บท
ตั้งค่า

Chapter 1 ทูตผู้นำสู่พันธะแห่งบาป [2/1]

“ตามที่พินัยกรรมระบุ ทายาทโดยชอบธรรมจะมีสิทธิในทรัพย์สินทั้งหมดของคุณเจคอบ โจนส์ รวมถึงหุ้นส่วนธุรกิจและที่ดินเก่าแก่ของตระกูล ทั้งนี้ ผมในฐานะทนายได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจก่อนชั่วคราวและสอนคุณโจชัวให้รู้วิธีการบริหารภายในระยะเวลาไม่ 3 ปี จากนั้นทรัพย์สินในส่วนนี้จะเป็นของคุณโจชัวโดยสมบูรณ์ สรุปคือคงจะมีแต่พวกหุ้นส่วนนะครับที่ยังไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ขาดให้ทั้งหมดได้”

ทนายคอนเนอร์ว่ายาวพร้อมจัดแจงเอกสารสำคัญต่างๆ ในมือให้เรียบร้อยหลังจากอธิบายสิทธิในทรัพย์สินของตระกูลให้กับทายาทคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ของตระกูลโจนส์เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ผู้ฟังไม่มีท่าทีสนอกสนใจในรายการทรัพย์สินซึ่งตนเพิ่งได้รับอย่างตกกระไดพลอยโจนสักนิด มีเพียงใบหน้านิ่งเรียบและดวงตาคู่สวยมองจ้องไปยังใบหน้าของชายวัยกลางคนตรงหน้าเท่านั้น

“มีคำถามอะไรมั้ยครับ”

ทนายคอนเนอร์ละมือจากเอกสาร เงยหน้าขึ้นมาถาม เขามองลอดกรอบแว่นตา ประจันสายตาโดยไม่แสดงความประหม่าใดๆ จากดวงตาสีมะฮ็อกกานีนั่นสักนิด

โจชัวเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนตอบ

“ไม่มีครับ”

“โอเคครับ งั้นธุระของผมกับคุณสำหรับวันนี้ก็หมดแล้วล่ะ”

“ขอบคุณที่แจ้งข่าวครับ”

“ยินดีครับ”

โจชัวว่าแล้วละสายตาจากทนายคอนเนอร์ไปกวาดมองประติมากรรมรอบๆ ตัวโบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกแห่งนี้ เขาแทบนับครั้งได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมานั้นเคยเข้ามาเหยียบโบสถ์กี่ครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นประติมากรรมสมัยใหม่ แต่มันก็ทำให้คนห่างร้างไกลศาสนาอย่างเขาสนใจได้ไม่น้อย ขณะที่ทนายคอนเนอร์เองก็ชื่นชมความงามบางอย่างอยู่เช่นกัน พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สำหรับอธิษฐานภายในโบสถ์ บิดตัวแสดงอาการเมื่อยล้าออกมาเล็กน้อย สายตาชำเลืองจับจ้องใบหน้าเรียวสวยได้รูปของชายหนุ่มอย่างชื่นชม ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่านั่นยิ่งขับให้เขาแลดูงามงดราวกับรูปปั้นเทพบุตรกรีกก็ไม่ปาน มีเพียงใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ นั่นแหละที่ไม่ค่อยเจริญหูเจริญตาสักเท่าไหร่นัก แต่ก็นับว่าโจชัวนั้นมีรูปร่างหน้าตาดีกว่าเจคอบ ผู้เป็นพ่ออยู่มากโข

ดูท่าทางจะได้แม่มาเยอะ

เปรี้ยง!

พินิจพิจารณาความงามของชายหนุ่มตรงหน้าได้ไม่เท่าไหร่ พลันเสียงฟ้าร้องก็ลั่นดังกัมปนาท ทำเอาชายทั้งสองสะดุ้งสุดตัว มองหน้ากันเลิ่กลั่กพลัน ครู่เดียว ทนายคอนเนอร์ก็เป็นฝ่ายแค่นหัวเราะแก้เก้อออกมาก่อนจะพูดเรื่องลมฟ้าอากาศ

“พายุคงจะเข้าแน่ๆ ดูสิ หลังคาโบสถ์กระทบกันกึงกังเชียว โบสถ์นี่ก็เก่าแล้วด้วย น่ากลัวหลังคาจะพังลงมาเสียจริง”

คำพูดของเขาทำให้โจชัวต้องตั้งใจฟังเสียงเม็ดฝนและกระแสลมแรงซัดหลังคาโบสถ์อย่างตั้งใจ จริงอย่างที่ทนายคอนเนอร์พูด หากอยู่นานกว่านี้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นหลังคาโบสถ์ทะลุลงมาจริงๆ ก็ได้

“ผมว่าเรากลับกันดีกว่ามั้ย ดูท่าไม่ค่อยดีซะแล้วสิ”

“เอาสิครับ”

โจชัวเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ ก่อนทั้งคู่จะพากันวิ่งฝ่าพายุฝนบ้าคลั่งออกไปนอกตัวโบสถ์ แม้จะมีร่ม แต่ก็หาได้ช่วยกันอะไรได้มากมายเท่าไหร่นัก ไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงยังลานจอดรถ ทนายคอนเนอร์กดรีโมทปลดล็อครถเก๋งคู่ใจ ก่อนยกมือป้องปากตะโกนเรียกชายหนุ่มที่กำลังตั้งท่าจะวิ่งต่อออกไปยังประตูรั้วของโบสถ์

“คุณโจนส์ครับ! ไปด้วยกันสิ เดี๋ยวผมขับไปส่ง!”

โจชัวชะงักขาพลัน หันกลับมาตะโกนบอก “ไม่ต้องหรอกครับคุณคอนเนอร์ สถานีรถไฟใต้ดินอยู่ใกล้ๆ นี่เอง วิ่งไปแป๊บเดียวก็ถึง!”

“เวลาอย่างนี้กว่าจะได้ขึ้นรถไฟ คงต้องฝ่าฝูงคนอีกเยอะ มาเถอะครับ! ผมไปส่งเอง!”

โจชัวยืนพิจารณาครู่เดียวก็ตัดสินใจตอบตกลงพลัน วิ่งย้อนกลับมายังรถของทนายคอนเนอร์ก่อนแทรกตัวขึ้นไปนั่งข้างเบาะคนขับ เนื้อตัวเปียกโชกทำเอาหยดน้ำหยดแหมะในรถราวกับน้ำตกจนโจชัวรู้สึกเกรงใจขึ้นมา

“ขอโทษที่ทำรถคุณเลอะเทอะนะครับ”

“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกครับ เปียกแค่นี้มันทำความสะอาดได้ แต่ถ้าพินัยกรรมของตระกูลคุณเปียกนี่สิ ผมซวยแน่”

ทนายคอนเนอร์ยิ้มรับอย่างใจดี เขาไม่เป็นห่วงรถตัวเองกับเรื่องแค่นี้หรอก สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือกระเป๋าเอกสารที่เก็บพินัยกรรมทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านปอนด์มากกว่า ขืนมีเอกสารแผ่นใดแผ่นหนึ่งเสียหายขึ้นมา เขานี่แหละที่จะแย่

เขาใช้ผ้าเช็ดซับหยาดน้ำฝนบนกระเป๋าเอกสารอยู่ครู่ใหญ่จนเสร็จ ก่อนจะนำมันไปวางไว้บนเบาะหลังอย่างเบามือ พลันหันมาติดเครื่องยนต์ ถามคนข้างๆ ถึงที่หมายปลายทาง

“แล้วคุณโจชัวพักอยู่แถวไหนหรือครับ”

“ขับไปตามถนนสายหลักน่ะครับ ใกล้ถึงแล้วผมจะบอกอีกที”

โจชัวไม่บอกสถานที่ชัดเจนด้วยไม่ต้องการให้ทนายคอนเนอร์ถามอะไรจุกจิก เช่นว่าทำไมถึงไปอยู่ย่านนั้น เป็นถึงทายาทเศรษฐีระดับแนวหน้าของประเทศ ทำไมถึงไม่ไปอยู่ที่หรูๆ เป็นต้น ส่วนทนายคอนเนอร์เองก็พอจะเดาใจชายหนุ่มออก จึงไม่ถามอะไรออกไปอีก นอกจากขับรถออกไปตามเส้นทางที่โจชัวบอกเท่านั้น

ไม่นานนัก จากถนนสายหลักก็เลี้ยววนเข้าสู่ย่านอันธพาลอันเป็นตรอกเล็กๆ ที่หากไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็นเลยว่ามีตรอกแบบนี้อยู่ด้วย ภาพเหล่าคนไร้บ้านยืนหลบฝนใต้หลังคาตามแนวกำแพง ภาพเหล่าเด็กวัยรุ่นอันธพาลยืนจับกลุ่มสูบบุหรี่กัน ทำให้ทนายคอนเนอร์รู้สึกแปลกๆ เหลือบมองคนข้างกายเล็กน้อยด้วยไม่อยากเชื่อว่าเขาจะอาศัยอยู่ในย่านซึ่งแทบไม่ต่างจากสลัมแห่งนี้

ขบรถมาเรื่อยๆ ไม่นานโจชัวก็เอ่ยขึ้น

“จอดตรงนี้ครับ ถึงแล้ว”

“คุณพักอยู่นี่หรือ”

ทนายคอนเนอร์ถามอย่างประหลาดใจ พร้อมทั้งจ้องมองตึกตรงหน้า มันเป็นตึกเล็กๆ ประมาณสี่ชั้น ทางเข้าด้านหน้าแลดูสกปรกเลอะเทอะไปด้วยสีสเปรย์พ่นคำหยาบต่างๆ แต่ด้วยลักษณะของตึกก็พอจะเดาได้ว่ามันเป็นห้องเช่าราคาต่ำที่พวกคนรายได้น้อยอยู่กัน

โจชัวชำเลืองมองชายวัยกลางคนเพียงเล็กน้อยที่กำลังให้ความสนใจกับตึกห้องเช่าหลังนี้ ก่อนขานรับ

“ใช่ครับ”

“แสดงว่าคุณและคุณแม่ของคุณนี่คงใช้ชีวิตกันลำบากมากเลยสินะ”

แม้จะเป็นคำพูดลอยๆ แบบไม่ต้องการคำตอบ แต่โจชัวก็ไม่อยากจะเออออตอบรับสักเท่าไหร่นัก เพราะรู้ดีว่าหากพูดอะไรไป มีหวังคงได้ถูกซักต่อถึงประวัติเชิงลึกเป็นแน่ จึงรีบตัดบททันที

“ขอบคุณที่มาส่งนะครับคุณคอนเนอร์ ผมขอตัว”

ทว่าทันทีที่มือของโจชัวเอื้อมไปสัมผัสกับประตูรถ ทนายคอนเนอร์ก็กดปุ่มล็อคประตูรถอัตโนมัติ ไม่ให้โจชัวออกไป ก่อนว่าเสียงเรียบ เรียกให้ชายหนุ่มหันกลับไปมองอย่างไม่ไว้ใจ

“เดี๋ยวก่อนสิคุณโจชัว ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยอีกสักหน่อย”

โจชัวนิ่ง ไม่ถามกลับใดๆ ก่อนจะค่อยๆ ดึงมือกลับมาวางไว้บนหน้าตัก สายตาที่โจชัวจ้องมองกลับมา ทำให้ทนายคอนเนอร์ไม่อาจเดาได้เลยว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่ แต่กระนั้น เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก นอกเสียจากพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด

“ผมว่าถ้าใครมาเห็นว่าคุณอาศัยในที่แบบนี้ มันจะกลายเป็นข่าวแง่ลบนะครับ”

“แล้วมันสำคัญตรงไหน ผมก็อยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีใครมาสนใจ และผมก็อยู่ของผมได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่”

“สำหรับคุณแต่ก่อนมันอาจไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้คงมีแน่ถ้าพวกนักข่าวรู้ว่าผมพบตัวทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเอิร์ลเก่าที่เพิ่งได้รับมรดกหลายพันล้านปอนด์ของพ่อตัวเอง แต่กลับอยู่ในห้องเช่าซอมซ่อแบบนี้ คงได้เขียนข่าวซุบซิบกันสนุกปากแน่ แล้วผมนั่นแหละที่จะเสียชื่อในฐานะทนายประจำตระกูลที่ดูแลคุณไม่ดี”

“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”

โจชัวเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ทนายคอนเนอร์บอก แน่นอนอยู่แล้วว่าในฐานะทนาย ชื่อเสียงย่อมสำคัญพอๆ กับผลงาน ยิ่งเขาเป็นทนายชื่อดังก็ต้องยิ่งรักษาผลงานไว้ให้คงเดิมและสร้างผลงานให้มากกว่า แต่โจชัวไม่ได้สนใจว่าทนายคอนเนอร์จะเป็นอย่างไรมากนัก นอกเสียจากรีบๆ คุยให้จบๆ เขาเหนื่อยมามากพอแล้ว อยากจะพักผ่อนให้ลืมเรื่องร้ายๆ ในวันนี้เสียเหลือเกิน

“คุณเจคอบมีอพาร์ตเม้นต์อยู่ย่านธุรกิจหลายที่ คุณสนใจไปอยู่มั้ยล่ะครับ อย่างน้อยๆ มันก็ยังเหมาะสมกับฐานะคุณในตอนนี้มากกว่าที่จะอยู่ในห้องเช่าโกโรโกโสแบบนี้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel