Chapter 5
Studio
ฉันปล่อยอเล็กเซซ่อมประตูต่อในเมื่อเขาชอบหนาวตาย ส่วนตัวเองกลับเข้าบ้านไปยังสตูดิโอ
ภายในสตูดิโอของดิมิทรีเป็นระเบียบและมีกลิ่นอายของไม้คละเคล้าด้วยปูน อีกทั้งเจือกลิ่นสีเบาบาง
เต็มไปด้วยความเป็นตัวตนของดิมิทรีในห้องนี้
บนฝาผนังด้านหนึ่งสายตาของฉันสะดุดเข้ากับภาพวาดรูปนาตาชา เขียนขึ้นจากแท่งชาร์โคลด้วยฝีมืออันประณีต ทำให้รูปนาตาชารูปนี้งดงามยิ่งกว่าภาพโมนาลิซ่าอันบันลือโลกในความคิดของฉัน
ที่สำคัญ...ฉันเห็นความรักมากมายที่ดิมิทรีเทลงบนภาพนี้ ภาพของหญิงคนรักและความรักอันปราศจากเงื่อนไขที่ทำให้หัวใจฉันพองโตและรู้สึกดีกับทั้งคู่
ฉันปลาบปลื้มไปกับความรักระหว่างดิมิทรีและนาตาชาด้วยใจจริง
“นาตาชา” ฉันเอ่ยชื่อเมื่อมองภาพนั้นด้วยความชื่นชม
“รู้จักด้วยเหรอ?” ดิมิทรีประหลาดใจ
ส่งให้ฉันชะงัก ก่อนนึกได้ว่าควรตอบอย่างไร “เห็นผู้ชายที่วิทยาลัยดูปกแม็กกาซีนที่มีรูปเธออยู่”
“เธอเป็นคนรักของฉัน รู้ใช่ไหม?”
“รู้เหมือนที่ทุกคนรู้แล้ว” ฉันบอกเขา “ยินดีด้วย ขอให้มีความสุขตลอดไป”
“ขอบใจ” รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนเรียวริมฝีปากของดิมิทรี
ทุกครั้งที่เอ่ยชื่อนาตาชา...ฉันเห็นความรักที่เขามีให้เธอคนนั้นอย่างมากมาย หัวใจฉันรู้สึกพองโตราวกับโบยบินเมื่อคิดถึงความสุขของดิมิทรี
และฉันมีความสุขจริงๆ
“นายรู้จักเธอได้อย่างไรเหรอ?” ฉันถามเจ้าของสตูดิโอ ฉันมักชอบฟังเรื่องราวของความรักเช่นเดียวกับฟังเพลงรัก แต่ละเพลงงดงามและไม่เหมือนกันเลย เรื่องจริงหลายเรื่องน่าหลงใหลกว่านิยายรักเพราะงั้นฉันจึงชอบฟังเรื่องพวกนี้
“เห็นในฝัน” ดิมิทรีบอก
นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันคิดไว้ หากแต่นั่นล่ะคือความเป็นดิมิทรีที่ไม่เหมือนคนอื่นในความคิดของฉัน
“มีครั้งหนึ่งฉันประสบอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้เสียเลือดมากจนเกือบตาย มีการออกประกาศหาเลือดกรุ๊ปโอเนกาทีฟให้ฉัน เมื่อลืมตาอีกครั้งฉันพบว่าเลือดในร่างกายของฉันไม่ใช่เลือดตัวเองอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นเลือดของนาตาชา”
ใบหน้าคมสันนั้นดูอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักเมื่อเล่า “นาตาชาเป็นคนที่ให้เลือดกับฉัน”
“และเป็นผู้ครอบครองหัวใจของนายเช่นกัน” ฉันเอ่ยด้วยความเข้าใจ รับรู้และซึมซับเรื่องราวความรักระหว่างดิมิทรีกับนาตาชาที่ช่างฟังดูชวนฝัน มีความเสียสละแฝงอยู่
อีกทั้งความรักขนาดที่แลกชีวิตให้แก่กันและกันได้
ต่างจากฉันที่ไม่เคยมีหรือพบความรักอันเข้มข้นหรือตราตรึงแบบนั้น
ที่ความรักดูทรงพลัง...อาจเพราะที่นี่คือมอสโก
“นาตาชามาเยี่ยมฉันหลังจากฉันฟื้นขึ้น ฉันพบว่าใบหน้าที่มองมาที่ฉันเหมือนกับภาพนี้ที่ฉันเคยวาดไว้ก่อนได้พบนาตาชา ภาพที่วาดขึ้นจากความฝัน”
น่าแปลกที่เวลาเล่าต่อให้ดูเขารักเธอมาก...แต่มีบางสิ่งในแววตาที่ดูออกจะเศร้าหรือไม่ก็ครุ่นคิด
ทำไมนะ?
อย่างไรก็ตามภาพวาดนั้นสวยมากจนชวนให้หยุดหายใจ ฉันเคลื่อนมือแตะกรอบภาพด้วยความชื่นชม ระวังไม่ให้ภาพนั้นเปื้อนแม้แต่ลมหายใจจึงเพียงยืนอยู่ห่าง
ฉันทะนุถนอมนาตาชาเท่ากับที่ดิมิทรีทะนุถนอม
สวย...ถ้าฉันเป็นดิมิทรีก็คงจะหลงรักเธอและรักไปตลอดเหมือนกัน รักให้นานเท่านาน
“ดิมิทรี นายคงรักนาตาชามากใช่ไหม” และเมื่อพูดแบบนั้นฉันรู้สึกมีความสุขแทนดิมิทรีมากกว่าจะคิดเรื่องที่ฉันเริ่มชอบเขาและเสียใจ
ฉันไม่เสียใจเลย เขามีความรัก มีคนที่รัก แค่นั้นก็พอแล้ว
และฉันดีใจ
นั่นเพราะความรักไม่จำเป็นต้องเรียกร้องให้อีกฝ่ายตอบแทน หากแต่เป็นการให้โดยไม่เรียกร้องสิ่งใด
