บท
ตั้งค่า

CHAPTER 1

@NEW YORK USA

ก้อนขาวน้ำหนักเบาบางแต่ละก้อนโปรยตกจากท้องฟ้าในวันนี้ซึ่งเป็นฤดูหนาวในนิวยอร์ก อากาศที่นี่ในฤดูนี้ค่อนข้างหนาวเย็นจริงจังส่วนมากอุณหภูมิไม่ค่อยสูงไปกว่า 5 องศาหรอกบางวันก็ติดลบด้วยซ้ำ ลมหนาวพัดมาทีไรอากาศจะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกเท่าตัว แย่กว่าวันที่หิมะตกเสียอีก ในวันที่แดดเปรี้ยงลมหนาวพัดกระทบตัวมันก็เหมือนสิ่งแหลมคมปักตามร่างกายเลวร้ายเกินบรรยายเป็นที่สุด

ความเย็นยะเยือกหนาวห่อหุ้มร่างกายไม่เว้นแม้แต่หัวใจที่อาศัยอยู่หน้าอกด้านซ้ายมันก็ยังมีความเย็นชาเรียบไม่ต่างอะไรกับอากาศข้างนอกเลย มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแหละและคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว สายหิมะที่หล่นลงมาจากด้านบนทำให้ใจหวิวนิดหนึ่งแต่สติก็พาฉันกลับจากความคิดเหล่านั้นได้

“อะนี่ไข่ตุ๋นและก็ยำมาม่าสูตรพิเศษ”

“จะกินได้มั้ย” เสียงตอบรับจากอีกคนพร้อมกับสายตาที่มองไปยังถ้วยเล็กฟูสีเหลืองอ่อนส่งกลิ่นหอมส่วนอีกจานหนึ่งมีเส้นขดงอผสมกับหมูสับกุ้งและก็ผักชนิดหนึ่ง สองเมนูข้างหน้านี้ค่อนข้างต่างกันในเรื่องของรสชาติกลิ่นรวมไปถึงลักษณะของอาหารอย่างสิ้นเชิงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถทานร่วมกันได้ในทีเดียวเสียหน่อย “พัฒนาแล้วใช่มั้ยสกิลการทำอาหารของแก”

“อือ”

“แหวะ... พัฒนาบ้าอะไร!”

คงเพราะฝีมือการทำอาหารที่ห่วยแต่ก็ยังเสือกเลือกที่จะทำมั้งทำให้ เลอาวางช้อนและส้อมในมือลงเสร็จแล้วก็ผลักทั้งไข่ตุ๋นและยำมาม่าให้ห่างออกไปจากตัวมากที่สุด

“งั้นเหรอ?”

ฉันตอบหน้าตายให้กับอีกคนหนึ่งที่กำลังขะมักเขม้นเช็ดปากด้วยความรู้สึกที่เรียบเฉยไม่สะทกสะท้านอะไรแม้สักนิดเดียว ผู้หญิงผมสั้นปะบ่าสีน้ำเงินจางๆ คนนี้ชื่อว่า ‘เลอา’ พี่สาวอายุห่างกันแค่ปีเดียวเอง เธอมักบินมาขออยู่ด้วยทุกครั้งที่มาเยือนนิวยอร์ก

“นี่ไม่รู้สึกหน่อยเหรอ ไม่รู้สึกที่เกือบฆ่าฉันตายด้วยอาหารบ้าๆ พวกนั้น”

“ไม่รู้สึก เพราะ... เธอยังไม่ตาย”

“เย็นชาชะมัดเลยผู้หญิงคนนี้” เสียงค่อนขอดนี่มันก็เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาฉันไปเพราะเลือกไม่สนใจ เลอาเลือกลุกคนจากเก้าอี้เดินไปข้างเคาน์เตอร์ใช้เท้าเหยียบถังขยะแล้วเทยำมาม่ากับไข่ตุ๋นเลยลงจากนั้นก็มานั่งที่เดิมเพิ่มเติมคือมีถุงขนมใหญ่มาด้วย “ขืนกินเข้าไปตายแน่ๆ เลยไข่ตุ๋นเค็มยิ่งกว่าน้ำปลาส่วนยำมาม่าเปรี้ยวแบบเอาน้ำมะนาวมาเทใส่ทั้งสวน ถามจริงส่วนประกอบหลักมีแค่น้ำปลากับน้ำมะนาวหรือไงกันรสชาติถึงได้ออกมา…”

“ห่วยแตก” ฉันพูดออกมาเอง

“พูดเองนะ”

“แล้วมาทำไม?”

“พี่สาวมาหาทั้งทีนะลาวา”

ใช่... ชื่อฉันคือลาวา

“ฉันไม่เคยขอ”

จบประโยคความเงียบงันก็เข้าเยือนเต็มที่ สักพักหนึ่งคนด้านหน้าตรงข้ามก็เลือกขยับตัวหยิบขนมทานอย่างหน้าตาเฉยแบบไม่สะท้าน ความตีมึนของเลอาอยู่ในสายตาของฉันหมดทุกอย่างไม่ว่าจะทำหรือว่าขยับตัวไปไหน

เราสองคนเป็นพี่น้องกัน

เราสองคนเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกา

เราเป็นพี่น้องที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแยกกันตั้งแต่อายุ 16

เราเจอกันได้ก็แค่นานๆ ทีเท่านั้นเอง

ตอนนั้นแม่กับพ่ออย่าแยกทางกันเราทั้งสองคนจึงถูกแยกจากกันด้วยภาระหน้าที่ของคนเป็นผู้ปกครอง พ่อรับดูแลเลอาที่อยู่ไทยส่วนฉันต้องข้ามซีกโลกมาอยู่อเมริกากับแม่ช่วงเวลาของเราทั้งสองจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยเนื่องจากทามโซนที่ค่อนข้างต่างกันอย่างสิ้นเชิง สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันที่ทั้งสองพ่อกับแม่ของพวกเราท่านได้หนีกลับสวรรค์ไปเรียบร้อยแต่รู้ไหมว่าฉันกับเลอาก็แยกกันอยู่เช่นเดิม

ฉันอยู่อเมริกา เลอาอยู่ไทย

ฉันกลับไปไทยเพียงแค่ครั้งเดียว

ส่วนเลอานั้นบินมาอเมริกาทุกครั้งที่ว่าง

ต่างกันไหมล่ะ ในมุมมองของฉันเองฉันว่าเราทั้งสองโคตรต่างกันที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตามแต่ไม่เคยชอบเหมือนกันเลยสักนิดเดียวแต่ก็ถือว่าดี

“ตอนเย็นไปเล่นสเก็ตที่ Central Park มั้ย?”

“มาอยู่กี่วันคราวนี้?” ฉันมองข้ามประโยคชวนคุยของเลอาและสาดประโยคคำถามใส่แทน “นานไม่ได้นะ”

“ทำไม?”

“จะได้อยู่คนเดียวไง”

“แล้วแกจะไปไหนวะ”

“ซานฟราน”

“อีกแล้วเหรอ?”

“อือ”

ที่ที่ฉันจะไปก็คือซานฟรานซิสโกหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของประเทศที่ฉันอาศัยอยู่นี่แหละ ที่นั่นเป็นที่ที่ฉันไปบ่อยที่สุดในระยะเวลา 4 ปีให้หลัง ไม่ว่าจะว่างตอนไหนจะไปอยู่ไปเกิน 5 ชั่วโมงก็ยังดื้อดิ้นรนไปจนได้ไม่เกี่ยงว่าจะเหนื่อยแค่ไหนขอแค่ได้ไป

“แล้วอยู่ที่นี้มา 10 กว่าปีแล้วไม่คิดจะกลับบ้านที่ไทยเลยหรือไงกลับครั้งล่าสุดก็เมื่อ 4 ปีก่อนจากนั้นก็ไม่เคยเห็นหน้าแกที่เมืองไทยเลย เกลียดชังอะไรขนาดนั้นกัน”

“...”

ฉันเลือกเงียบไม่ตอบ

“เอาเถอะ จะให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย”

“จะไปด้วยเหรอ”

“เออ” เลอาลงท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนที่จะหันไปสนใจขนมถุงใหญ่ในมือเช่นเดิมส่วนฉันก็หันตัวไปมองหิมะร่วงหนจากท้องฟ้าที่หน้าต่างห้องครัว การนั่งเท้าคางกับเคาน์เตอร์มองพวกมันตกลงสู่พื้นทับถมกันเป็นชั้นๆ ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึกนั่นคือความจริงของฉัน “คิดมาก”

“ไม่ได้คิด”

“โกหกได้ โกหกแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะไม่ว่าหรอก”

“...”

“เออวันนี้ฉันซื้อลิลลี่ติดมือมาด้วยนะอยู่ในแจกันห้องแกอ่ะลาวา”

“ขอบใจ... แล้วเวหาได้ติดต่อมามั้ย?”

“อือ คอลทุกวันอ่ะ”

“...”

“กินดี อยู่ดี สบายดีเฉกเช่นเจ้าหญิงไม่ต้องห่วงเวหามันบอกมาแบบนี้นะ”

ได้ยินแค่นี้ฉันก็ยิ้มออกแล้ว

แค่นี้ก็พอแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel