Sex สืบ (เผ่า)พันธุ์

69.0K · ยังไม่จบ
เทพีปรัมปรา
23
บท
746
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

อารัมภบท "หน้าที่ของทีมก็คือพาให้มนุษย์ที่ถูกคัดเลือกอยู่รอด จนถึงวันที่โลกจะได้รับการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อย และยิ่งกว่าการอยู่รอด ก็คือการสืบเผ่าพันธุ์" "ยังไง" "ไม่เคยเหรอ?" เขาว่าเชิงแกล้งพร้อมหรี่ตา จนเธอขมวดคิ้วแน่น เดี๋ยวนะ ฉันหมายถึงโลกจะปรับปรุงยังไงต่างหาก!" "นั่นไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องรู้" "หน้าที่ของฉันคือทำให้มนุษย์ที่ถูกคัดเลือกอยู่รอดอย่างนั้นเหรอ?" "ก็ส่วนหนึ่ง" คำตอบของเขายังไม่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจ "แล้วมีส่วนไหนอีก?" เธอดึงให้เขาหันมาเผชิญหน้า รวดเร็วจนหน้าแทบจะประชิดกัน นันทิยาผละออกเล็กน้อย หากแต่เขากลับใช้ฝ่ามือประคองต้นคอของเธอเอาไว้ พร้อมกันดันเข้าหาจนแทบจะไม่เหลือช่องว่างระหว่างสองใบหน้า "สืบพันธุ์" ดวงตาใสเบิกโพลงขึ้น เมื่อคำตอบของเขาได้ประทับมาบนริมฝีปาก ความสากระคายจากเขามีกรุ่นความหอมละมุนเจืออยู่ ความอุ่นชื้นที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต รุกล้ำเข้ามาในโพลงปากอ่อนนุ่มที่เผยอออกจากกันด้วยความตกใจ หญิงสาวหลับตาปี๋ รับความรู้สึกอ่อนโยนที่เขามอบมาให้ด้วยสมองที่ตื้อตัน

นิยายรักโรแมนติกนิยายวิทยาศาสตร์นิยายสืบสวนสอบสวนอัจฉริยะคนในใจสายลับนางเอกเก่งพระเอกเก่งเหนือธรรมชาติ วันสิ้นโลก

1

ในวิกฤติที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่นั้น ใครจะไปคิดฝันว่าตัวเองจะต้องมาเผชิญกับวิกฤติที่ยิ่งใหญ่กว่า

ชีวิตของพยาบาลสาวที่ตัดสินใจลาออกจากงานมาได้เพียงสามเดือนกว่า จะต้องเผชิญในคราที่บ้านเมืองได้ประสบกับสงครามเชื้อโรค แบบไม่อาจจะยับยั้งได้...

เธอเชื่อแบบนั้น เชื่อว่ามันคือสงคราม...ที่เธอเห็นแก่ตัวมากพอที่จะไม่ไปเป็นแนวหน้าเพื่อรบกับสงครามที่ยังไงก็ต้องพ่ายแพ้

เธอตื่นขึ้นมาในห้องมืดสนิท ปลายจมูกสัมผัสได้ว่าออกซิเจนในอากาศกำลังติดลบ เสียงอื้ออึงภายในหูกำลังสร้างความปั่นป่วนภายในกาย

เธอรับรู้ได้ว่าทรวงอกของตัวเองกำลังกระเพื่อมช้าลง เหมือนภาพชินตาที่เธอเคยเห็น...

‘ลมหายใจเฮือกสุดท้าย’ อย่างไรล่ะ โอว...เธอกำลังเผชิญอยู่กับสถานการณ์เช่นนั้น ทั้งๆ ที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า เธอยังช่วยแม่เก็บสมุนไพรในสวนอยู่เลยอย่างนั้นน่ะหรือ?

สมุนไพรที่ว่านั่นมันคือ...

“ได้มาเยอะพอสมควรเลยครับท่าน” เสียงสงบเยือกเย็นของเภสัชกรหนุ่มในอาณัติหรือเจ็ตต์ เอ่ยขึ้นท่ามกลางที่ประชุมใหญ่

คนนั่งหัวโต๊ะ เป็นเจ้าของประโยคนั้นโดยสมบูรณ์ หากแต่แววตาเขายังคงเรียบเฉย ใบหน้าเรียวยาวกร้านสายลมและแสงแดด มีสัดส่วนของเครื่องหน้า ละม้ายไปทางหนุ่มอเมริกันเป็นหลัก

มีเพียงแววตาสีฟ้าอมเทาเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขาอาจจะมีชาติพันธ์ทางฝรั่งยุโรปอยู่บ้าง

ริมฝีปากหยักอวบอิ่ม ช่างดูหนักแน่นเวลาได้นิ่งสนิท ไร้การเคลื่อนไหว แต่แลดูจะน่าใจหายสำหรับใครหลายๆ คน

หลายๆ คน... ที่รอคอยคำสั่งการครั้งสำคัญจากเขาอยู่

“ยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดตอนนี้คือไทยแลนด์ถูกต้องหรือไม่” ชาร์ล ลอสต์เอ่ยในสิ่งที่ทุกคนไม่ได้ต้องการจะฟังเลยสักนิด

“ครับท่าน” จอห์นตำรวจหนุ่มชาวอเมริกัน ผู้จับอาชญากรก่อการร้ายข้ามชาติมาได้เกือบหมื่นคดี เอ่ยขึ้นเชิงเครียด เพราะเขาเองก็ยังเดาไม่ได้ว่า ผู้เป็น ‘นาย’ ชีวิตของทุกคนตอนนี้ ต้องการคำตอบไปเพื่ออะไรกันแน่

“แต่ทำไมยาสมุนไพรพวกนี้ ถึงยังไม่ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย” แววตานิ่งสงบสีฟ้าอมเทาประกายความครุ่นคิด หากแต่ไม่มีเค้าของความห่วงใยเจืออยู่

“ในทุกความปลอดภัย มีผลข้างเคียงเสมอ นั่นคือสิ่งที่องค์การแพทย์ ยังไม่ยอมรับ” อัครพงศ์ นายแพทย์หนุ่มชาวไทยอธิบายประกอบขึ้น ด้วยทีท่าที่เจือความวิตกกังวลอยู่ไม่น้อย

การเข้าร่วมโครงการลับระดับชาตินี้มีความเสี่ยง และดูจะเห็นแก่ตัวมากพอสมควร แต่เพื่อความฝันอันสูงสุดที่จะได้รอดชีวิตบนโลกต่อไปแล้ว เขาย่อมจะต้องทำ

“งั้นเหรอ” ถามเชิงแซะ หากแต่ก็ค่อยๆ หยิบใบแห้งๆ ของสมุนไพรชนิดนั้นขึ้นมา ใบหน้านวลของผู้หญิงคนหนึ่งที่เฝ้าทะนุถนอมต้นไม้พวกนี้ให้เติบโตก็ผุดขึ้นมาในทันที

เธออยู่ห่างจากเขาไม่กี่เมตรในอาณาจักรเรือใต้มหาสมุทรลำมหึมานี้ หากแต่เขายังไม่พร้อมที่จะไปเผชิญหน้า

“ทั่วโลกกำลังต้องการมัน” เสียงหนึ่งแย้งขึ้นอย่างเชิงร้องขอ เธอคือ หยางเฟ่ยหญิงวัยกลางคนที่ดูแลเรื่องการปรุงตำหรับยาได้ดีที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวจีนเพียงคนเดียวที่ทั่วโลกต้องการตัวมากที่สุด

“รวมไปถึง อาณาจักรแห่งนี้ด้วย” เขาแย้งขึ้นด้วยแววตาเขม็ง

ชาร์ล ลอสต์เป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวคนหนึ่ง ในองค์การลับระดับชาติ ถือว่าเป็นทั้งนักคิดและนักสร้างกระบวนการทั้งหมดในการมีอาณาจักรเรือใต้น้ำที่สามารถทนกระแสคลื่นลม โดยซ่อนอำพรางเอาไว้จนองค์การต่างๆ ของโลกไม่สามารถตรวจจับหรือเข้าใกล้ได้

ระบบทุกอย่างล้วนเข้มแข็งไปด้วยระบบคุ้มกัน ที่ไม่ว่าการโจมตีจากฝั่งไหน หรือการตรวจจับด้วยเทคโนโลยีก็ไม่สามารถกระทำได้โดยง่าย

“แน่นอน อาณาจักรเฮงซวยนี่น่าจะต้องการทุกอย่าง โดยเฉพาะศีลธรรม” คิม ลี นักกฎหมายและจริยธรรมที่เป็นถึงที่ปรึกษาขององค์กรต่างๆ ทั่วโลก เอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้เกรงกลัวต่ออำนาจ

เขาคือนักไกล่เกลี่ยตัวพ่อและสามารถนำสังคมให้อยู่ร่วมกันได้ภายใต้กฎหมาย เขาโน้มน้าวผู้คนได้...ยกเว้นคนอย่างชาร์ล ล็อตส์

“ไอ้เจ้านี่...” บอดี้การ์ดชาวอเมริกันผิวสีตะโดนขึ้น พร้อมชักปืนออกมาจ่อหัวเขา

ประมุขแห่งเรือยกมือขึ้นชูเชิงห้าม แววตาเย็นเฉียบเหี้ยมเกรียม มองไปยังคนปากดีที่ไม่ได้เต็มใจขึ้นมาที่นี่ พร้อมทุบโต๊ะเสียงดัง!

