EP 07 | ทำอาหาร
คำชมของเขาทำให้น้ำหวานหยุดชะงัก มือใหญ่วางลงบนไหล่ของเธออย่างแผ่วเบาก่อนจะออกแรงหมุนตัวเธอหันกลับมาเผชิญหน้ากัน เสียงจักจั่นร้องดังแว่วมาจากที่ไกลๆ แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนร่างของทั้งสองที่ยืนอยู่ใกล้ชิดกัน สร้างเงาทอดยาวบนพื้นหญ้าที่พลิ้วไหวตามสายลม
"พี่หมอหิวหรือยังคะ"
หันกลับมาก็เอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าทันที เพิ่งรู้ว่าตัวเองเก่งเรื่องหลบเลี่ยงสถานการณ์ล่อแหลมก็ตอนนี้แหละ แม้ว่าเมื่อคืนจะเป็นคนสร้างสถานการณ์ล่อแหลมนั้นขึ้นมาเองก็ตาม
อาคินยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินคำถามของคนน้อง เขาจงใจก้มลงมองริมฝีปากของเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"หิวสิครับ...แต่ไม่ใช่ข้าว" เลื่อนมือจากไหล่ลงมาที่เอวบางก่อนจะดึงเธอให้แนบชิดกับตัวเขามากขึ้น "เราหิวแล้วเหรอ"
"เอ่อ...ค่ะ"
"งั้นเข้าบ้านกัน พี่ทำอะไรให้กิน"
"พี่หมอทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ"
น้ำหวานเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเมื่อเขาเอาแต่จ้องปากเธอ ก่อนจะค่อยๆดันอกแกร่งออกอย่างแผ่วเบา
"เป็นครับ อยากกินเลยหรือ...อยากทำอย่างอื่นก่อนดี"
"พี่หมอคะ~"
คนน้องเขินจนแทบจะมุดแผ่นดินหนีเพราะเขาเอาแต่ไล่ต้อนเธอไม่หยุด อาคินหลุดหัวเราะก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ผมน้ำหวานอย่างเอ็นดูแล้วเดินเลี่ยงไปไขกุญแจเพื่อเปิดประตูบ้าน
"เชิญครับ"
ร่างสูงผายมือเชิญน้ำหวานเข้าไปในบ้านก่อนเขาจะเดินตามเข้าไปติดๆ มือหนาเลื่อนเปิดสวิตช์ไฟแล้วเดินนำคนน้องไปยังห้องครัว
ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ภายในบ้านถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา แสงสลัวจากโคมไฟและกลิ่นหอมอ่อนๆของอโรมาทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกชวนลุ่มหลงมากยิ่งขึ้น
"เรียนหมอแล้วยังทำอาหารเป็นด้วย เก่งจัง"
น้ำหวานเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะไอส์แลนด์ในขณะที่อาคินกำลังเปิดตู้เย็นแล้วหยิบวัตถุดิบต่างๆออกมาวางเตรียมเอาไว้
"พี่เป็นหมอ ก็ต้องดูแลตัวเองเป็นบ้างไง อยากลองทำมั้ย"
ดูจากดวงตาเป็นประกายของเธอแล้วเขาคิดว่าเธอคงทำอาหารไม่เป็นและเมื่อได้ยินคำถามจากเขาดวงตาคู่สวยก็เปลี่ยนเป็นสระอิเพราะเจ้าตัวกำลังส่งยิ้มหวานมาให้
"ทำค่ะ พี่หมอจะทำเมนูอะไรเหรอคะ"
คนน้องรีบเดินอ้อมเข้าไปในครัว เธอกวาดมองไปยังวัตถุดิบที่วางอยู่บนโต๊ะ คาดเดาในใจว่าน่าจะเป็นเมนูสเต๊ก
"สเต๊กครับ แต่ก่อนอื่นต้องใส่ผ้ากันเปื้อนก่อนนะ เดี๋ยวชุดนักศึกษาของเราจะเลอะ"
เขาก้าวเข้ามาประชิดข้างหลังน้ำหวานอีกครั้ง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหยิบผ้ากันเปื้อนที่แขวนอยู่มาสวมให้คนน้อง มือใหญ่ผูกเชือกที่เอวอย่างช้าๆ
กลิ่นน้ำหอมจากร่างสูงผสมกับกลิ่นอายความเป็นชายที่แผ่ซ่านออกมา ทำให้บรรยากาศในห้องครัวร้อนระอุขึ้นทุกขณะแม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะเปิดอยู่ก็ตาม
น้ำหวานไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะกลายเป็นคนหมกมุ่นขนาดนี้
"ขอบคุณค่ะ" เธอหมุนตัวกลับมาเห็นเขากำลังหยิบผ้ากันเปื้อนอีกผืนจึงอาสาผูกให้ "ให้หวานช่วยผูกนะคะ"
ร่างบางเดินอ้อมไปข้างหลังเขาก่อนจะผูกเชือกผ้ากันเปื้อนจนเสร็จแล้วเอียงหน้ามาส่งยิ้มหวานให้คนพี่
ตึกตัก! ตึกตัก!
ร่างสูงยืนตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป ภาพใบหน้าหวานที่โผล่ออกมาจากหลังเขาเหมือนมีแบล็คกราวเป็นสีชมพู เสียงจังหวะหัวใจเต้นแรงจนคุณหมอหนุ่มไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเสียงหัวใจของตัวเอง
เขาก็แค่ชอบเธอมากขึ้นมาอีกนิดเท่านั้นเอง~
"ขอบคุณครับ...แต่พี่ว่าเราน่าจะผูกแน่นไปหน่อย"
"จริงเหรอคะ"
น้ำหวานมีสีหน้าตกใจเธอเตรียมจะเอื้อมมือไปปลดเชือกที่ผูกข้างหลังแต่อาคินหมุนตัวกลับมาแล้วคว้ามือเธอเอาไว้ซะก่อน
"พี่หายใจไม่ค่อยออก ไม่รู้ว่าเราผูกเชือกแน่นหรือพี่หัวใจเต้นแรงเพราะเรากันแน่"
คนได้ยินประโยคหวานดวงตาเบิกกว้าง รู้นะว่าเขาน่ะเสน่ห์แพรวพราวแต่ไม่คิดเลยว่าจะแพรวพราวได้มากขนาดนี้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับเขายังไง
กลับบ้านไปปรึกษาน้ำปั่นกับส้มจี๊ดก่อนได้ไหมนะ
อาคินยกมือขึ้นลูบใบหน้าเนียนของน้ำหวานเบาๆ สายตาจ้องมองริมฝีปากอิ่มอย่างหื่นกระหาย มืออีกข้างของเขาเลื่อนไปกระชับเอวบาง ดึงร่างอรชรให้แนบชิดตัวมากขึ้น
ทั้งๆที่เธอแทบจะไม่ได้ทำอะไรทำไมเขาถึงรู้สึกหลงเธอได้มากขนาดนี้นะ
"แต่ก่อนจะทำอาหาร...พี่ขอจูบก่อนได้มั้ยครับ"
"..."
"แค่นิดเดียว"
น้ำเสียงนี้ใช่น้ำเสียงของเขาจริงๆเหรอวะ?
คนพี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะสามารถมีเสียงสองเหมือนที่คนเขาพูดๆกันได้ด้วย แบบนี้มันไม่ใช่ตัวตนของเขาเลย
แต่ก็อยากจูบเธอชะมัด!
"แค่นิดเดียวแน่นะคะ"
น้ำหวานถามกลับด้วยน้ำเสียงลังเล เสียงหัวใจที่เต้นรัวของทั้งคู่ดังก้องอยู่ในความเงียบ เธอลดสายตาลงมองริมฝีปากหนาของหมอหนุ่มก่อนจะเขย่งขึ้นจูบอย่างรวดเร็วแล้วผละออก
"อื้ออ!"
คนรู้ทันจับล็อกท้ายทอยของเธอเอาไว้และกดจูบลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มถูกบดคลึงคลุกเคล้าจนบวมแดง ลิ้นร้อนๆกวาดหาความหวานในโพรงปาก
มือบางทุบลงบนอกแกร่งเมื่อเขาจูบเธอนานเกินไป ไหนบอกแค่นิดเดียวไงทำไมเธอรู้สึกว่ามันเนิ่นนานจนแทบจะขาดอากาศหายใจเลยล่ะ
"แค่นี้ก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวเราจะไม่ได้กินข้าว"
อาคินยอมผละออกอย่างอ้อยอิ่งพลางก้มลงมองใบหน้าแดงก่ำของคนตัวเล็กตรงหน้า น้ำหวานรู้สึกหน้าร้อนผ่าวจนอยากจะยกมือขึ้นมาพัด เธอหายใจเหนื่อยหอบเพราะรสจูบเร่าร้อนของเขา พอไม่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์เธอก็กลายเป็นเด็กอ่อนหัดไปเลย
ใบหน้าสวยก้มหน้าซุกอกเขา ไม่กล้าเงยขึ้นไปสบตากับคนที่กำลังยืนจ้องมองเธออยู่
"ระ..เราทำอาหารเลยดีกว่าค่ะ นะ..หนูหิวมากแล้ว"
ความตื่นเต้นทำให้เธอแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่ไม่เคยพูดกับเขามาก่อน ร่างอรชรค่อยๆดันตัวเขาออกเพื่อหันกลับไปเตรียมทำอาหาร
อาคินยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินคำว่า 'หนู' หลุดออกมาจากปากของเธอแต่ไม่ได้พูดล้อเลียนอะไร
คนพี่หยิบเนื้อที่วางเอาไว้ขึ้นมาเตรียมทำอาหารพลางส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองน้ำหวานเป็นระยะ กลิ่นหอมของเนื้อสเต๊กเริ่มลอยอบอวลในห้องครัว ในขณะที่คนน้องก็คอยช่วยหยิบนู้นหยิบนี่ให้ ถือเป็นลูกมือที่น่ารักสุดๆ
'เกิดมาน่ารักขนาดนี้ได้ยังไงวะ!'
ตั้งแต่เกิดมาอาคินไม่เคยมีความคิดที่อยากจะล่อลวงใครเท่านี้มาก่อนเพราะปกติเพียงแค่เขาหันมองผู้หญิงคนไหนเกินสามครั้งเธอก็มักจะเดินเข้ามาหาเขาเองเสมอ
จู่ๆร่างสูงก็หยุดทำอาหารแล้วเดินไปล้างมือ น้ำหวานได้แต่มองตามพลางขมวดคิ้ว สเต๊กน่าจะยังไม่สุกนะทำไมเขารีบล้างมือซะแล้วล่ะ
"พี่หมอจะทำอะไรคะ"
เงยหน้าขึ้นถามเมื่อหมอหนุ่มเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเธอ ใบหน้าหล่อคมคายยกยิ้มมุมปาก เขาเห็นว่าเธอไม่ได้มัดผมแล้วก็คอยรวบไปข้างหลังอยู่บ่อยๆจึงคิดว่าเธอน่าจะรู้สึกรำคาญ
"พี่ถักเปียให้ครับ"
"พี่หมอถักเปียเป็นด้วยเหรอคะ"
ทำไมชายหนุ่มตรงหน้าถึงได้มีเรื่องให้เธอเซอร์ไพร์ตลอดเลยนะ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย
"ก็เคยเห็นผ่านๆครับ คิดว่าน่าจะไม่ยากเกินไป"
มือหนาค่อยๆรวบผมของเธอ นิ้วแกร่งไล้ไปตามเส้นผมนุ่มช้าๆก่อนจะเริ่มถักเปียขวาทับซ้าย ซ้ายทับขวาอย่างที่เขาเคยเห็นมาผ่านๆแม้จะรู้สึกมือสั่นเล็กน้อยก็ตาม
"แต่นี่เป็นครั้งแรกนะที่พี่ได้ลองทำจริงๆ...รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ"
น้ำเสียงของเขาทำให้น้ำหวานรับรู้ได้ว่าเขากำลังตื่นเต้นจริงๆ มือหนาหยิบกระดาษทิชชูแผ่นใหญ่ขึ้นมาผูกปมเป็นโบแทนริบบิ้น
"เรียบร้อยครับ"
"ขอบคุณนะคะ"
แม้จะถักเปียให้เสร็จแล้วแต่ก็ยังไม่วางมือ กลับไล้นิ้วไปตามต้นคอขาว
"มีตรงไหนในตัวเราที่ไม่สวยบ้าง"
