงที่คอนโด” ไอ้ดินเอ่ยขึ้นแล้วอมยิ้มน้อยๆ ไอ้เวรนี่ก็เสือกจริงๆ แทนที่ยัยซายะจะไม่รู้ว่ากูไปหลบอยู่ไหน

“พี่ยูตะไปนอนที่คอนโดเหรอคะ ถึงว่าซายะไปที่บ้านไม่เจอ แล้วคอนโดพี่อยู่แถวไหนเหรอค่ะ”

“กะ…”

“ไอ้สัสดิน หุบปาก!” ผมรีบหันไปด่าไอ้เหี้ยดินพลางเอามือชี้หน้ามันอย่างคาดโทษทันที ไอ้ห่าร้อยวันพันปีไม่เห็นพูดมากอย่างงี้ แม่งน่าโมโหฉิบหาย แต่ตอนนี้จะเอาไงดีวะ...ยัยซายะนั่นก็ยังยืนทำหน้าสงสัยไม่เลิก ผมหันกลับไปมองไอ้พวกนั้นแม่งก็นั่งหัวเราะกันไม่มีใครคิดจะช่วยกูสักคน ถ้าปล่อยให้อยู่แบบนี้ไอ้พวกนี้ต้องปากโป้งบอกที่อยู่คอนโดแน่ จริงซิ..ในนี้มีผู้หญิงอีกคนนี่หว่า ผมได้ตัวช่วยแหละ...หึ

พรึบบบบ

อ๊ะ…

ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งข้างยัยตัวเล็กนั่นแล้วยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักของผมทันที ท่ามกลางความตกใจของทุกคน แต่ใครสน...ตอนนี้ผมแค่อยากไล่ยัยซายะนั่นออกไปให้ไกล...ไปจากชีวิตผมเลยได้ยิ่งดี

“ไอ้!!! ....อุ๊บ” ผมรีบเอามือขึ้นปิดปากยัยตัวเล็กนี่ที่กำลังจะด่าผมแล้วล็อกตัวเธอไว้ด้วยแขนอีกข้าง

“จุ๊ๆ ๆ งอนอะไรนักหนาล่ะ เมียจ๋า ดีกันนะ...นะ”

ฟอดดดด

พูดจบผมก็กดจมูกลงไปบนแก้มนวลนั่นทันทีพร้อมสูดดมความหอมเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะผละออก จะว่าไปแก้มยัยตัวเล็กนี่ก็หอมดีเหมือนกันแฮะ

“นะ..นี่มันอะไรกัน โอกาซังบอกว่าพี่ยูตะไม่มีแฟน..” ยัยน้องซายะพูดขึ้นหน้าตาตื่น คงจะตกใจไม่น้อยเลยแหละ ก็แม่ผมเล่นโปรโมทซะดิบดี เจอแบบนี้ก็ต้องช็อกเป็นธรรมดา

“จ๊ะ ไม่มีแฟน...เนี่ยเมีย แล้วเราก็รักกันมากกกก เนอะเมียจ๋า” ผมหันไปบอกยัยซายะที่ยืนอึ้งกิมกี่อยู่ข้างๆ ไอ้เฮียวาก่อนจะหันมาส่งตาหวานให้คนบนตักที่ตอนนี้ทำได้แค่ถลึงตาใส่ผมเพราะเธอไม่สามารถสู้แรงผมได้อยู่แล้ว

“ไม่จริงหรอก ซายะไม่เชื่อ พี่จ้างผู้หญิงคนนี้มาหลอกซายะใช่ไหม”

นั้นไง...กูว่าแล้ว แม่งรู้ดีจังวะ..เห็นทำตัวใสๆ แอ๊บแบ๊ว นึกว่าจะโง่..เสือกฉลาด เอาไงดีวะกู ไอ้ตัวที่อยู่บนตักแม่งก็ฤทธิ์เยอะฉิบ คิดไม่ออกแล้วเว้ยยย...เอาวะ เดี๋ยวค่อยเคลียร์ที่หลัง ผมเปิดปากยัยตัวเล็กบนตักออกแล้วปิดปากเธอด้วยปากผมแทนทันทีก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมาท่ามกลางความตกใจของทุกคน

“อะ...อื้ออออ”

“เห้ย!!”

หนูดาร้องขึ้นอย่างดังก่อนที่ไอ้ดินจะดึงไปกอดไว้อย่างรู้งาน ตอนแรกก็กะจะแค่เอาปากชนไว้เฉยๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้ไง ผมเผลอแทรกลิ้นเข้าไปฉกชิมความหวานในปากเล็กนั่นอย่างห้ามไม่ได้ รสจูบยัยตัวเล็กนี่หวานซะจนไม่อยากถอนออกเลยแฮะ

กรี๊ดดดดดด

ปังงงงง

ผมได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงปิดประตูลงอย่างแรง คิดว่ายัยซายะนั่นน่าจะออกไปแล้ว แต่...ขออีกหน่อยแล้วกัน ไหนๆ ก็ได้จูบแล้ว ไม่ทันไรผมก็รู้สึกถึงแรงฝ่ามือปะทะเข้าที่หัวผมอย่างจัง

ผัวะ///

“ไปนานแหละ ไอ้สัส” ไอ้เฮียวานี่แมร่ง มารผจญกูทุกเรื่องจริงๆ ผมถอนจูบออกจากยัยตัวเล็กนั่นอย่างเสียดายพลางเอาลิ้นแตะลิ้มฝีปากที่ยังมีความหวานติดอยู่ก่อนจะหลุดยิ้มออกมา แต่คนบนตักทำไมนิ่งจังวะ ช็อกไปแล้วมั้ง...โฮะ...หน้าเธอแดงมาก อย่าบอกนะว่ายัยตัวเล็กนี่ไม่เคยจูบงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว..เป็นไปได้ไง

“กูว่าช็อก หึ” ไอ้เฮียแม็กพูดขึ้นพลางยกยิ้มขึ้นมุมปากก่อนที่หนูดาจะเอื้อมมือมาสะกิดถามยัยตัวเล็กบนตัก

“มิณ เป็นไรไหม”

แล้วเธอก็สะดุ้งจนสุดตัวเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์อะไรทำนองนั้น รีบดีดตัวลุกขึ้นพุ่งไปยังประตูทันที แต่ผมไวกว่าคว้าแขนเธอไว้ได้ซะก่อนที่เธอจะถึงประตูซะอีก

เพี้ยะ////

เธอหันกลับมาฟาดมือเข้าที่หน้าผมอย่างแรง เรียกได้ว่าน่าจะสุดแรง...แม่งเอ๊ยยย เจ็บฉิบ แต่ผมยังปล่อยเธอออกไปไม่ได้เผื่อยัยซายะนั่นยังไม่กลับ ที่ทำมาทั้งหมดก็เสียเปล่าดิ

“จะตบกี่ทีก็เชิญเลย แต่อย่าเพิ่งออกไปตอนนี้”

เพี้ยะ….

อู้ยยยย

ฝ่ามือเล็กนั่นฟาดลงมาที่หน้าผมอย่างแรงจนหันไปอีกทางและตามมาด้วยเสียงร้องของไอ้พวกที่อยู่ในห้อง จะไม่ให้ร้องได้ไงแม่งเล่นซะดังสนั่น ผมหันมาหาเธอยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนไปอีกที

เพี้ยะ….

อู้ยยยยย

แม่งเอ๊ยยย...มือหนักฉิบ ผมหันมาแล้วรีบคว้ามือเล็กนั่นไว้ก่อนที่จะฟาดลงมาที่หน้าผมอีกครั้ง

หมับบบบ

“พอ! ซี๊ดดดด...เจ็บฉิบ แตกแล้วมั้งปากกู”

ผมเอามืออีกข้างขึ้นแตะที่มุมปากตัวเองเพราะผมรู้สึกถึงรสฝาดอยู่ภายในปาก ได้เลือดจนได้ พอให้ตบก็เอาซะคุ้มเชียว...เดี๋ยวเจอเอาคืนแน่ ยัยตัวดี

Minarin Talk

แล้วอยู่ดีๆ รุ่นพี่ยูตะบ้ากามนั่นก็ลากฉันออกมาจากห้องและเปิดประตูห้องข้างๆ พอเห็นว่าไม่มีใครก็ลากฉันเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูทันทีแถมยังล็อกอีก เขาจะทำอะไรกันแน่...ไม่นะ ฉันเพิ่งเสียจูบแรกให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักไม่กี่วัน แล้วเขายังจะ....ฉันจะไม่ยอมเสียให้เขาเด็ดขาด ถึงเขาจะหล่อแค่ไหนก็ตาม...

“นี่! จะทำอะไร” ฉันเอ่ยถามเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วพยายามที่จะแกะมือเขาออกแต่เขากลับบีบมันแน่นขึ้นก่อนจะพูดขึ้น

“ฉันไม่ปล้ำเธอหรอกน้า แค่จะคุยธุระสำคัญ เธอต้องช่วยฉัน”

“ปล่อย! ฉันไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น ปล่อยฉันนะ..” ฉันโวยวายออกไปโดยไม่สนใจสิ่งที่เขาพูดสักนิด ฉันรู้แค่ว่าเขาอันตรายเกินไป ฉันอยู่ใกล้เขาไม่ได้ เขาลวนลามฉันทุกครั้งที่เจอ ฉันต้องอยู่ให้ห่างเขา

“นี่! หยุดโวยวายสักทีได้ไหม”

ปึกกกก

รุ่นพี่ยูตะตวาดเสียงดังลั่นก่อนจะใช้มืออีกข้างรั้วเอวฉันเข้าหาตัวเขาอย่างแรงจนร่างฉันถลาไปชนกับแผงอกแกร่งของเขา

“นี่!! ...”

ฉันเงยหน้าขึ้นตวาดเขาด้วยความโมโหแต่จังหวะนั้นรุ่นพี่ยูตะดันก้มหน้าลงมาพอดีเลยกลายเป็นว่าตอนนี้หน้าเราสองห่างกันแค่ปลายจมูกจนฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา...ละ...แล้วมันใกล้ขนาดนี้ฉันจะพูดอะไรออก หายใจฉันยังลำบากเลย และสายตาที่สามารถหยุดหัวใจใครหลายๆ คนได้เลยทีเดียวรวมถึงฉันตอนนี้ด้วย ฉันเลยเบี่ยงหน้าหนีเขาก่อนที่จะเผลอไผลไปมากกว่านี้

รุ่นพี่ยูตะปล่อยข้อมือฉันเป็นอิสระก่อนจะเลื่อนมือหน้ามาประคองหน้าฉันให้กลับมามองหน้าเขาอย่างเดิมและพูดประโยคที่ฉันทำให้หัวใจฉันแทบจะหยุดเต้น

“คบกับฉัน”

What!!! ...เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ มาขอคบฉันทั้งที่เขามีผู้หญิงในสต๊อกเป็นร้อยเนี่ยนะ เหอะ…นี่ว่าช็อกแล้วนะ ประโยคต่อไปช็อกกว่าเป็นร้อยเท่า

“ฉันจะจ้างเธอ...เป็นแฟนฉัน อยากได้เท่าไหร่ว่ามาเลย ฉันพร้อมจ่าย นะ..ช่วยฉันเถอะนะ”

“ไม่มีทาง”

ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดผลักเขาออกอย่างแรงแล้วเดินไปที่ประตูทันทีแต่เขาดันคว้าแขนฉันไว้ซะก่อน กะแล้วเชียว..ผู้ชายเจ้าชู้ตัวพ่ออย่างเขาเนี่ยนะ จะมาขอคบฉัน ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าเขาเป็นยังไง..เปลี่ยนผู้หญิงยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าซะอีก

“มิณาริน เด็กกำพร้าอย่างเธอมีสิทธิ์ปฏิเสธฉันงั้นซิ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถึงได้กล้าเดินหนีฉันแบบนี้ ห้ะ!” เขาพูดพลางกัดฟันแน่นและทิ้งท้ายด้วยการตะคอกอย่างแรง นั้นซินะ...เด็กกำพร้าแบบฉันกล้าเดินหนีเจ้าชายอย่างเขางั้นเหรอ คงไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับเขาแบบนี้ซินะ แต่ไม่ใช่กับ มิณาริน คนนี้แน่นอน ฉันไม่เอาชีวิตอันสงบสุขของฉันไปทิ้งให้กับเรื่องไร้สาระพวกนี้แน่

“ใช่..ฉันไม่มีสิทธิ์ ฉันมันก็แค่เด็กกำพร้าจนๆ คนหนึ่ง ไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนคุณนิ แต่จะว่าไปผู้หญิงในสต๊อกของคุณก็มีตั้งเยอะไปขอพวกเธอซิ..บางทีเธออาจจะเต็มใจช่วยคุณโดยไม่เอาเงินสักบาท และคุณก็ไม่ควรลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับคนจนๆ อย่างฉัน เพราะฉะนั้น อย่า...มา..ยุ่ง..กับ...ฉัน” ฉันตอบกลับเขาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและย้ำประโยคสุดท้ายแบบชัดถ้อยชัดคำหวังว่าเขาคงจะเข้าใจพลางแกะมือเขาออกและหันกลับมาเปิดประตู

“ถ้าเธอกล้าก้าวขาออกจากห้องนี้ ชีวิตเธอจบไม่สวยแน่ สาวน้อย...เลือกเอาแกล้งคบกับฉันแค่สามเดือนหรือออกจากมหาลัยกะทันหัน” สิ้นเสียงเขาฉันก็หยุดกึกก้าวไม่ออกทันที เขาเอาเรื่องเรียนมาขู่ฉันงั้นเหรอ ไอ้...บ้าเอ๊ยยย ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้… ฉันจะหาคำไหนมาด่าเขาดีมันถึงจะสาสม แล้วฉันก็เสือกกลัวเขาขึ้นมาซะงั้นเพราะรู้ว่าเขาทำได้น่ะซิ..ระดับเขาจะเอานักเรียนทุนอย่างฉันออกไม่ใช่เรื่องยากเลย…

“โธ่...เว้ยยย! แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันวะ” ฉันหันกลับไปโวยวายใส่เขาที่กำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างแล้วยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ฉันเกลียดรอยยิ้มนี่ที่สุด ฉันเกลียดท่าทางที่ทำเหมือนเหนือกว่าคนอื่น ฉันเกลียดเขา ฉันเกลียดรุ่นพี่ยูตะ ผู้หญิงตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงต้องเป็นอีมิณารินคนนี้ด้วยวะ

“หึ ก็เพราะซายะเห็นเธอแล้วไง ไม่ต้องห่วงแค่สามเดือน งานหมั้นจะเกิดขึ้นในอีกสามเดือนแต่ฉันจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นถอนหมั้นฉันก่อนสามเดือนให้ได้ ส่วนเธออยากได้เท่าไหร่..”

“ห้าหมื่น เดือนละห้าหมื่น” ฉันเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาถามว่าฉันต้องการเท่าไหร่ อยู่ใกล้เขาแม่งโคตรอันตรายแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ความจริงฉันไม่มีสิทธิ์ต่อรองด้วยซ้ำถ้าเขาไม่ให้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

“โว้วว...ค่าตัวแพงฉิบ สามเดือน แสนห้า...ถ้าฉันจ่ายให้ได้ จะได้ของสมนาคุณเพิ่มไหมวะ จ่ายแพงขนาดนี้ หืม” เขาพูดจบก็ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าหาฉันพลางเอามือลูบคางตัวเองแล้วไล่มองตามร่างกายของฉันด้วยสายตาหื่นกระหายแบบคนโรคจิต นี่ฉันคิดถูกคิดผิดวะเนี่ย...ฉันถอยหลังไปจนชนกำแพงอย่างไม่ทันระวังก่อนเขาจะหยุดเท้าแล้วโน้มหน้าลงมาหาฉัน

“ห้ามแตะต้องฉัน” ฉันโพล่งออกไปด้วยความประหม่าก่อนที่หน้าเขาจะเข้ามาใกล้กว่านี้แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว

“หึ เสืออย่างฉันเลือกกินแต่เหยื่อเด็ดๆ เท่านั้น ไม่ต้องห่วง เธอไม่อยู่ในโหมดนั่นหรอกน่า”

“ก็ดี เพราะเหยื่ออย่างฉันก็รอเสือจริงๆ เท่านั้น ไม่ใช่หมาแบบนี้” พูดจบฉันก็ผลักเขาออกแล้วจ้องหน้าเขาอย่างท้าทาย รุ่นพี่ยูตะขบกรามพลางกำหมัดแน่นเขาคงโกรธน่าดูนี่ถ้าฉันเป็นผู้ชายนะโดนต่อยหน้าหงายแน่ ดี..ให้รู้ซะมั้งว่าการโดนดูถูกมันเป็นยังไง ไหนว่าเสือเรื่องผู้หญิงแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ เสือเสออะไรกันหมาชัดๆ ฉันเดินออกมาจากห้องนั้นและเปิดประตูเข้าไปในห้องเดิมที่ยังมีพวกพี่ๆ เขาอยู่กันครบ

อื้อออ…

ฉันเดินเข้ามายังไม่ทันพ้นปากประตูรุ่นพี่ยูตะก็เดินมาขวางหน้าฉันแล้วรั้งท้ายทอยฉันเข้าไปยัดเยียดจูบมาให้ฉันท่ามกลางความตกใจของทุกคนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันมีสติเลยรีบเม้มปากเข้าหากันแน่นไม่ให้เขารุกล้ำเขามาได้แล้วรวบรวมแรงที่มีผลักเขาออกทันที

“ไอ้!!! ...”

“อย่าปากดีกับฉัน ไม่ใช่แค่ต่อหน้าพวกนี้หรอกนะกลางมหาลัยฉันก็จูบเธอได้จำไว้ มิณา” เขารีบพูดขึ้นมาซะก่อนที่ฉันจะหลุดคำด่าออกมา

“ไอ้…”

“เฮีย...ถ้าหลุดเรียกคำอื่นละก็..คำละพัน” แล้วเขาก็เอาเรื่องเงินขึ้นมาขู่ทำให้ฉันยอมหยุดทันที คำละพันเลยเหรอวะ...แพงไปเปล่าวะเนี่ย ให้ฉันเรียกว่า เฮีย งั้นเหรอ ฉันเลยลองเรียกเขาแบบลากเสียงยาวๆนั่นแหละที่ฉันอยากจะด่าเขา

“อะไรนะ เฮี้ยยยยย...”

“เห้ย...ยาวไป” เขารีบร้องท้วงขึ้นพลางทำตาขวางใส่ก่อนที่ฉันจะลากเสียงยาวกว่านี้แล้วมันจะกลายเป็นคำอื่น หึ

“มิณกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยบอกทุกคนในห้องพลางยกมือไหว้แล้วหันหลังเดินออกมาจากห้องทันที บางทีฉันควรไปสะเดาะเคราะห์ไหมวะ เจอแต่เรื่องเฮงซวย...มันไม่คุ้มเลยสักนิดกับเงินแค่แสนห้าแต่ถ้าเป็นเรื่องเรียนและอนาคตฉันอะไรก็ต้องยอมแลก....เฮ้ออออ! เสียทั้งจูบ เสียทั้งชีวิตอันแสนสงบสุข แต่ก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไปนะคะ....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel