ตอนที่ 1 คำเตือน: การดื่มสุราทำให้ขาดสติสัมปชัญญะและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

◇◇◇

“ไอ้เหี้ย ไอ้สัส ไอ้ชาติหมา ไอ้คนไม่มีหัวใจ

ทำไมมึงถึงทำกับกูอย่างนี้ ฮือออ...ฮือออ…”

◇◇◇

ณ ผับดังกลางกรุงเทพมหานคร

ท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงร็อคที่กำลังบรรเลงอย่างเมามันส์โดยวงดนตรีเพลงร็อคชื่อดังระดับประเทศ นั่นทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ออกมาเที่ยวที่ผับแห่งนี้ต่างออกลีลาท่าเต้นสุดมันส์ โดยการโยกหัว โยกลำตัว โบกแขนและขาของพวกเขาจนแทบหลุดเพื่อให้เข้ากับจังหวะเสียงเพลงที่ปลุกเร้าอารมณ์

นอกจากผู้คนที่กำลังยืนเต้นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงแล้ว ก็ยังมีบางส่วนที่กำลังนั่งสังสรรค์และพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทมิตรสหาย ประกอบกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้บรรยากาศภายในผับแห่งนี้มีแต่ความสุขและความสนุกสนาน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้คนออกมารวมตัวกันที่ผับดังแห่งนี้เป็นจำนวนมาก นอกจากการที่มีวงดนตรีเพลงร็อคชื่อดังระดับประเทศมาทำการแสดงแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ วันที่ทุกคนจะได้ออกมาปลดปล่อยตัวเองออกจากความเครียด ความกดดันและความเมื่อยล้าจากการทำงาน ให้เปรียบเสมือนกับการได้มาชาร์จพลังให้ตัวเอง ให้พร้อมกลับไปต่อสู้กับงานที่แสนหนักหน่วงในโลกที่แสนโหดร้ายใบนี้ได้อีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงที่กำลังปลุกเร้าอารมณ์ ที่ห้อง VIP ห้องหนึ่งกับมีเสียงร้องไห้ฟูมฟายของชายหนุ่มคนหนึ่งดังออกมาขัดกับบรรยากาศของเสียงเพลงที่กำลังบรรเลงอย่างสนุกสนานและเฮฮาซะอย่างนั้น และผู้ที่เป็นเจ้าของเสียงร้องไห้ฟูมฟายไม่ต่างไปจากควายที่กำลังออกลูกคนนี้มีชื่อว่า ‘ติณห์’ ชายหนุ่มร่างเล็ก ผิวขาวใสมีออร่า ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเป็นไอดอลเกาหลี คิ้วเรียวโก่ง จมูกโด่งเชิดรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ใบหูทั้งสองข้างใส่ต่างหูเงินเม็ดเล็ก ผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อน สวมใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวพับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอก สวมกางเกงสแล็คสีน้ำตาลอ่อน และสวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม

โดยหลังจากที่เขาได้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก นั่นทำให้ใบหน้าของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เส้นผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกเซตมาอย่างดีพันกันยุ่งเหยิงเนื่องจากชายหนุ่มร้องไห้ไปด้วยขยุ้มหัวตัวเองไปด้วย เสื้อผ้าที่สวมใส่มาหลุดลุ่ยและเปียกชุ่มไปด้วยเหล้าที่ทำหกใส่จนกลายเป็นคราบเหลือง จนทำให้ชายหนุ่มในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างไปจากขอทานเลยทีเดียว

“ฮือออ…ฮือออ…”

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ‘ติณห์’ ชายหนุ่มผู้มีสภาพไม่ต่างไปจากขอทานคนนี้ต้องมานั่งร้องไห้ฟูมฟายก็ไม่ใช่เพราะว่าหมาที่บ้านของเขาตายหรือว่าถูกหวยกินอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะว่าเขาถูกหักหลังจากคนที่เขารัก!!! และการถูกหักหลังจากคนที่เขารักในครั้งนี้ มันก็เป็นครั้งที่ 9 แล้วที่ติณห์ต้องมาพบเจอกับผู้ชายที่เฮงซวยอย่างนี้

