บท
ตั้งค่า

EP29 รู้สึกผิด

EP29

.

.

.

ในช่วงสายของอีกวันทิวาก็รู้สึกตัวขึ้น ภายในห้องไม่ได้มีแสงสว่างจากพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาข้างในเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคู่สวยกวาดมองหาเจ้าของการกระทำป่าเถื่อนเมื่อคืน แต่ทว่าเจ้าของห้องกลับไม่อยู่แล้ว นั้นทำให้หัวใจดวงน้อยรู้สึกมีความหวัง

ทิวาพาร่างกายอ่อนล้าและสภาพยับเยินลงมาจากเตียงด้วยความเชื่องช้า เนื้อตัวขาวละเอียดอ่อนราวกับผิวเด็กแรกเกิดเต็มไปด้วยรอยแดงสารพัด คลันจะใช้แรงมากในการขับเคลื่อนร่างกายตรงนั้นก็เจ็บปวดแทบฉีกขาด

เปลือกตาหนักอึ้งและบวมจากการร้องไห้มาหลายชั่วโมง คนตัวบางอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไร้การปกปิด สายตามองหาเสื้อผ้าของตนเองแล้วหยิบขึ้นมาสวมด้วยอาการหวาดระแวงกลัวว่าพีทจะเห็นเข้า

และสิ่งที่คิดมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น หญิงสาวไม่รู้ว่าพีทหายไปไหน นั้นมันก็เป็นโอกาสดีที่จะหนีออกไปจากนรกขุมนี้ พอคิดได้คนตัวเล็กก็รีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินไปยังประตูห้อง ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อก ทิวาจึงรีบเข้ามาในลิฟต์ด้วยความรู้สึกโล่งอก

"อึก…" พออยู่คนเดียวตามลำพังปากบางก็พ่นหายใจออกมา พร้อมกับทรุดกายนั่งลงบนพื้นหมดเรี่ยวแรงจะยืน มือเรียวยกขึ้นปาดคราบเปื้อนออกจากใบหน้าตนเองอย่างนึกรังเกียจ นึกโกรธและเกลียดพีทจนไม่เหลือความเป็นเพื่อน ในสมองก็เริ่มคิดสงสัยว่าพีททำไมถึงมาอยู่ที่นี้ เขามาทำอะไร ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อน

ครืด~ ครืด~

ในขณะที่ทิวากำลังยืนอยู่ในลิฟต์เพียงลำพังเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายใบโปรดแล้วจ้องมองไปที่หน้าจอมือถือปรากฏเป็นเบอร์แปลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ความสงสัยก็ทำให้ทิวาตัดสินใจกดรับสาย

"สวัสดีค่ะ"

[สวัสดีค่ะ โทรมาจากโรงพยาบาลนะคะ ไม่ทราบว่าใช่ญาติของคุณ กฎชกร พันเชษ รึเปล่าคะ] ปลายสายเอ่ยด้วยนํ้าเสียงนุ่มนวล

"...." ทิวานิ่งเงียบเพียงครู่ เธอกำลังนึกอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตะเภาในขณะนั้นเองเสียงประตูลิฟต์ก็เปิดออก บ่งบอกว่าเคลื่อนมาถึงชั้นล่างของฮาเร็มแล้ว "ใช่ค่ะ"

[คนไข้ประสบอุบัติเหตุนะคะ ทางโรงพยาบาลกดโทรออกเบอร์ล่าสุดเพื่อแจ้งให้ทราบ ยังไงก็ช่วยรบกวนมาที่โรงพยาบาลด้วยนะคะ]

"ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจะรีบไป"

[ขอบคุณค่ะ]

ตู้ด…

คุยกันเสร็จสับปลายสายก็ถูกตัดไป ขาเรียวพาร่างกายอ่อนล้าเดินออกมาจากลิฟต์แล้วตรงดิ่งมาหน้าคฤหาสน์เพื่อจะเรียกแท็กซี่กลับ รอไม่นานก็มีรถจอดรับเธอ คนตัวเล็กสอดตัวเข้าไปนั่งข้างในแล้วมองไปที่ฮาเร็มนั้นจนสุดสายตา

30 นาทีผ่านไป…

ผ่านไปราวสามสิบนาทีหญิงสาวก็มาถึงจุดมุ่งหมาย ก่อนจะเดินเข้ามาในโรงพยาบาลทิวาก็ไม่ลืมจัดการกับตัวเองก่อนด้วยการล้างหน้าล้างตา

"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคนไข้ที่ชื่อ กฎชกร พันเชษ อยู่ห้องไหนหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยถามพยาบาลที่ทำหน้าที่ติดต่อญาติผู้ป่วยด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

"รอสักครู่นะคะ"

"ค่ะ"

"อยู่ห้องพิเศษตึกสี่ชั้นห้านะคะ ห้องหนึ่งหนึ่งสองค่ะ"

"ขอบคุณค่ะ" ทิวาเอ่ยขอบคุณแล้วหมุนตัวเดินไปยังห้องที่ตะเภาอยู่ทันที เธออยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุกับตะเภาหรือเธอจงใจจะฆ่าตัวตายแต่มันไม่สำเร็จแบบนั้นหรอ สมองคิด ขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าว ไม่กล้าเจอหน้าเธอเพราะรู้สึกผิดแต่อีกใจก็เป็นห่วงเพราะตะเภาไม่มีใคร

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

พอเดินมาถึงที่หน้าห้องของตะเภามือเรียวก็ยกขึ้นเคาะประตู ข้างในมีพยาบาลกำลังตรวจอาการอยู่สองคน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเดินออกมาเปิดให้

"เชิญค่ะ"

"…" ใบหน้าหวานเพียงพยักหน้าขานรับเล็กน้อยแล้วก้าวเดินเข้าไปข้างใน สายตาหมองเศร้าเหลือบมองคนบนเตียงที่กำลังนอนไร้สติ ปากบางจึงเอ่ยขยับถามออกไป "เธอเป็นอะไรหรอคะ"

"มีชาวบ้านแถวสะพานเล่าให้ฟังว่าเธอโดดนํ้าฆ่าตัวตายค่ะ โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือทัน ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วนะคะ แล้วเธอเองก็ยังมีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องอีกด้วย"

"เด็กในท้องไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ" พอได้ยินสิ่งที่พยาบาลวัยกลางคนพูด หัวใจดวงน้อยก็เจ็บแปลบมากขึ้นเป็นเท่าตัว ร่างเล็กเดินไปชิดกับขอบเตียงของตะเภา สายตาทอดมองใบหน้าซีดเผือด

"ปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้ตรวจอาการเสร็จแล้วนะคะ เดี๋ยวนอนดูอาการสักคืนสองคืนก็น่าจะกลับบ้านได้แล้วค่ะ"

"ค่าใช้จ่าย เดี๋ยวหนูจัดการเองนะคะ"

"ได้ค่ะ งั้นตามสบายเลยนะคะ มีอะไรกดกริ่งเรียกพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย"

"…" ทิวาพยักหน้าตอบ เธอส่งยิ้มให้พยาบาลทั้งสองคนก่อนที่พวกเธอจะเดินออกไป ทำให้ภายในห้องเหลือเพียงทิวาและตะเภาที่กำลังหลับอยู่บนเตียง ร่างเล็กหย่อนตัวนั่งลงข้างเก้าอี้แล้วก้มหน้าปล่อยโฮใส่ฝ่ามือ เธอได้แต่พรํ่าขอโทษอยู่ในใจซํ้าๆ

"พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย…" น้ำเสียงสั่นเครือพูด ของเหลวสีใสก็ไหลทะลักออกมาคลอเบ้าไม่หยุด เจ็บปวดไปหมดจนไม่รู้จะระบายออกมายังไงหากไม่ใช่การร้องไห้ ทิวาไม่สามารถเลือกเดินทางไหนได้เลยสมองมันอื้ออึงไปหมด รู้แค่ว่าตอนนี้ไม่อยากเจอพีท ไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตนเองเมื่อคืน

"ขอโทษเรื่องอะไรหรอคะ" ในตอนนั้นเองเสียงแผ่วก็เอ่ยถามขึ้น ทำให้ทิวาดึงสติตัวเองกลับมา เธอเช็ดนํ้าตาออกจากพวงแก้มแล้วมองไปที่ตะเภา

"พี่…อยากขอโทษแทนพีท" ทิวาบอกความจริงไม่ได้เธอจึงต้องโกหกออกไปแบบนั้น

"พี่วาขอโทษหนูหลายครั้งแล้วนะ มันไม่ใช่ความผิดพี่เลยค่ะ"

"ตะเภา พยาบาลเล่าให้พี่ฟังหมดแล้วนะ ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ พี่เข้าใจนะ ว่าสิ่งที่กำลังเจอตอนนี้มันสาหัสมากขนาดไหน แต่อย่าพึ่งท้อได้มั้ย พี่อยากให้อุ้มท้องจนกว่าเด็กจะคลอด ถ้าในระยะเวลาเก้าเดือนพีทยังไม่รับผิดชอบ พี่จะรับเด็กคนนี้มาเป็นลูกบุญธรรมเอง รอสักหน่อยนะพี่จะพยายามทำทุกอย่าง" เธอเอ่ยขอร้องตะเภา ทิวาอยากรับผิดชอบอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้และเธอเองก็จะถอยห่างจากพีทไม่ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นก็ตาม

"ทำไมถึงอยากให้หนูเก็บลูกไว้ขนาดนั้นละคะ บางทีเขาอาจจะไม่อยากเกิดมาก็ได้"

"ถ้าเขาไม่อยากเกิด เขาคงไม่มาอยู่ในท้องตะเภาหรอกใช่ไหม เหตุผลแค่ผู้ชายเลวๆ ไม่รับผิดชอบ อย่าเอามันมาคิดเลยนะ พี่รู้ว่าพีทคนนี้เปลี่ยนใจเขายาก แต่พี่ก็จะพยายาม"

"หนูคงดูแย่มากเลยใช่ไหมคะ ที่คิดอยากจะตายไปพร้อมกับลูก" ตะเภาเอ่ยถามด้วยใบหน้าซีดเผือด เธอมองหน้าทิวาราวกับว่าหญิงสาวคือความหวังสุดท้ายของตนเอง

"คนเรามันพลาดได้ เพราะงั้นแค่ฟังพี่สักครั้ง พี่สัญญา ว่าถ้าทุกอย่างมันไม่สำเร็จพี่จะรับเลี้ยงดูเธอเอง" ว่าแล้วทิวาก็จับมือเล็กมาสอดนิ้วเพื่อเป็นคำสัญญา ที่ทำไม่ได้เพราะพีท เธอทำเพราะต้องการไถ่โทษให้แก่ตะเภา ไถ่โทษความรู้สึกผิดในใจ

"ขอโทษนะคะ หนูรับปากว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว" แววตาของทิวาที่สื่อออกมาทำให้ตะเภาสำนึกได้ เธอส่งยิ้มให้ทิวาแล้วมองอย่างมีความหวัง อย่างน้อยๆ ก็มีอยู่หนึ่งคนที่ไม่ทิ้งเธอเลย

.

.

.

ทิวาลูกกกก แบกรับอะไรเยอะแยะขนาดนั้นนน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel