EP 3 : เจ้าชายสวิง
“เพลง~ แฟนแกแซ่บเวอร์ ฮือ~”
“ชอบ?” หือแค่เพื่อนแกล้งทำหน้าดี้ด้าใส่แฟนชีเพื่อนก็ทำเสียงแข็งใส่แล้วนะเพลงขวัญ
“อิจฉามาก~ อยากได้แบบนี้ทั้งหล่อทั้งรวย” ฉันพูดจบก็หันไปมองโต๊ะของพี่ฟรังซ์แฟนของเพลงขวัญที่เพื่อนรักของน้องจูนฟอร์มเยอะไม่ยอมเปิดใจให้เขาเต็มร้อยสักที คบกันแล้วแต่ก็ยังกั๊ก ๆ ไม่ยอมเปิดใจเปิดตัวเป็นคู่ผัวตัวเมียให้โลกรับรู้กันถ้วนหน้าทั้งที่ตัวเองก็รักพี่เขาจะตายเพื่อนแสนดีอย่างจูนเองก็เลยต้องเร้าอารมณ์ปลุกความรักความหึงหวงให้เพื่อนรู้ใจตัวเองหน่อย ถึงแม้ว่า...
...ที่โต๊ะนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อผสมพันธ์อย่างเดียวรวมอยู่ด้วย อีตาซันจัญไร!
ระหว่างที่คนสวยอย่างฉันกำลังทำหน้าตาหลงใหลคลั่งไคล้แฟนเพื่อน อีตาสวิงนั่นก็ปรายตามามองฉัน มองแล้วก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าใส่
...อย่าได้เผลอคิดมั่นหน้ามั่นลูกกระเดือกว่าอีจูนกำลังคลั่งตัวเองเชียวนะยะ อย่าแม้แต่จะคิดเชียว
ฉันแอบเบ้ปากใส่เขาตอนที่เราสบตากันแล้วก็หันมากล่อมเพื่อนรักให้ยอมเปิดใจให้แฟนตัวเองอีกครั้ง ต้องกล่อมหนัก ๆ เพลงขวัญเป็นคนปากหนักเรื่องแบบนี้เพราะฉะนั้นต้องกล่อมให้สุดพลังและสุดท้ายการพยายามของน้องจูนก็ได้สิ้นสุดเมื่อเพลงขวัญของจูนคล้อยตามค่า~ แถมตอนที่พี่ฟรังซ์เดินมาหาก็มีขอให้เขาพาไปเข้าห้องน้ำไม่รู้ไปเข้าอีท่าไหนออกมาก็โดนพี่ฟรังซ์ลากกลับด้วยท่าทางรีบร้อนเกิน สงสัยพี่เขาตากผ้าไว้หลังห้องแล้วต้องรีบกลับไปเก็บมั้งคะเพราะท่าทางพายุจะถล่มนะคืนนี้ ฮ่า ๆๆ
-01.20 น.-
“ไม่อยู่ต่อกับเพื่อนคนอื่นเหรอ?”
“ไม่” ฉันเดินออกมาจากผับตามหลังนักท่องเที่ยวราตรีคนอื่น แต่มันก็ดันมีเสียงเสือสิงกระทิงแรดทักซะก่อน
คือว่าเพื่อน ๆ ของฉันมันบังเอิญไปสนิทกับไอ้เจ้าของผับค่ะ ซึ่งเจ้าของผับก็คือ...เหอะ! เหตุเพราะพี่ฟรังซ์มาง้อเพลงขวัญเมื่อเดือนที่แล้วตอนที่ฉันกับเพื่อนมาฉลองเรียนจบ พี่ฟรังซ์ง้อเพลงขวัญด้วยการขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงเหล้า แต่เพื่อนสาวของน้องจูบแสบกว่านั้นเพราะมันดันประกาศเลี้ยงเหล้าคนทั้งผับ พอผับปิดไอ้เจ้าของผับก็เลยชวนให้ทุกคนอยู่ดื่มต่อเลยสนิทกับเพื่อนคนอื่น ๆ แต่สำหรับจูนคงไม่ล่ะค่ะเพราะเหตุการณ์วันนั้นทำให้รู้ว่าเขาเป็นยังไง ฝังใจไม่ลืมจริง ๆ
“เมื่อกี้พี่เห็นจูนก็ยังสนุกกับเพื่อนอยู่เลย อยู่ต่อก่อนสิ”
“มาเพราะมีธุระไม่ได้นึกพิศวาสอยากจะมา เข้าใจไหม?”
“ยังโกรธเรื่องวันนั้นอยู่รึไง”
“...” ฉันเลือกที่จะไม่พูดอะไรแต่ใช้สายตาตอบแทน
หือ~ ก็กล้าถามนะพ่อเทพบุตร ส่งสายตาปิ๊ง ๆ ให้กูเคลิ้มแล้วเดินมาชวนกูไปร่วมวงสวิงกับผู้ชายอีกสองและผู้หญิงอีกสามคิดดูว่ากูควรโกรธไหมคะ ช่วยตอบทีถ้าเจอแบบนี้ควรหยุดโกรธหรือโกรธต่อ?
“วันนั้นพี่เมาครับจูน” สงสัยสะอึกหรือไม่ก็ตื้นตันกับสายตาของฉันมั้งเขาก็เลยพูดออกด้วยความสุภาพแบบสุด ๆ โถพ่อคุณอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ทั้งฟาร์มแล้ว วันนั้นฉันจำได้ว่าเขาเดินตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัดอีกจะเอาอะไรมาเมา
“แล้ว? เมาแล้วยังไง เมาแล้วเดินมาชวนใครไปสวิงกิ้งก็ได้เหรอ”
“แล้วจูนจะถือสาคนเมาทำไม” อยากจะพุ่งเข้าไปข่วนหน้าจริง ๆ แต่กลัวค่ะ โรคเอดส์มันติดต่อกันทางเลือดได้ กลัวเลือดเขาติดมือแล้วบังเอิญฉันมีแผลขึ้นมาจะทำยังไงล่ะจริงไหม
“ถามจริงนายชอบสวิงกิ้งมากเหรอ” ฉันถามไปตรง ๆ อันที่จริงเราสองคนก็ไม่ได้รู้จักกันหรอกนะคะ เพิ่งเคยเจอกันตอนปาร์ตี้วันนั้นนั่นแหละ ครั้งที่สองก็ที่กาลกิณีบาร์ของอีโนช ส่วนครั้งนี้ก็ครั้งที่สาม แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งเจอเลเวลความเกลียดก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่ได้ชอบแต่วันนั้นพี่เมา คนเมาก็พูดไปเรื่อย”
“เหรอ! ชวนฉันแล้วลากไปห้องที่เดอะแก๊งของนายกำลังซัดกันนัวนี่นะแค่เมาแล้วพูดไปเรื่อย!” นึกถึงแล้วไมเกรนขึ้น! ว่าจะไม่พูดถึงแล้วเชียว พราะวันนั้นไปเข้าห้องน้ำแต่แม่บ้านกำลังล้างห้องน้ำอยู่ ป้าแกบอกให้ขึ้นไปด้านบนได้เลยเพราะเห็นเป็นแขกพิเศษที่นั่งดื่มต่อกับเจ้าของผับ พอขึ้นไปก็เจอเขายืนรออยู่ ทักทายคุยกันด้วยความเขินอายได้สามนาทีไอ้บ้าคนนี้ก็เอ่ยปากชวน พอเห็นอีจูนกำลังอึ้งก็ลากแขนพาไปชมบรรยากาศสดในห้องกิจกรรมที่ดันอยู่ใกล้กับห้องน้ำพอดี!