“ใช่ นั่นคือเหตุผลที่นายต้องมาอยู่ที่นี่” รอยยิ้มของเขาไม่ได้มีวี่แววของการยิ้มอย่างแท้จริง แต่เป็นการเชิงเยาะเสียมากกว่า

ก่อนสันกรามนูนจะค่อยๆ นิ่งสงบตอบสนองความเรียบเฉยของริมฝีปาก และปรายตาไปยังเภสัชกรหนุ่มที่แววตาครุ่นคิดเหลือกำลัง

“ฉันมอบหมายให้นายดูแลกระบวนการผลิตสมุนไพรให้ออกมาเป็นสากล ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”

“แต่ไม่ใช่การไปกวาดซื้อสมุนไพรนี้มาทั้งหมดนะ!” หยางเฟ่ยโอดออกมาอย่างผิดหวัง จนเจ็ตต์ต้องส่งสายตาเชิงร้องขอ ว่าไม่ให้เธอแสดงกิริยาต่อต้านอะไรออกไปให้มากนัก

เวลานี้เธอต้องห่วงชีวิตของตัวเอง มากกว่าชีวิตของคนทั้งโลก

“จบการประชุม” ร่างสูงสง่ายืนขึ้นจนเต็มความสูง แววตานิ่งและเด็ดขาดของเขา ไม่ได้ทำให้ใครกล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาอีก นอกจากหยางเฟ่ยที่กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้เสียเต็มอก

เธอไม่คาดคิดว่าการได้เป็นผู้นำด้านยาสมุนไพรของจีน จะทำให้เธอต้องมาเผชิญชะตากรรมเฉกเช่นนี้

ชะตากรรมที่เหมือนต้องร่วมกระบวนการทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ร่วมชาติ จากอำนาจเหนือความคาดหมาย ที่ไม่มีแม้ใครที่จะหยุดยั้งมันได้!

“เราจะปล่อยให้หยางเฟ่ยมาคอยร้องห่มร้องไห้ตลอดไปเช่นนี้งั้นหรือครับท่าน” กวินทร์ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำและภัยพิบัติชาวไทย ที่เรียนจบโดยตรงจากอเมริกาเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบายใจ

เขาล่วงรู้ถึงองค์การลับนี้ตั้งแต่สมัยเรียน จนสามารถทำงานในองค์กรระดับชาติได้แบบไม่เคยกลับไปเหยียบผืนแผ่นดินไทย เขารู้ว่าต่อนี้ไปทั่วโลกจะเต็มไปด้วยน้ำ...การอยู่ร่วมกันกับน้ำได้อย่างปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ข้อมูลพวกนั้นทำให้เขาหาวิธีที่จะเข้ามาทำงานกับองค์นี้ ความเหี้ยมเกรียมและกระหายการเอาชีวิตรอดแบบไม่สนใจชีวิตของผู้ใด ฉายชัดจนคนไร้คุณธรรมเช่นเดียวกันอย่างชาร์ล ล็อตส์

พึงพอใจ...

“นายอยากจะฆ่าเธอทิ้งเสียงั้นเหรอ” คำถามสงบไม่เจือความรู้สึกเช่นใด เหมือนเอ่ยล่องลอย เพราะวินาทีนี้ภาพ ‘ผู้หญิง’ คนนั้น แวบเข้ามาให้เขาอยากจะไปเจอเสียให้ได้

“ผมว่าเรามีแค่เภสัชกรก็น่าจะเพียงพอแล้ว ความสามารถอันน้อยนิดของเธอนั่น ไม่สมควรที่จะได้ขึ้นเรือมาเสียด้วยซ้ำ” ได้ยินดังนั้น ผู้เป็นใหญ่ก็พยักหน้า

“เภสัชกรไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการสกัดสมุนไพร เธอจำเป็นแน่ล่ะ ฉันถึงให้ขึ้นเรือมาด้วย” อธิบายด้วยเสียงเนิบนาบ แลดูใจเย็น จนคนร้อนรุ่มจำต้องยอมสยบให้

“ครับท่าน” หลังจากที่ห้องส่วนตัวได้สงบอีกครั้ง บอดี้การ์ดที่เป็นเหมือนมือข้างขวา รู้ใจพอที่จะรายงานสิ่งที่เจ้านายต้องการจะทราบ

“เธอยังไม่ฟื้นครับท่าน” เบลลีเอ่ยเสียงก้องทุ้ม หากแต่สงบเสมอตามแบบฉบับ

“อืม” ตอบกลับเพียงแค่นั้น ก่อนลุกเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนั้น ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีใครสามารถจะเข้าใจได้ แม้ผู้ที่รู้ใจที่สุดก็ตาม