EP 14 | ไอ้ตี๋ลูกจีน
“ตะ...แต่มันก็มีที่อื่นให้คุยอีกต้องเยอะนี่คะ”
“ที่ไหน? ห้องเธอ หอหญิงฉันขึ้นไปได้เหรอ? คุยห้องฉันนี่แหละอย่าเรื่องมาก!”
“ก็พาไปห้องพี่สิ ทำไมต้องเปิดห้องที่โรงแรมด้วย”
“ฉัน! อยู่! ที่! นี่!”
บอสเอ่ยย้ำทีละคำช้าๆ ชัดๆ ราวกับต้องการบอกว่าเขากำลังจะหมดความอดทน ไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้ขี้สงสัยมากขนาดนี้
ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งเมื่อคนตัวเล็กไม่มีท่าทีว่าจะเปิดประตูลงมาเสียที
“ลง!”
แครอทสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงตะคอกของเขา ดูจากสีหน้าตอนนี้เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะพาไปทำมิดีมิร้ายเลยสักนิดเพราะหน้าตาอย่างเธอคงห่างไกลสเป็กเขามากเลยล่ะ
เธอกลัวเขาจะพาเธอไปฆ่าปิดปากเสียมากกว่า!
ปึง!
ทันทีที่เธอก้าวขาลงจากรถบอสก็ปิดประตูเสียงดังก่อนจะเดินนำไปยังลิฟต์ด้านหลัง ซึ่งเป็นลิฟต์สำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น
บรรยากาศภายในลิฟต์เงียบสงัดเสียจนแครอทจินตนาการไปถึงหนังสยองขวัญ ในสมองของเธอตอนนี้คิดถึงแต่ข่าวฆาตกรรมในโรงแรม
เขาอาจจะจับเธอโยนลงมาจากตึก!
จับเธอกดน้ำในอ่างจากุชชี่!
ใช้มีดปาดคอแล้วหั่นศพเป็นชิ้นๆ!
ติ๊ง!
“เฮือก!”
ร่างบางสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณแจ้งเตือนของลิฟต์ก่อนที่ประตูเหล็กทั้งสองข้างจะเปิดออก ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนจะเดินนำออกไป
น่าแปลกที่ชั้นนี้กลับมีประตูทางเข้าอยู่แค่ประตูเดียวราวกับทั้งชั้นมีห้องพักอยู่แค่ห้องเดียวเท่านั้น แครอทมองสำรวจไปรอบๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่แต่ถ้าเขาอยู่บนชั้นนี้แค่ห้องเดียวนั่นหมายความว่าไม่มีใครสามารถขึ้นมาช่วยเธอได้เลย
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!
บอสสแกนนิ้วเพื่อเปิดประตูห้องก่อนจะหันกลับมากระชากแขนคนตัวเล็กเข้าไปข้างในเพราะเธอมัวแต่ก้าวขาช้าๆ ยิ่งกว่าเต่า
ปึง!
ร่างบางถูกเหวี่ยงชนกับผนังห้องก่อนที่แขนแกร่งทั้งสองข้างจะค้ำยันลงเพื่อกักขังเธอไว้ในอาณัติ
“ว๊าย! พี่อย่าฆ่าหนูเลยนะ หนูตายไปพ่อต้องเสียใจมากแน่ๆ”
แครอทรีบพูดพลางหลับตาปี๋แถมยังยกมือไหว้ท่วมหัวเพื่อขอร้องเขาอีกด้วย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นี่เธอคิดว่าเขาจะพาเธอมาฆ่าหรือไง เขาต้องเตรียมรับมือกับเรื่องเซอร์ไพร์จากเธอวันละกี่เรื่องกัน
“ฉันจะฆ่าเธอเพื่อ!”
เสียงตะคอกยิ่งทำให้แครอทกลัวจนตัวสั่นแต่เธอก็ค่อยๆ ลดแขนทั้งสองข้างลงแล้วกลั้นใจเพื่อลืมตาขึ้นมองหน้าเขา
“กะ...ก็หนูไม่รู้ว่าตอนนี้พี่กำลังโมโหเรื่องอะไรนี่”
เธอตอบกลับไปตามตรง เวลาที่คุยกับคนอื่นเขาจะยิ้มแย้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีมากแต่กับเธอเขามักจะอารมณ์เสีย เสียงดังและทำราวกับว่าเธอมีความผิดติดตัวตลอดเวลา
“เมื่อวานฉันบอกเธอว่ายังไง”
น้ำเสียงเข้มอ่อนลงอัตโนมัติเมื่อเห็นคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขาตาละห้อย อวัยวะในหน้าอกข้างซ้ายแทบจะแปรสภาพเป็นของเหลวในทันที
“อ่อ! ถ้าเรื่องเมื่อเช้าหนูจำเวลาเข้าเรียนผิดค่ะ จริงๆ ต้องเข้าเรียนตอนแปดโมงหนูก็เลยรีบตื่นไปเรียนแล้วตอนพี่โทรมาอาจารย์กำลังให้ทำควิซก่อนเริ่มคาบอยู่ค่ะ”
แครอทรีบอธิบายยาวยืดแถมสายตาของเธอก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีเลยว่าสิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง
เธอไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดเขาแต่เธอจำเวลาเข้าเรียนผิดจริงๆ ถ้าลูกฟูกไม่โทรมาเพื่อชวนเธอไปกินข้าวเช้ากันก่อน เธอคงจะนอนหลับยาวอยู่บนเตียงจนเข้าเรียนสายแน่นอน
“ทำควิซเสร็จแล้วทำไมไม่ส่งไลน์บอกฉัน!”
