Chapter 10
ปิ๊นนน!! ปิ๊นนน!!
เสียงบีบแตรรถสปอร์ตสีดำดังขึ้นบริเวณป้ายรถประจำทาง ทำให้คนตัวเล็กในชุดทำงานออฟฟิศที่นั่งเหม่อลอยหลุดออกจากภวังค์
“น้องณิชาขึ้นรถมาครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เจตภัทรลดกระจกลง และเอ่ยเรียกพนักงานสาวสวยที่เขาหมายปองขึ้นรถ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณเจ เดี๋ยวเพื่อนมารับค่ะ” ในขณะที่ณิชากำลังปฏิเสธเจ้านายหนุ่มอยู่นั้น เสียงบีบแตรรถสปอร์ตหรูสีแดงโฉบเฉี่ยวก็ดังขึ้น
ณิชาจึงรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปขึ้นรถหรูที่จอดต่อท้ายรถของเจตภัทร ในวันนี้เธอไม่ได้เอารถมาเพราะรถเก๋งเสียพอดี ประจวบเหมาะกับที่คิมหันต์ชวนเธอไปกินข้าว เธอก็เลยถือโอกาสให้เขามารับหลังเลิกงาน
‘เด็กเสี่ยเหรอ มีรถหรูคันละเป็นสิบล้านมาจอดรับ” พนักงานไดม่อนเจที่อยู่คนละฝ่ายกับณิชาเอ่ยพูดอย่างสงสัย แต่แฝงไปด้วยความอิจฉาซะมากกว่า
‘ทำเป็นเล่นตัวกับคุณเจ ที่แท้ก็มีเสี่ยเลี้ยงอยู่นี่เอง” พนักงานอีกคนพูดเสริมเติมแต่ง
“รถสปอร์ตสีดำนั่นใคร?” คิมหันต์เอ่ยถามณิชา เมื่อเขาเห็นรถสปอร์ตจอดเทียบเคียงคุยกับณิชา ก่อนที่เขาจะขับมาถึง
“คุณเจเป็นเจ้านายของฉันเอง”
“เขาจีบเธอเหรอ?”
“จีบมั้ง”
“หึ...มีจีบมั้งด้วย” คิมหันต์หลุดหัวเราะออกมากับคำพูดของเพื่อนสาว “ถ้าไอ้ไรเฟิลมาเห็นนะ มีเคืองเธอแน่ณิชา เดี๋ยวมันก็กลับมาแล้วหนิ มันบอกเธอแล้วใช่ไหม แต่มันคงบอกเธอก่อนเพื่อนคนอื่นแล้วละมั้ง”
“ให้เฟิลอ่านข้อความไลน์ของฉันก่อนเถอะ” ณิชาพูดอย่างงอนๆ กับคำพูดของคิมหันต์
ไรเฟิลเขาจะบอกอะไรเธอก่อนเพื่อนกันล่ะ ขนาดข้อความที่เธอส่งไปหาเขา เขาก็ยังไม่อ่านเลย
“งอนกันเหรอ?”
“ฉันไม่ได้งอน แต่เฟิลน่ะงอนอะไรฉันหรือเปล่า ส่งไลน์ไปก็ไม่ยอมอ่าน”
“เป็นไปได้เหรอ? ไอ้เฟิลเนี่ยนะไม่อ่านข้อความของเธอ...” คิมหันต์ทำท่าทีแปลกใจ ไรเฟิลต่อให้จะไม่สนใจใคร หนึ่งในนั้นต้องไม่ใช่ณิชา ไรเฟิลเป็นห่วงณิชาเอามากๆ ไม่มีทางที่ไรเฟิลจะเมินใส่ณิชาได้
“แล้วนายคุยกับเฟิลหรือเปล่า?”
“ก็คุยตลอดนะ ล่าสุดพึ่งคุยกับมันเมื่อกี้ มันบอกว่าจะกลับไทยละ” ในขณะที่คิมหันต์พูดไป เขาก็ขับรถเข้ามาจอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“เฟิลบินกลับไทยวันไหนอะ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันบอกแค่ว่าจะกลับเร็วๆ นี้ เธอก็ลองโทรไปถามมันสิ”
“เฮ้อ...ฉันก็บอกแล้วไง ว่าเฟิลไม่อ่านข้อความของฉัน”
“ลองโทรไปหามันหรือยัง?...”
“กับนายก็ไม่เห็นต้องโทร ทำไมเฟิลถึงตอบข้อความนายได้ ทีกับฉัน ทำไมเขาถึงไม่เปิดอ่านข้อความเลยล่ะ ฮึก~” น้ำตาแห่งความน้อยใจซึมไหลออกมาคลอเบ้าด้วยความน้อยอกน้อยใจคนทางไกล
“ร้องไห้เลยเหรอณิชา อย่าร้องสิ อะๆ เดี๋ยวฉันโทรไปหามันให้ ปะๆ เข้าไปในร้านอาหารก่อน...” ว่าจบคิมหันต์ก็พาณิชาเข้าไปในร้านอาหาร เมื่อมานั่งที่โต๊ะและสั่งอาหารไปเรียบร้อยแล้ว คิมหันต์ก็เอ่ยถามณิชาด้วยความเป็นห่วง “เธอโอเคหรือเปล่าณิชา”
“โอเคแล้ว ฉันไม่เป็นอะไร แค่น้อยใจนิดหน่อย”
“ฉันตกใจหมด น้อยใจมันมากเลยเหรอ?” ว่าแล้วคิมหันต์ก็กดโทรหาไรเฟิล แล้วยื่นมือถือของเขาให้ณิชา
“ไม่ต้องโทร เดี๋ยวรบกวนเฟิลเปล่าๆ เฟิลคงไม่อยากพูดกับฉันหรอก” ณิชารับมือถือมากดวาง ทั้งที่ปลายสายยังไม่กดรับ
“คิดอะไรแบบนั้นวะ มันกับเธอเป็นเพื่อนกันนะโว้ย งอนอะไรกันทำไมถึงไม่รีบเคลียร์”
“ตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเฟิลแล้วแหละ ว้ายยยย!!”
แค่กๆ แค่กๆ
“โทษๆ ฉันตกใจไปหน่อย” คิมหันต์รีบขอโทษขอโพย เมื่อเขาสำลักน้ำ จนน้ำพุ่งไปโดนใบหน้าสะสวยของเพื่อนสาว
‘ในที่สุดเพื่อนรักคู่ซี้ก็ยอมรับความรู้สึกของตัวเองสักที’ คิมหันต์ยิ้มกริ่มในใจ
“ตกใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย”
“ก็ไม่คิดว่าเธอจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้”
“ก็เพราะฉันรู้ใจตัวเองช้าไปไง เฟิลถึงหายไปแบบนี้” ณิชาเอ่ยพูดเสียงเศร้า เธอก็คงต้องรอให้เขากลับมา แล้วจะตอบตกลงในสิ่งที่เขาขอ หวังว่าเขาคงยังรอคำตอบจากเธออยู่นะ
“มันไม่หายไปไหนหรอก เธอกับมันต้องจบแบบแฮปปี้”
“อุ๊ย! นั่นน้องสาวของน้องแพรดาวหรือเปล่า” ณิชาบุ้ยปากไปทางนักศึกษาหุ่นดีผิวขาวที่พึ่งเดินเข้ามาในร้านอาหารกับผู้ชายตัวสูงหน้าตาหล่อมากคนหนึ่ง พอเห็นคนสวยก็ทำให้เธอลืมเรื่องเศร้าๆ ไปชั่วขณะ
“บ้านนี้เขาหน้าตาดีกันทั้งบ้านเลยเนอะ น้องเขาเซ็กซี่จัง ถ้าน้องเขาไม่ได้มากับแฟนนะ ฉันจะเชียร์ให้นายเดินเข้าไปจีบเลย จะได้เป็นน้องเขยรันเวย์ แต่เอ๊ะ! ไม่ได้สิๆ นายไม่โสดแล้วหนิ...”
“ไร้สาระ เอาเรื่องของเธอให้รอดก่อน แล้วค่อยมาจับคู่ให้คนอื่น” คิมหันต์เอ่ยพูดเสียงดุ แต่สายตาของเขาก็ยังจ้องมองไปที่นักศึกษาสาวคนนั้นไม่วางตา
“แรงมากพ่อคุณ” ณิชาพึมพำเบาๆ ก่อนจะชวนคิมหันต์คุยไปเรื่องอื่น ตอนนี้รู้สึกว่าคิมหันต์ดูนิ่งผิดปกติ
เมื่อคิมหันต์มาส่งณิชาที่คอนโด เธอก็จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง เตรียมตัวไปเที่ยวเกาะล้านในวันพรุ่งนี้
เพื่อนร่วมทริปมีสองคู่รักที่เมียท้องทั้งคู่ ก็คือรันเวย์/แพรดาว ไอศูรย์/มัดหมี่ ส่วนคนโสดก็มีณิชาและคิมหันต์
คิมหันต์เนี่ยต้องนับเขาเป็นคนโสด เพราะรายนั้นไม่ว่าจะไปไหนมาไหนไม่ค่อยพาแฟนมาเปิดตัวอยู่แล้ว ฉายเดี่ยวตลอดจนเป็นคำพูดที่ว่าไม่โสดก็เหมือนโสด
ส่วนบิ๊กบอสไม่ได้มาด้วยเพราะเมียพึ่งคลอดลูกน้อยได้ไม่กี่เดือน และอีกคนที่ณิชาอยากให้มาด้วยมากที่สุด แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาติดงานที่ต่างประเทศ
วันรุ่งขึ้นตอนเช้าพวกเขาขับรถสปอร์ตไปเป็นคู่ๆ ซึ่งคนไม่มีคู่อย่างณิชาก็ติดสอยห้อยตามไปกับคิมหันต์ เมื่อข้ามเกาะโดยเรือเฟอร์รี จนมาถึงที่พักสุดหรูแบบส่วนตัว ซึ่งบรรยากาศโดยรอบฟินมากๆ จนต้องร้องว้าว เพราะวิวด้านหลังห้องเห็นภูเขา ด้านหน้าห้องหันไปทางทะเล ได้วิวดีงามแบบ 2 in 1 ความดีความชอบนี้ต้องยกให้คิมหันต์ เพราะเขาเป็นคนจัดการเรื่องจองที่พัก
เมื่อคิมหันต์ให้ณิชาไปรับกุญแจห้อง ณิชาก็รับกุญแจมาแบบงงๆ ถ้านับตามคู่แล้วต้องมีแค่สี่ห้อง แต่พนักงานให้กุญแจเธอมาห้าห้อง แต่ณิชางุนงงได้ไม่นาน หัวใจดวงน้อยก็เต้นโครมครามอย่างไม่เป็นส่ำ เมื่อรถเฟอร์รารีคันสีขาวกระจกฟิล์มดำทึบขับเข้ามาจอดบริเวณที่พักเป็นคันสุดท้าย
ณิชาเดินล่องลอยใจเต้นตึกตักไปทางรถหรูเฟอร์รารี ใบหน้าสะสวยน้ำตาคลอหน่วยอย่างดีใจ เมื่อคนตัวสูงผมสีน้ำตาลเข้ม เขาใส่แว่นตากันแดดสีชา และใส่เสื้อฮาวายสีดำปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงหน้าอกแกรงน่าลูบไล้ เจอกันครั้งนี้ในรอบสามเดือนเขาดูหล่อเท่และขรึมมากกว่าเดิม
“ไรเฟิล...” ณิชาเอ่ยเรียกเขาเสียงสั่น ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดคนตัวสูงเต็มรัก เธอกอดเขาไว้แน่นด้วยความรู้สึกคิดถึงและโหยหา
“ฮึก~ คิดถึงจังเลย” น้ำตาเม็ดเล็กไหลออกมาด้วยความดีใจ แต่ความดีใจเพียงเสี้ยวนาที จู่ๆ ก็เหมือนมีคนผลักเธอลงเหว จนใจดวงน้อยกระตุกวูบ ก้อนสะอื้นความเสียใจวิ่งมาจุกอยู่ที่อก เมื่อมีสาวสวยญี่ปุ่นตากลมโตผมลอนยาวลงจากรถ แล้วเดินสับขามายืนเคียงคู่กับคนตัวสูง หล่อนเอามือแตะที่แขนแกร่ง ก่อนจะเอ่ยถามไรเฟิลด้วยรอยยิ้มหวาน
“ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมคะเพื่อนสนิทของเฟิล”
