บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เตรียมสอบเข้าเรียนต่อ

ครั้งนี้เป็นคืนแรกที่ปีศาจหนุ่มค้างคืนในแดนมนุษย์ ไม่น่าเชื่อว่าวันแรกที่เข้ามายืนใบสมัครเรียน เขาจะได้เพื่อนทีเดียวพร้อมกันถึงสามคน นั่นคือเมเทเลีย เอวิส และเลน่า สองสาวนอนในห้องเดียวกันส่วนเขาพักอยู่กับเอวิสซึ่งตอนนี้นอนคลุมโปงอยู่ เซสที่นั่งอยู่บนเตียงข้าง ๆ ชำเลืองมองว่าอีกฝ่ายจะลุกขึ้นมาหรือไม่ เมื่อแน่ใจว่าหลับสนิทแล้ว เจ้าตัวจึงถอดแว่นตาออก ตามด้วยสะบัดหัวให้ทรงผมกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“ส่งข่าวดีกว่า” เจ้าตัวเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสมุดเล่มหนึ่งออกมาฉีกกระดาษ มือซ้ายหยิบปากกาออกมาเขียนข้อความหาใครบางคนที่เขาอยากจะเล่าเรื่องราวให้ฟัง

ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าอยู่ที่แดนมนุษย์นะ ช่วงนี้มีคนมาสมัครเรียนเยอะมาก อีกไม่นานก็คงถึงวันสอบ ข้าได้เพื่อนทีเดียวสามคนเลย คนแรกคือเมเทเลีย ข้าคงไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมนะว่านางเป็นใคร ส่วนอีกสองคนเป็นเพื่อนสนิทของนางชื่อเอวิส คาเวอร์ลอน กับ เลน่า คัลเลนด้า ตอนที่ข้าส่งข่าวบอกท่าน รับรองว่าไม่มีใครรู้แน่ ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง อีกอย่างอยู่ที่นี่ข้าใช้ชื่อว่าเซส โดโนเวน ข้ามั่นใจว่าตอนนี้ยังไงไม่มีใครสงสัยตัวจริงของข้า ท่านพ่อสบายใจได้ แล้วข้าจะส่งข่าวไปใหม่นะครับ

เซเรียส เพนเดลรอน

หลังจากเขียนข้อความเสร็จ เจ้าชายแห่งแดนมืดก็ม้วนกระดาษแล้วย่องออกไปที่ระเบียงหลังห้อง เขาดีดนิ้วเสกนกสีดำออกมาจากนั้นก็เสกเชือกมาผูกม้วนกระดาษไว้ที่ขาของมัน ก่อนจะส่งเจ้านกตัวนั้นบินขึ้นฟ้ามุ่งหน้ากลับไปยังบ้านเกิด

“นี่เหรอท้องฟ้าในแดนมนุษย์” เซเรียสแหงนหน้ามองม่านสีรัตติกาลที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้านดวง ความจริงแล้วมันก็ไม่ต่างจากที่แดนมืดเลย นอกจากสภาพอากาศที่ไว้ใจไม่ได้ อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก คงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ออกจากบ้านมาอยู่ต่างแดน

เอาเป็นว่าเขาจะพยายามปรับตัวละกัน!

วันที่สองของการมาอยู่ในแดนมนุษย์ เช้านี้มีท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเย็นสบาย หลาย ๆ คนออกจากบ้านมาดำเนินชีวิตเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ แต่สำหรับชายหนุ่มนั้นแตกต่างออกไป วันนี้เซสแต่งตัวสบาย ๆ แต่ก็ยังเป็นสีดำเหมือนเมื่อวาน ทรงผมเรียบตรงสวย สวมแว่นตาหนาเตอะ ที่สำคัญยังใช้เวทพรางใบหูให้เหมือนมนุษย์ด้วย ร่างสูงเดินตามหลังเพื่อนใหม่ทั้งสามลงไปที่ห้องอาหารเพราะตอนจองห้องพัก พวกเขาได้คูปองรับประทานอาหารในโรงแรมด้วย

อาหารในแดนมนุษย์ก็ไม่ต่างจากแดนมืดเท่าไหร่แฮะ เซสมองอาหารในถาดที่จัดไว้ให้แขกตักใส่จานแล้วนำกลับไปทานที่โต๊ะ ระหว่างที่พวกเมเทเลียแยกย้ายกันไปตักของที่ชอบ ร่างสูงก็เดินวนไปรอบ ๆ เพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกกินอะไรดี

“เซส ไม่รู้ว่าจะกินอะไรเหรอ” เมเทเลียยกจานใส่ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปัง และน้ำผักผลไม้รวมเดินมาหา เจ้าตัวฝืนยิ้มพลางเกาหัวยิก ๆ บอกตามตรงว่าเขาไม่รู้จะกินอะไรดี

“คือว่าผมชินแต่กับอาหารจานเดียวอย่างข้าวราดแกงน่ะครับ” ความจริงแล้วเขาโกหก ตอนอยู่บ้านก็ได้กินอาหารแบบชนชั้นสูง แต่พออยู่ในสนามรบ อาหารที่กินก็เป็นแบบง่าย ๆ และพกพาสะดวก ทว่าข้าวราดแกงใช่ว่าไม่เคยกินเพราะว่าง ๆ เขาก็จะออกไปนอกวัง จึงได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารข้างทางอย่างข้าวราดแกงบ้าง

“งั้นลองกินดูสักครั้งนะ อยากชิมอะไรก็ตักเลย เดี๋ยวฉันกลับไปที่โต๊ะก่อน”

“ครับ” เซสปั้นหน้ายิ้ม ๆ ให้หญิงสาวก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าเฉยเมยเมื่อเธอเดินจากไป เจ้าตัวเดินกลับไปดูอาหารในถาดอีกครั้ง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นถาดใส่แพนเค้กที่พนักงานเพิ่งนำออกมาวาง ยังไม่ทันจะมีใครไปต่อแถว ชายหนุ่มก็พุ่งไปถึงก่อนเป็นคนแรก

ของโปรดมาแล้ว แพนเค้กต้องเป็นของเขา!

“เซส นายกินไหวเหรอ” เอวิสหันมาถามหลังจากเห็นหนุ่มใส่แว่นเดินมาพร้อมจานใหญ่ใส่แพนเค้กที่กองพูนขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมีแฮม ไข่ดาว สลัดผักในจานแต่ถ้าเทียบกับแพนเค้กมันก็น้อยไปอยู่ดี

“เซสชอบกินแพนเค้กนี่คะ เมื่อวานก็บอกอยู่” เลน่าเตือนความจำเพราะเมื่อวานช่วงมื้อเที่ยง อีกฝ่ายก็มาด้วย แถมยังสั่งแพนเค้กกินไปหลายจาน ตอนนั้นคนทั้งร้านมองเป็นตาเดียวกันเลย

“ได้ข่าวไหมเมื่อวานนี้”

“ประเทศโรซานใช่ไหม”

“ใช่ ๆ วุ่นวายมากเลย”

“เขาคุยอะไรกันน่ะ” เมเทเลียชำเลืองมองหญิงสาวสองคนที่เดินคุยกันผ่านโต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่ ท่าทางเธอคงยังไม่รู้ข่าว เอวิสจึงอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

“เมื่อวานตอนเย็น เกิดพายุพัดถล่มเมืองหลวงของประเทศโรซาน บ้านเรือนพังเสียหายหมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพระราชวัง พังชนิดที่ต้องสร้างใหม่เลยล่ะ น่าแปลกที่ไม่มีใครตาย อย่างมากแค่บาดเจ็บ โชคดีนะที่ราชาไม่อยู่ในเมืองหลวง มีหวังเป็นเรื่องใหญ่แน่”

“ท่าทางเป็นพายุลูกใหญ่นะคะ สิ่งก่อสร้างพังเสียหายขนาดนั้นเชียว” เลน่ารู้สึกสงสารประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน ข่าวคงกระจายไปมากในเช้าวันนี้

“ยังมีอีกเรื่อง เกี่ยวกับเจ้าหญิงแห่งโรซาน” ทันทีที่ประโยคนั้นออกมาจากปากชายหนุ่มผมสีทอง เซสที่นั่งฟังอยู่ก็ชะงักก่อนจะใช้มีดหั่นแพนเค้กกับแฮมไข่ดาวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อ

“เจ้าหญิงแห่งโรซานทำไมเหรอ” เมเทเลียถามต่อด้วยความอยากรู้

“เห็นว่าหลังจากพายุสงบ เจ้าหญิงหายตัวไปน่ะ ไม่มีใครเจอวี่แววเลย”

“ใช่เจ้าหญิงเซซาเนียที่เคยมีข่าวว่ารักกับปีศาจเมื่อยี่สิบปีก่อนหรือเปล่าคะ” หญิงสาวผมทรงทวินเทลเคยได้ยินข่าวแว่ว ๆ มาก่อนจึงคิดว่าน่าจะเป็นคนนี้

“ใช่ ๆ คนนั้นแหละ ตอนนี้ทางโรซานกำลังตามหาตัวอยู่”

“ไม่แน่นะ ถ้าเจ้าหญิงรักกับปีศาจจริง ๆ พายุนั่นอาจเป็นฝีมือของปีศาจก็ได้” เมเทเลียคาดเดาแต่นั่นทำให้เอวิสส่ายหน้า เขาไม่คิดว่าปีศาจจะบุกไปที่นั่นได้

“ราชาออร์ดิอุสสั่งให้นักเวทสร้างเขตแดนรอบพระราชวังแคนเดียน คนในออกไม่ได้ คนนอกก็เข้าไม่ได้นอกจากจะได้รับอนุญาต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปีศาจเลย พวกนี้ก็เข้าไม่ได้เหมือนกัน”

“นั่นก็เป็นเวทกำจัดปีศาจเหมือนกันนี่คะ ว่าแต่เซสคิดยังไงกับเรื่องนี้เหรอคะ” เลน่าหันมาถามความเห็นกับคนที่เอาแต่นั่งเงียบบ้าง หนุ่มสวมแว่นเลิกคิ้วข้างหนึ่งก่อนจะกลืนแพนเค้กลงคอ

“ผมไม่ขอออกความเห็นนะครับ”

“นี่ทุกคน กินข้าวเสร็จแล้วไปที่หอสมุดประจำเมืองไหม ใกล้จะถึงวันสอบทั้งทีต้องไปท่องหนังสือกันหน่อย” เมเทเลียเอ่ยปากชวนซึ่งดูจากสีหน้าของทุกคนแล้วก็เห็นด้วยทั้งนั้น

“ก็ดีนะครับ” เซสตื่นเต้นนิด ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เข้าไปในหอสมุดของเมืองมนุษย์ ส่วนพวกตำราทั้งหลาย เขาอ่านจากที่บ้านหมดแล้ว เรื่องท่องหนังสือจึงไม่ใช่ปัญหา

แต่อ่านทบทวนอีกสักครั้งก็ดีจะได้ไม่พลาด!

ภาพซากปรักหักพังที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ชายสูงวัยที่เพิ่งกลับมาจากธุระต่างเมืองถึงกับต้องกำหมัดสะกดอารมณ์เพื่อไม่ให้มันระเบิดออกมา ข่าวที่ได้รับจากพวกนักเวทในเมืองหลวงบอกว่าพายุที่พัดถล่มเมื่อวานไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแต่เป็นฝีมือของใครบางคน ที่สำคัญเจ้าหญิงแห่งโรซานที่ถูกขังมายี่สิบปีก็หายไปด้วย

หรือจะมีใครบางคนมาช่วยเธอ!

“ท่านราชาออร์ดิอุส” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนยาวประบ่า นัยน์ตาสีเดียวกันกับเส้นผม เขาสวมชุดเกราะเหมือนพวกทหารแต่มีตำแหน่งสูงกว่า เจ้าตัวเดินมาค้อมศีรษะให้ชายสูงวัยผู้มีผมสีเขียวน้ำทะเลแซมสีขาว ออร์ดิอุสชำเลืองมองเล็กน้อยแล้วถามกลับ

“เทเลอร์ ได้เรื่องว่ายังไง”

“จากการตรวจสอบพบว่าเพดานคุกใต้ดินถล่มขอรับ เจ้าหญิงคงจะหนีออกมา”

“แล้วตรวจสอบได้หรือยังว่าใครสร้างพายุ” ถ้าเขาจำไม่ผิด จากคำบอกเล่าของคนที่อยู่ในเหตุการณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท้องฟ้าในตอนนั้นเป็นสีแดงฉานราวกับเลือด พระอาทิตย์กลายเป็นสีดำ แล้วพายุหมุนสีโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถล่มตามที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวง

...และนั่นทำให้เขตแดนรอบพระราชวังถูกทำลาย!

“ดูเหมือนว่าผู้สร้างจะลบร่องรอยของตัวเอง เราจึงตรวจสอบไม่ได้ขอรับ”

“บ้าจริง!” ออร์ดิอุสสบถอย่างหงุดหงิด เมืองถูกถล่มไม่พอ ลูกสาวคนโตยังหายตัวไปอีก ทางด้านเทเลอร์ที่กำลังเงียบเพื่อใช้ความคิดก็มีผู้ต้องสงสัยปรากฏขึ้นมาในสมอง

“หรือจะเป็นเขาขอรับ”

“จ้าวปีศาจหรือ? หึ! เขตแดนมีพลังถึงขนาดแม้แต่ตัวมันเองยังทำลายไม่ได้ แต่เอาเถอะ เพิ่มมันเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยล่ะ ปีศาจชั่วร้ายอย่างมัน สักวันคงหาทางพาตัวเซซาเนียไปอยู่แล้ว” เมื่อกล่าวถึงผู้ปกครองแดนมืดซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ ใบหน้าของออร์ดิอุสก็บิดเบี้ยวสะท้อนความเกลียดชังออกมา

“...”

“อย่ากังวลไปเลยเทเลอร์ ปีศาจนั่นมันล่อลวงเซซาเนียไปแต่เราก็ยังหาทางพานางกลับมาได้ คราวนี้ก็เหมือนกัน เจ้าเป็นคู่หมั้นของนาง พยายามเอาชนะใจนางให้ได้ก็พอ”

“ขอรับ” แม่ทัพแห่งโรซานค้อมศีรษะให้ชายสูงวัยที่เดินจากไป นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองภาพซากปรักหักแล้วมองไปยังทิศที่ตั้งของแดนมืดซึ่งเป็นสถานที่ที่จ้าวปีศาจพำนักอยู่

หวังว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้อยู่ที่นั่น!

หอสมุดประจำเมืองซินเทลล่าเป็นสถานที่ที่ใหญ่มากสมแล้วที่บรรจุหนังสือไว้มากมายตั้งแต่เก่าแก่สุดขีดเรื่อยมาจนกระทั่งใหม่เอี่ยมอ่อง ท่าทางพวกเมเทเลียก็เข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกจึงมีท่าทางตื่นเต้นต่างจากเซสที่ไม่แสดงอาการอะไรนอกจากกวาดสายตามองไปรอบ ๆ

หอสมุดใหญ่...แต่ก็ไม่ใหญ่ไปกว่าหอสมุดที่บ้านเขาเลย

“ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบกันเถอะ” เอวิสเดินนำหน้าทั้งกลุ่มไปยังชั้นหนังสือสำหรับพวกนักเรียนเตรียมสอบเข้าโรงเรียนซึ่งแถวนั้นนอกจากพวกเขาแล้วก็มีคนอื่นที่เข้ามาอ่านหนังสือเตรียมพร้อมเช่นกัน

เท่าที่เซสรู้มา การสอบจะแบ่งออกเป็นสองช่วงนั้นคือภาคเช้ากับภาคบ่าย ตอนเช้าจะเป็นการสอบข้อเขียน ส่วนภาคบ่ายจะเป็นการสอบภาคปฏิบัติ ซึ่งนั่นทำให้ชายหนุ่มต้องวางแผน ตัวจริงของเขาคือเจ้าชายแห่งแดนมืด เขาจะแสดงตัวตนออกไปให้ใครรู้ไม่ได้ ดังนั้นต้องหาทางกลบเกลื่อนจะได้ไม่มีใครสงสัยโดยเฉพาะพวกอาจารย์ที่บางคนอาจทำงานให้ทางการด้วย

“เซส” หญิงสาวผมสีขาวหอบหนังสือเดินมาหาชายหนุ่มที่ยังคงยืนนิ่ง คนถูกเรียกเลิกคิ้วข้างหนึ่งพลางมองหนังสือเล่มใหญ่ที่เธอเอามา

'เยอะขนาดนี้ อ่านหนึ่งเดือนก็ไม่จบหรอกแม่คุณ!' เจ้าตัวสบถในใจแล้วปั้นหน้ายิ้มแย้มใสให้เธอ มองหน้าก็รู้ทันทีว่าเมเทเลียต้องการความช่วยเหลือ

“เมย์มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ”