“ต้องบอกด้วยเหรอคะ”
“ยัยโบ๊ะ!”
ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มลงทันทีเมื่อเขากลับมาใช้น้ำเสียงดุดันอีกครั้ง เธอเห็นว่ามันเลยเวลานัดมานานแล้วเขาคงไม่ได้รอเธอนานขนาดนั้นก็เลยไม่ได้พิมพ์แชทไปบอก
“เรื่องเมื่อเช้าช่างมัน แล้วไอตี๋ลูกจีนนั่นมันเป็นใคร”
“ตี๋? ลูกจีน? ใครเหรอ?”
แครอทกลอกสายตาไปมาเพื่อคิดว่าคนที่เขาพูดคือใครก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเขาเพราะคิดไม่ออก
“ไอ้เปา”
พูดถึงชื่อนี้แล้วเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทุกที ไหนจะประโยคที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกลางโรงอาหารอีก
‘ก็น้องแครอทเด็กพี่เปานี่นา เค้ารู้กันทั้งคณะฯตั้งแต่วันรับน้องแล้วจ๊ะ’
“อ่อออ~ พี่เปาเป็นพี่ชายข้างบ้านของหนูที่ชลบุรีค่ะ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่รู้พี่คนนั้นเข้าใจผิดไปได้ยังไง”
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องมายืนอธิบายให้คนตรงหน้าฟังแต่ถ้าพูดแล้วเขาจะอารมณ์ดีขึ้นหรือยอมปล่อยเธอกลับบ้านก็คงจะดีกว่ายืนกันอยู่แบบนี้
“เหอะ!”
พี่ชายข้างบ้าน? เขาเห็นสายตาของมันตั้งแต่วันนั้นก็ดูออกแล้วว่ามันไม่ได้คิดกับเธอแค่น้องสาวแน่ๆ
บอสยอมถอยหลังออกไปยืนดีๆ ทำให้คนตัวเล็กลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขากำลังหงุดหงิดใส่เธอเรื่องอะไรทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้ขอให้เขาเข้ามาช่วยเสียหน่อย
“ไปรอในห้องน้ำ เดี๋ยวฉันเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่แค่ไปส่งหนูที่ห้องก็พอ”
ไหนๆ เธอก็คลุมเสื้อช้อปของเขาอยู่แล้ว กลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องเลยน่าจะสะดวกกว่าไม่ต้องรบกวนยืมเสื้อของเขาด้วย
“ฉันง่วงยังไม่ว่างไปส่ง”
คนหน้ามึนตอบกลับพลางเดินตรงเข้าไปในห้องแต่งตัว แครอทถึงกับทำหน้าเหวอเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา
ร่างเล็กเดินตามเขาเข้าไปในห้องแต่งตัวซึ่งระหว่างทางเดินเธอก็สังเกตว่าห้องนี้ถูกตกแต่งเหมือนคอนโดมากกว่าเป็นห้องพักของแขกตามโรงแรมทั่วไป แสดงว่าคนตรงหน้าของเธอน่าจะรวยมากๆ
“งั้นหนูนั่งแท็กซี่กลับเลยแล้วกันค่ะ ว๊าย!”
ยังไม่ทันจะได้หันหลังกลับเธอก็ถูกเขาคว้าเอวบางเอาไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นนั่งบนโต๊ะไอส์แลนด์และความตกใจก็ทำให้เสื้อช้อปของเขาที่คลุมตัวเธออยู่ร่วงหล่นไปที่พื้น
มือเรียวรีบยกมือขึ้นกอดหน้าอกของตัวเองทันทีแม้จะรู้ว่าเขาเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ตาม
“ทำไมเธอชอบขัดคำสั่งฉัน”
“ละ...แล้วทำไมหนูต้องคอยทำตามคำสั่งพี่ด้วย หนูไม่ใช่คนรับใช้ของพี่ซะหน่อย”
แครอทเริ่มมีน้ำโหขึ้นบ้าง เขากำลังทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นที่ระบายอารมณ์ที่จะดุ จะว่า จะขึ้นเสียงหรือออกคำสั่งอะไรก็ได้
“เธอต้องคำตามที่ฉันสั่งเพราะเธอต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำไว้ไง”
เป็นเหตุผลที่ฟังดูไร้สาระมากที่สุดแม้แต่คนพูดเองยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่คืออะไร
เขาไม่ชอบที่เธอเอาแต่หนีเขา
ไม่ยอมรับสายเขา
ไม่ยอมอ่านแชทของเขา
ไม่ชอบที่เห็นเธอถูกรังแก
และที่ไม่ชอบมากที่สุดคือประโยคที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงของคนอื่น
“พี่จะให้หนูรับผิดชอบยังไง หนูก็ขอโทษพี่ไปตั้งหลายรอบแล้วนะ”
“ไม่มีใครเคยสอนเหรอว่าห้ามเถียงผู้ใหญ่”
แครอทเชิดหน้าขึ้นมองเขาพลางกัดริมฝีปากอวบอิ่มด้วยความโมโห เขากล้าเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ได้ยังไงในเมื่อเหตุผลของเขายังฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด
สายตาคมมองไปยังริมฝีปากรูปกระจับที่ถูกกัดจนห่อเลือดพลางนึกไปถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่เขาบังเอิญได้สัมผัสมันเมื่อวาน
“กัดเองมันไม่เจ็บหรอก ให้ฉันช่วยดีกว่า”
“ห๊ะ? อ่ะ...อื้อ!”