สำหรับชายหนุ่มที่มีชื่อว่า ‘ติณห์’ เขาเป็นคนที่มีดวงอาภัพรักเป็นอย่างมาก และไม่ว่าเขาจะรักใครมากแค่ไหนหรือไม่ว่าเขาจะทุ่มเทให้กับความรักมากเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วเขาจะเป็นคนที่ถูกทอดทิ้งหรือโดนหักหลังเสมอ

และในความรักครั้งนี้ก็เช่นกัน ทั้งๆ ที่เขาทุ่มเทให้กับความรักอย่างเต็มที่ หมั่นดูแลเอาใจใส่ในความสัมพันธ์ของเขาและคนรักอยู่เสมอ จนทั้งคู่ตั้งใจแล้วว่าจะคบหาดูใจกันอย่างเปิดเผยและตัดสินใจอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า

แต่ก็นั่นแหละ ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่า ในวันนี้วันที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของเขา แฟนหนุ่มคนที่เขารัก คนที่เขาทุ่มเทเอาใจใส่กับลืมเลือนมันไปซะอย่างนั้น และถ้าหากว่าแฟนหนุ่มของเขาเพียงแค่ลืมวันเกิดเพียงอย่างเดียว เขาก็คงจะไม่ต้องมานั่งร้องไห้ฟูมฟายมากมายขนาดนี้

แต่เพราะอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาต้องร้องไห้เสียใจนั่นก็คือ ในวันนี้วันที่เขาอุตส่าห์ตั้งใจแต่งตัวให้ดูดี นั่งรอแฟนหนุ่มคนที่เขารักเลิกงานเพื่อจะได้ออกไปทานอาหารเย็นสุดหรูนอกบ้านและใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่หลังจากที่เขารออยู่ที่บ้านจนถึงค่ำมืด คนที่ได้ชื่อว่าแฟนหนุ่มของเขาดันไม่ยอมกลับบ้าน จนเขาต้องรีบเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามหาเขาถึงที่ทำงาน โดยในใจก็เป็นห่วงและหวังว่าแฟนหนุ่มจะไม่ไปพบเจอหรือประสบอุบัติเหตุที่ไหน

จนเมื่อติณห์เดินทางมาถึงบริษัทของแฟนหนุ่ม ในขณะที่เขากำลังจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดิน เขาสังเกตเห็นรถยนต์ของแฟนหนุ่มจอดอยู่ด้านตรงข้าม และเมื่อเขามองไปที่รถยนต์คันนั้น เขาได้เห็นแฟนหนุ่มและชายหนุ่มอีกคนหนึ่งกำลังพลอดรัก กอดจูบ ลูบคลำกันอย่างหื่นกระหายอยู่ภายในรถ

และภาพที่ติณห์เห็นอยู่ตรงหน้า มันก็ทำร้ายจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เพราะว่าโลกทั้งใบของเขามันกำลังแตกสลายอยู่ตรงหน้า เขาอยากจะเดินเข้าไปอาละวาดและทุบรถยนต์ของแฟนหนุ่มให้พังหรือเขาอยากจะฆ่าชายโฉดทั้งสองคนให้ตายๆ ไปซะ โทษฐานที่กล้ามาทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาที่มีให้และย่ำยีหัวใจของเขาดวงนี้จนแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี

แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายเขาก็ทำไม่ลง เขาตัดสินใจที่จะขับรถหนีออกมาทั้งน้ำตา จากนั้นจึงตัดสินใจว่าจะดื่มเหล้าให้หนัก เอาให้มันลืมผู้ชายห่วยๆ คนนี้ให้ได้ และนั่นทำให้เขาตัดสินใจขับรถมุ่งตรงมาที่ผับชื่อดังแห่งนี้นั่นเอง

และทันทีที่ติณห์เดินทางมาถึงผับ เขาได้เปิดห้อง VIP ทันที จากนั้นก็โทรศัพท์หาแก๊งเพื่อนสนิทพร้อมกับเล่าถึงเรื่องราวสุดแสนเฮงซวยในครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้ฟัง จนในที่สุดเมื่อแก๊งเพื่อนสนิทได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว พวกเขาต่างก็พากันรีบแต่งตัวและรีบออกเดินทางมาหาติณห์ทันที

“ไอ้เหี้ย ไอ้สัส ไอ้ชาติหมา ไอ้คนไม่มีหัวใจ ทำไมมึงถึงทำกับกูอย่างนี้ ฮือออ...ฮือออ…”

“ไอ้ติณห์ พอ พอ มึงหยุดดื่มเหล้าได้แล้ว มึงดื่มหนักมากเกินไปแล้ว” น้ำเสียงนิ่งๆ ของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับพยายามแย่งแก้วเหล้าออกจากมือของ ‘ติณห์’ ชายหนุ่มผู้ไม่เคยสมหวังในความรัก และในทุกๆ ครั้งที่ติณห์เสียใจ แก๊งเพื่อนสนิทอย่างพวกเขาก็ต้องมานั่งรุมล้อมและคอยปลอบประโลมหัวใจของเขาอยู่อย่างนี้จนเคยชิน

“ไอ้ดิน มึงไม่เป็นกู มึงจะไปรู้อะไร กูเจ็บ กูทรมาน กูเสียใจ” ติณห์ ชายหนุ่มผู้เมามายชี้หน้าตอบกลับเพื่อนสนิทในสภาพที่ดูไม่จืด

สำหรับ ‘ดิน’ เขาเป็นเพื่อนสนิทของติณห์ ดินเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปร่าง หน้าตาและฐานะ เนื่องจากครอบครัวของดินทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของประเทศไทย

และนอกจากนี้ดินยังเป็นถึงดาราหนุ่มหล่อทรงเสน่ห์ ที่ติดอันดับดาราชายที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประเทศไทย ละครและภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขาแสดงมักมีเรตติ้งและรายได้ที่สูง และนั่นทำให้ ดิน ติดอันดับชายหนุ่มในดวงใจของสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วประเทศ และต่างพากันแวะเวียนมาขายขนมจีบให้เขาอยู่เสมอไม่เว้นแต่ละวัน

“ไอ้ดิน มึงก็ปล่อยให้มันดื่มๆ ไปเถอะ มันไม่ตายง่ายๆ หรอก” น้ำเสียงห้าวๆ ดังมาจาก ‘เชนทร์’ ชายหนุ่มผมสั้นสวมแว่นตาหนาเตอะ แต่ถึงอย่างนั้นการสวมใส่แว่นตาหนาเตอะก็ไม่สามารถบดบังความหล่อระดับเทพของชายหนุ่มคนนี้ไปได้ และเขาคนนี้ยังมีดีกรีเป็นถึงคุณหมอหนุ่มสุดหล่อ หุ่นเป๊ะปัง เพราะเขานั้นรักการออกกำลังกายและฟิตหุ่นดูแลร่างกายอยู่เสมอ

นอกจากนี้แล้วเชนทร์ยังเป็นถึงหมอหนุ่มผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดสมองมืออันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่มีคิวผ่าตัดยาวเป็นหางว่าว และนั่นก็ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกับเพื่อนๆ มากเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นถ้าหากเขารู้ว่าเพื่อนคนไหนมีปัญหาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ เขาจะเป็นคนแรกๆ ที่มาปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆ เพื่อนคนนั้นเสมอและในครั้งนี้ก็เช่นกัน

“ไอ้เชนทร์ ไอ้ห่า มึงก็เป็นหมอ ทำไมมึงถึงไปสนับสนุนให้มันดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวมันก็ตายห่าไปจริงๆ หรอก” ‘ซัน’ ชายหนุ่มผิวแทน หน้าตาหล่อเหลาอีกคนหนึ่งอดใจไม่ได้ที่จะบ่นออกมาเสียงดัง

สำหรับ ซัน เขาเป็นถึงอดีตแชมป์แข่งขันการทำอาหารจากรายการทำอาหารชื่อดัง และในปัจจุบันซันกลายเป็นเซฟชื่อดัง และยังเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

“ไอ้เหี้ย ไอ้สัส ไอ้ชาติหมา ไอ้คนไม่มีหัวใจ ทำไมมึงถึงทำกับกูอย่างนี้ ฮือออ...ฮือออ…” ติณห์ ชายหนุ่มผู้อาภัพรักยังคงร้องไห้ฟูมฟาย และพูดประโยคเดิมออกมาซ้ำๆ เพราะสติสัมปชัญญะของเขาไม่หลงเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ผ่านการดื่มเหล้ามาอย่างหนัก