“เราจับคู่ติวหนังสือน่ะ เอวิสกับเลน่าแยกไปที่อื่นแล้ว ฉันก็เลยจะมาถามว่ามาติวหนังสือด้วยกันไหม ถ้าเทียบกับสองคนนั้น ฉันเรียนไม่เก่งน่ะ เซสพอจะช่วยติวให้ฉันได้ไหม” ท่าทางเธอเองก็เกรงใจเขาอยู่เหมือนกัน หนุ่มสวมแว่นเลิกคิ้วข้างหนึ่งจากนั้นก็หยิบหนังสือที่อีกฝ่ายหอบอยู่มาอ่านคร่าว ๆ

“หนังสือพวกนี้เก่ามากแล้ว เนื้อหาก็เก่าด้วย เขาคงไม่เอามาออกข้อสอบหรอกครับ”

“ก็หนังสือเล่มใหม่ ๆ มีคนหยิบไปอ่านแล้วนี่ ฉันก็เลยต้องหยิบเล่มเก่า ๆ มา” เรื่องนี้เมเทเลียก็รู้แต่จะทำยังไงในเมื่อมันไม่มีให้เธออ่าน หญิงสาวถอนหายใจยาวอย่างเป็นกังวลพลางยกหนังสือไปเก็บไว้ที่ชั้นตามเดิม

“เมย์คิดว่าเขาจะออกข้อสอบเรื่องอะไรบ้างครับ”

“น่าจะเป็นความรู้ทั่วไปนะ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับสามดินแดน เรื่องแดนเทวาน่ะฉันรู้ดี เรื่องแดนมนุษย์ ถ้าหาหนังสืออ่านได้ก็ไม่น่ายาก แต่แดนมืดนี่สิ หนังสือที่ฉันเคยอ่านเกี่ยวกับแดนนี้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่บอกว่าชาวแดนมืดนั้นโหดร้ายกับวีรกรรมของจ้าวปีศาจ”

“เขาว่ายังไงบ้างเหรอครับ” ชายหนุ่มถามขณะเดินตามหญิงสาวไปหาหนังสืออ่าน เจ้าของเรือนผมสีขาวเงียบไปชั่วขณะเพราะกำลังนึกถึงเรื่องที่เคยอ่านมาแล้วอธิบายให้คนถามฟัง

“ในหนังสือบอกว่าจ้าวปีศาจน่ะชั่วร้าย สองร้อยปีก่อน เขาประกาศสงครามกับแดนอื่น สังหารผู้คนไม่เลือกหน้า นี่ยังไม่รวมอีกหลายเรื่องนะ มิน่าล่ะ ทำไมเจ้าชายแห่งแดนมืดถึงน่ากลัว สารเลว! ชั่วช้าสามานย์ที่สุด!”

“อ้อ...เหรอครับ”

'ด่าตูอีกแล้ว รำคาญจริงโว้ย!' เซเรียสในคราบของเซสมุมปากกระตุก มือข้างขวายื่นไปจับมือซ้ายที่ทำท่าจะเรียกอาวุธออกมาถล่ม ใครกันที่มันเขียนหนังสือเล่าถึงวีรกรรมของเขากับจ้าวปีศาจ ถ้ารู้ว่าบ้านอยู่ไหน เขาจะไม่รอช้ารีบไปเผาบ้านมันเลย!

ช่วงเย็นวันนั้นหลังจากที่พายุฝนฟ้าคะนองสลายตัวไป น่านฟ้าเหนือนครหลวงซัลลิแวนแห่งแดนมืดก็กลับมาแจ่มใสเช่นเดิม แสงแดดจากพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้าในอีกไม่นานทำให้สัตว์หลายชนิดกลับเข้าที่อยู่อาศัย ไม่เว้นแม้กระทั่งชาวแดนมืดที่ออกมาทำงานในตอนเช้าและกลับเข้าบ้านในตอนเย็น จังหวะนั้นเอง นกน้อยสีดำตัวหนึ่งก็บินมาเกาะที่ราวระเบียงก่อนจะส่งเสียงร้องให้เจ้าของห้องออกมาดู

จิ๊บ จิ๊บ

ประตูกระจกเลื่อนออกแล้วร่างสูงในชุดสีดำก็ก้าวออกมา เขาแก้เชือกที่มัดขาข้างหนึ่งของนกน้อยแล้วหยิบม้วนกระดาษออกมาคลี่ดูว่าข้างในมีอะไร

“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เจ้าลูกชายตัวดีนี่เอง” แค่เห็นลายมือชื่อคนส่ง เขาก็รู้แล้วว่าเป็นของเซเรียส หลังจากอ่านเนื้อหาด้านใน ท่าทางตอนนี้เจ้าตัวจะอยู่ที่แดนมนุษย์แถมยังมีเพื่อนใหม่อีกสามคน นับว่าเป็นเรื่องดีที่ลูกชายมีเพื่อนกับเขาสักที