“ก็แค่นาน ๆ ครั้ง พี่...ไม่ได้ทำประจำสักหน่อย” หน้าเขามันดูถอดสีด้วยความอายและเสียหน้าไปนิดหนึ่งแต่สุดท้ายก็แถต่อได้ เห็นแล้วอยากต่อยลูกกระเดือกให้ขาดอากาศหายใจตายตรงนี้จริง ๆ
“มันก็เรื่องของนาย หลีกทางด้วยฉันจะเดิน”
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง” เขายอมขยับตัวออกเพื่อหลีกทางให้ฉัน แต่ก็ไม่วายพูดแล้วก้าวตามหลังมาติด ๆ
“ไม่ต้อง! ไม่ต้องเดินตามมาเดี๋ยวใครมาเห็นจะหาว่าฉันเป็นผู้หญิงในวงสวิงกิ้งอุบาทว์ ๆ ของนาย”
“ก็บอกว่านาน ๆ ไง ไปเถอะพี่เดินไปส่งที่ลานจอดตอนนี้ขี้เมามันเยอะ” เขาพูดอะไรฉันไม่ได้สนใจหรอกค่ะ บทสุภาพบุรุษของเขามันดูไม่อินเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าต้องการอะไรหรอกนะแต่ฉันไม่สน เพราะรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา เขาน่าจะเข้าขั้นเจ้าชู้และหื่นสุด ๆ ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามทำยังไงเพื่อเข้าหาน้องจูนมันก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ
“ขับรถดี ๆ นะครับ” พอเดินมาถึงรถเขาก็ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองและพูดกับฉัน
“...” ไม่สนใจค่ะเพราะไม่ได้ขอร้องให้เดินมาส่งอยู่แล้ว แต่ไอ้กุญแจรถมันอยู่ที่ไหนวะควานหาตั้งนานทำไมไม่เจอสักที!
“เป็นอะไร?” สงสัยเห็นท่าทางการค้นข้าวของในกระเป๋าของฉันมันจะทำให้เขาสงสัยมั้งคะก็เลยถาม
“...”
“หากุญแจรถไม่เจอ?” แหม~ ก็เห็นอยู่ว่ายืนข้างรถค้นข้าวของในกระเป๋าขนาดนี้ หากุญแจเข้าบ้านมั้ง
“ให้พี่ช่วยไหม?”
“ไม่จำเป็น!” ฉันหันไปตอกกลับ คนยิ่งหงุดหงิดที่หากุญแจรถไม่เจอก็ยิ่งมาพูดนั่นพูดนี่ใกล้ ๆ
“อาจจะจำเป็นก็ได้นะ” เขาบอกแล้วก็ถือวิสาสะเอาความกล้าจากไหนก็ไม่รู้มานั่งที่กระโปรงรถฉัน สาบานว่าถ้าเป็นคนที่เขาหวงรถมาก ๆ ไอ้บ้านี่โดนเตะปากไปแล้ว
“...” ฉันเงยหน้าจ้องมองเขาด้วยความรำคาญ พร้อมกับด่าทางสายตาไปด้วย ซึ่งถ้าหากเขายังไม่หยุดพูดฉันจะด่าออกเสียงเอาให้ไม่มีอารมณ์ไปสวิงกิ้งกับใครอีกเลย
“หึ ๆ จะด่าพี่ทางสายตาเพื่อ? กุญแจมันอยู่ที่ก้น” เขาหัวเราะขำเบา ๆ แล้วก็ส่ายหน้าน้อย ๆ
“ฮะ?” ฉันรีบตะปบลงที่ก้นของตัวเอง แล้วมันก็มีจริง ๆ ด้วย กุญแจรถมันเหน็บอยู่ในกระเป๋ากางเกงตอนไหนวะ! ขายขี้หน้าชะมัดเลยจูน พอได้กุญแจฉันก็รีบขึ้นรถไม่สนใจที่จะขอบคุณเขาสักนิด ขึ้นรถรีบสตาร์ทแล้วล็อกประตูให้เรียบร้อย
พอเปิดไฟหน้าเตรียมออกรถก็เจอไอ้ผู้ชายคนเดิมยืนยิ้มเอามือล้วงกระเป๋าด้วยมาดนายแบบสุด ๆ กำลังมองเข้ามาในรถ เขายิ้มแล้วก็ทำปากชัด ๆ จนจับใจความได้ว่า ...ขับรถดี ๆ นะครับ แล้วก็โบกมือให้ฉันนิดหน่อย ท่าทางทุกอย่างดูเหมือนนายแบบที่ไม่ประดิษฐ์เลยสักนิด แถมยังเป็นธรรมชาติมาก มากซะจนอยากเปิดกระจกแล้วตะโกนดัง ๆ ให้เขาก่อนจากกันในค่ำคืนนี้ว่า...
...เท่ห์ตายล่ะไอ้เจ้าชายสวิง!