“โอ๊ย!!! กะเทยเจ็บหัว พวกมึงจะยะอะหยังกะขะใจ๋ยะ ค่ำมืดดึกดื่นปิ๊กบ้านได้ละ ถึงเวลาปาบ่าวอกติณห์มันปิ๊กบ้าน จะละมันไว้ตี้นี้กะบ่าได้ บ่าห่าวอกนี่โดนลากไปตี๋หัวปอดี บ่าวอกนี่ยิ่งเมายิ่งเพ๊อะ (โอ๊ย!!! กะเทยปวดหัว พวกมึงจะทำอะไรก็รีบทำสักอย่างเถอะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว ถึงเวลาพาไอ้เหี้ยติณห์กลับบ้านได้แล้ว จะทิ้งมันไว้ที่ผับก็ไม่ได้ ไอ้เหี้ยนี่โดนลากไปต่อยพอดี ไอ้เหี้ยนี่ยิ่งเมายิ่งเลอะเทอะ กวนประสาทชาวบ้านเขาไปทั่ว)" เสียงพูดเป็นภาษาเหนือดังมาจากชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง

โดยเขาคนนี้มีชื่อว่า ‘เสือ' หรือชื่อที่บังคับให้เพื่อนๆ เรียกคือ ‘คิตตี้' หนุ่มหล่อเหลา หน้าตาคมเข้มสไตล์ไทยแท้ หุ่นล่ำขยี้ใจสาว ดีกรีนักกีฬายิงธนูทีมชาติไทยและเขาเพิ่งได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีที่ผ่านมาอีกด้วย

เมื่อดูจากภายนอกคิตตี้จะเป็นหนุ่มหล่อ หุ่นแซ่บขยี้ใจสาวและชอบเก๊กแมน แต่เมื่อเขาได้อยู่กับแก๊งเพื่อนสนิท เสือจะปลดปล่อยความเป็นตัวเองและปลุกวิญญาณของคิตตี้ให้มาเข้าสิงทันที และด้วยความที่คิตตี้เป็นคนเชียงใหม่ นั่นทำให้เขามักจะอู้กำเมืองหรือพูดภาษาเหนือเมื่ออยู่กับเพื่อนสนิทเสมอ ซึ่งแก๊งของพวกเราทั้ง 5 คนก็เป็นที่รู้กันดีว่าพวกเรานั้นไม่ได้ชอบผู้หญิงแต่มีรสนิยมชอบผู้ชายเหมือนกัน

“ไอ้เหี้ย ไอ้สัส ไอ้ชาติหมา ไอ้คนไม่มีหัวใจ ทำไมมึงถึงทำกับกูอย่างนี้ ฮือออ...ฮือออ…ใครมันจะไปสุขสมหวังอย่างมึงล่ะ บ่าเสือ ดูสิ ถึงหน้าตามึงจะไม่หล่อ หน้าเหมือนตดหมา หน้าเหมือนแมงบ้งขน (หน้าเหมือนหนอน) แต่มึงก็ยังมีผัวเป็นถึงฝรั่งขี้นก แถมยังหวานออกสื่อจนกูได้แต่อิจฉา ฮือออ…มึงมีผัวแล้ว แต่กูแค่แฟนคนเดียวทำไมมันหายากหาเย็นจังวะ หรือว่าพระเจ้าจะลงโทษกูที่กูเกิดมาหล่อ” ติณห์ร้องไห้ตัดพ้อให้กับโชคชะตาในด้านความรักของตัวเอง

ใช่แล้วในบรรดาแก๊งเพื่อนสนิททั้ง 5 คน มีเพียงคิตตี้คนเดียวเท่านั้นที่มีผัวเป็นตัวเป็นตน และผัวของเพื่อนสนิทคนนี้ก็เป็นถึงฝรั่งหนุ่มหล่อล่ำกล้ามโต ดีกรีนักกีฬายิงธนูทีมชาติเช่นเดียวกัน และด้วยความสามารถทางด้านกีฬาของคิตตี้นี่เองทำให้เขามีโอกาสพบเจอกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติที่เป็นนักกีฬายิงธนูด้วยกัน จากนั้นทั้งสองได้ตกลงคบหาดูใจกันอยู่นาน จนสุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจจดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศและกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ประเทศไทย

“โอ๊ย…บ่าวอก บ่าควาย เมาแล้วเพ๊อะ ปิ๊กบ้าน!!!” (โอ๊ย…ไอ้เหี้ย ไอ้สัส เมาแล้วเพ้อเจ้อ กลับบ้าน!!!) คิตตี้โวยวายแต่ก็ยังไม่วายประคองเพื่อนที่กำลังเมามายอย่างหนักให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลและเริ่มต้นพากันเดินออกจากผับ

“ป่ะๆ ถ้างั้นพวกเราก็พากันกลับบ้านกันเถอะ” ซัน เชฟหนุ่มเริ่มเก็บของ ก่อนจะช่วยคิตตี้ถือกระเป๋าของคนเมาผู้ผิดหวังในความรักและเดินตามคิตตี้ออกไป

“ถ้างั้นพวกเราก็พากันไปส่งไอ้เหี้ยติณห์ที่คอนโดของมันก่อนละกัน จากนั้นค่อยแยกย้ายกันกลับ” ดิน ดาราหนุ่มหล่อพูด และเพื่อนๆ ทุกคนต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วใครจะเป็นคนขับรถล่ะ พวกเราก็เมาไม่ต่างจากไอ้เหี้ยติณห์เลย” ซัน เซฟหนุ่มถามขึ้นมาในระหว่างที่พากันเดินกลับไปที่รถ

“เอ่อ เดี๋ยวกูขับเอง เพราะว่ากูดื่มเหล้าน้อยที่สุดละ ดีนะที่พรุ่งนี้เช้ากูต้องไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล ไม่งั้นกูคงดื่มหนักพอๆ กับพวกมึงนั่นแหละ แล้วก็จะไม่มีใครขับรถได้แน่ๆ” เชนทร์หรือคุณหมอหนุ่มสุดห้าวตัดสินใจเป็นคนขับรถยนต์ให้กับเพื่อนๆ

และด้วยความมึนเมาของแก๊งเพื่อนสนิททั้ง 5 คน ใครจะไปรู้ได้ว่าในระหว่างการขับรถกลับบ้านในครั้งนี้ จะมีรถบรรทุกเบรกแตกคันหนึ่งขับพุ่งตรงเข้ามาหารถยนต์ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ปรี๊ดดด…!!!

เสียงแตรรถบรรทุกดังสนั่น เมื่อคนขับรถบรรทุกพยายามบีบแตรออกมาเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นๆ ให้รีบขับรถหลบหลีกออกให้ห่างจากรถบรรทุกของเขาให้เร็วที่สุด

“เฮ้ยยย…!!!"

4 หนุ่มที่ยังพอมีสติอยู่บ้างตะโกนออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นรถบรรทุกคันดังกล่าวได้พุ่งตรงเข้ามาที่รถยนต์ของพวกเขา เชนทร์ คุณหมอหนุ่มผู้เป็นคนขับรถพยายามหักพวงมาลัยรถยนต์อย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นด้วยสติสัมปชัญญะที่ลดลงจึงทำให้การตัดสินใจของเขาล่าช้าไปเพียงเสี้ยววินาที

โครมมม!!!

เสียงรถชนกันดังสนั่นหวั่นไหว โดยเกิดจากการปะทะกันระหว่างรถยนต์คันเล็กที่บรรทุกคนเอาไว้ 5 คนกับรถบรรทุกคันใหญ่ จากนั้นประกายไฟได้แตกกระจายออกมาจากหน้ารถยนต์คันเล็ก ก่อนที่ประกายไฟนี้จะกระเด็นไปโดนเข้ากับน้ำมันที่รั่วไหลออกมาจากตัวถังน้ำมันของรถยนต์

บึ้มมม!!!

เสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง และในครั้งนี้ได้เกิดกลุ่มควันรูปร่างคล้ายดอกเห็ดพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงเกือบ 10 เมตรจากการระเบิดของรถยนต์คันเล็ก จากนั้นไม่นานก็มีเสียงสัญญาณไซเรนของรถกู้ภัยเร่งเดินทางมายังจุดที่เกิดอุบัติเหตุอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คนออกมาจากซากรถยนต์

และในเช้าวันรุ่งขึ้น เหตุการณ์นี้ได้ปรากฏเป็นข่าวดังตามสื่อโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์ ทุกคนต่างพากันพูดถึงอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพราะว่ามันทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลที่สำคัญไปหลายคนจากอุบัติเหตุในครั้งนี้