ร่างสูงเดินกลับเข้าไปในห้องและหยิบปากกาขนนกกับกระดาษมาเขียนตอบข้อความ จริงอยู่ที่ตอนนี้พวกนั้นไม่รู้ว่าเจ้าชายแห่งแดนมืดเดินทางออกไปเปิดหูเปิดตาในต่างแดน แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว

พ่ออ่านข้อความที่เจ้าส่งมาแล้ว โรงเรียนใหญ่ทั้งทีก็ต้องมีคนสมัครเข้าเยอะสิ ถ้าอยากเรียนกับคนอื่นก็ตั้งใจด้วยล่ะ มีเพื่อนทีเดียวสามคนเลยเหรอ ดีจังเลยนะ แต่อย่าไว้ใจพวกเขาให้มากนัก ตอนนี้อาจจะยังไม่เป็นไร แต่ถ้าความแตกเมื่อไหร่ พวกเขาอาจมองว่าเจ้าเป็นศัตรู เวลาทำอะไรก็ระวังตัวด้วย ว่าแต่ใช้ชื่อใหม่เหรอ ก็ดี ขืนใช้ชื่อจริงมีหวังได้วิ่งหนีทหารทั่วเมืองพอดี เอาเป็นว่าโชคดีนะเจ้าลูกชาย

วาเรียส เพนเดลรอน

หลังจากตอบข้อความเสร็จ วาเรียสก็ม้วนกระดาษแล้วใช้เชือกมัดกับขาของนกสีดำก่อนจะปล่อยให้ผู้ส่งสาส์นบินกลับไปยังแดนมนุษย์อันเป็นที่ตั้งของประเทศซิลวา วันนี้เป็นวันที่สองที่ลูกชายของเขาไปอยู่ในถิ่นของศัตรู ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้อยากให้ไปแต่ในเมื่ออีกฝ่ายอยากไปเปิดหูเปิดตา เขาจึงทำได้แค่คอยเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ

หวังว่าความจะไม่แตกเอานะ!

“อ่านหนังสือทั้งวัน ฉันล่ะปวดหัว”

“เอวิสครับ ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ” ชายหนุ่มสวมแว่นถามเจ้าคนผมทองที่ตอนนี้กำลังนอนแผ่อยู่บนเตียงข้าง ๆ วันนี้ทั้งวัน พวกเขาช่วยกันติวหนังสือ จึงไม่แปลกที่สมองจะล้าแล้วง่วงนอน

“ถ้าอยู่บ้าน ฉันคงอาบไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้าน ฉันขอนอนเลยละกัน ถ้าจะไปกินข้าวก็ปลุกด้วยนะ” ฝากฝังเพื่อนร่วมห้องแล้วก็รีบมุดเข้าไปในผ้าห่มโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น เซสขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจยาว เขาถอดแว่นตาออกตามด้วยสะบัดหัวให้ทรงผมกลับมาเป็นเหมือนเดิม

'ถ้ามีนักฆ่าถูกส่งมา ท่าจะรอดยาก' เซเรียสกล่าวในใจขณะนำมีดที่ซ่อนไว้ในรองเท้าบู๊ทออกมาจ่อคอคนนอนหลับ เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเอวิสเพียงแต่อยากทดสอบอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ

หนุ่มสาวพวกนี้ท่าทางจะโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ดี เห็นได้จากแต่ละคนร่าเริงสดใสกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเอวิสจะมีแววตาเศร้าหมองอยู่บ้างแต่สถานะของเขาก็ไม่ใช่น้อยเลย และเจ้าชายแห่งแดนมืดก็รู้ตั้งแต่ได้ยินชื่อเต็ม ๆ แล้ว

คาเวอร์ลอน ตระกูลปกครองประเทศเทเอียน!

“ได้ยินว่ามีพี่น้องต่างแม่พยายามแย่งตำแหน่งรัชทายาท ขอให้ผ่านอุปสรรคได้ละกัน” เซเรียสเก็บมีดแล้วหันหลังเดินกลับไปที่ระเบียง นกสีดำตัวที่เขาส่งไปแดนมืด ตอนนี้กลับมาพร้อมข้อความของพ่อแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel