ฟ้ากลั่นแกล้ง
อย่างน้อยๆ วันนี้ก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น การที่ได้พี่รหัสเป็นดาราที่ชื่นชอบก็ถือว่าโอเคนะ แถมพี่เขายังเท่มากๆที่ช่วยฉันแถมยังขอฉันไปเป็นน้องรหัสอีก
พึ่บ!
ฉันนั่งลงกับที่เมื่อแนะนำตัวเสร็จแต่แล้วฉันก็สังเกตเห็นผู้หญิงคนนึงที่นั่งข้างๆฉันมีปฏิกิริยาที่แปลกไปหลังจากที่ฉันแนะนำตัวเสร็จ เธอดูกลัวฉันมากๆเลย
“เธอๆ ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะ” เธอสะดุ้งอยู่เมื่อฉันสัมผัสไปที่ไหล ฉันจึงต้องรีบชักมือกลับด้วยความตกใจเช่นกัน อีกทั้งยังถามเธอด้วยแววตาด้วย
“คือเรา...เป็นเด็กทุนของ Klever น่ะ กลัวเธอจะรังเกียจที่เรานั่งใกล้”
“ทำไมเราต้องรังเกียจด้วยล่ะ เป็นเด็กทุนมันแย่หรอ มันเกี่ยวอะไรด้วยอะ....เราไม่เข้าใจ”
“เธอมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงนะ ใครๆเขาก็ทราบดีว่านามสกุลของเธอเป็นเกียรติเป็นศรีแค่ไหนถ้าใครได้ใช้” ฉันจุกจนพูดไม่ออกเมื่อได้รับคำตอบ ที่นี่คงมีความเท่าเทียมไม่จริงสินะ หรือบางทีเหล่าลูกคนรวยหลายๆคนก็ยังใจแคบ อย่างเช่นสาขานี้
“หรอ ทำไมเราไม่เห็นเคยรู้สึกแบบนั้นเลย”
“ทำไมล่ะ ไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยหรอ แปลกจังเป็นคนรวยก็ต้องมีความสุขบนกองเงินกองทองสิ”
“ช่างเรื่องของเราเถอะอย่าใส่ใจกับนามสกุลนักเลย ว่าแต่เธอชื่ออะไรหรอ”
“มุกจ่ะ”
“ชื่อเต็มต้องเป็นไข่มุกแน่ๆเลยใช่ป้ะ”
“ใช่ๆ เธอเก่งจัง”
“ต่อไปนี้เราขอเป็นเพื่อนกับเธอนะ”
“จริงหรอ เธอจะยอมเป็นเพื่อนกับคนแบบเราจริงๆหรอ”
“ทำไมล่ะ คนแบบเธอก็น่ารักดีออก”
“ขอบคุณนะ ตั้งแต่เราเรียนที่นี่มาสองเดือน เราไม่มีเพื่อนเลยเพราะบ้านเราจนน่ะ”
“โห ไม่ต้องคิดมากนะ เราเองก็ไม่ได้เลิศเลอแบบที่ทุกคนคิดกันหรอก” มุกฉีกยิ้มกว้างดวงตาของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข สิ่งที่เธอพูดคงจะเป็นความจริงจะว่าไปแล้วมุกก็เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่นี่จะใจแคบกันขนาดนี้
“อย่างที่ทุกคนทราบกันนะคะ อีกสองเดือนข้างหน้าเราจะทำการแสดงละครเวทีประจำปีการศึกษา เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะทำการคัดเลือกนักแสดงในบทนางเอกใหม่ เนื่องจากนางเอกคนก่อนแต่งงานไปแล้วไม่มาเรียนอีกเลย แต่พี่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าบทที่เราจะแคสต่อไปนี้มีบทที่ต้องเล่นเลิฟซีนอยู่ด้วย และก็ต้องจูบจริง ถ้าใครไม่สามารถเล่นได้กรุณาเดินออกไปได้เลยค่ะ” หลังจากที่พี่ส้มประกาศจบก็ไม่มีสาวๆคนไหนที่คิดจะลุกออกไปเลยแม้แต่คนเดียว ชักอยากจะเห็นหน้าพระเอกแล้วล่ะสิคงจะหล่อน่าดู
ฉันเองก็ไม่ยอมลุกไปไหน อย่างน้อยฉันก็ควรลองแคสดูบ้างไม่แน่โชคอาจจะเข้าข้างฉันก็ได้ใครจะรู้ และที่สำคัญฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรถ้าได้เล่นบทเลิฟซีนแล้วต้องจูบจริงเรายังไงมันก็เป็นแค่การแสดงเท่านั้นไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย
“แล้วคนที่จะมาเป็นนักแสดงคู่ให้กับพวกเราคือใครหรอคะ ได้ข่าวว่าพี่ต่อลานี่นา”
“เออลืมเลย”
กึก กึก กึก
บรรยากาศข้างในเงียบสงัดลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าคัทชูกระทบกับพื้นกระเบื้องลายหินอ่อนทุกสายตาจับจ้องไปทางประตู ตอนนี้ฉันช็อคจนลืมหายใจเมื่อเห็นบุคคลนั้น เขาคือคนที่ฉันเจอเมื่อหลายวันก่อนแล้วก็อยู่ในเหตุการณ์ที่หน้ากากเขาหลุดแถมยังอยู่ในเหตุการณ์ของจีนอีกด้วย นี่ฟ้ากลั่นแกล้งเราให้มาพบกับเขาหรือไร ทำไมถึงโลกกลมได้เช่นนี้
“ไอ้ฮอค! มานี่ๆ”
“...” เขาชื่อฮอคสินะ
วันนี้เขามากับหน้ากากสีกรมรูปแบบใหม่ เนื่องจากอันเก่าถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตาโดยฉันเอง เพราะตอนนั้นฉันคิดอะไรไม่ออกนอกจากกระชากหน้ากากของเขาแล้วเขวี้ยงไปให้ชนกระสุนก่อนที่กระสุนลูกนั้นจะยิงเข้าไปที่กลางหน้าผากของจีน ถึงแม้ว่าฉันจะช่วยเธอครั้งนั้นได้แต่สุดท้ายฉันก็ช่วยเธอให้รอดจากความตายไม่ได้อยู่ดี
“มึงช่วยมาเล่นบทพระเอกชั่วคราวได้เปล่าวะ พระเอกมันลาก็เลยไม่มีใครมาเล่นให้ พอดีจะเลือกนางเอกคนใหม่นะ”
“คนมันหายากขนาดนั้นเลย?”
“เออ เอาเถอะน่ามึงเป็นผู้กำกับนะ ถ้ามึงได้เล่นเองจะได้รู้ไงว่าใครเหมาะที่จะเป็นนางเอก”
“...” เขาไล่สายตามองผู้หญิงทุกคนที่มาแคสบทนางเอกด้วยแววตาที่นิ่งเรียบและไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขาถูกใจหรือไม่พอใจ แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นฉัน ดูเหมือนว่าเขาจะจำฉันได้ด้วยหรือไม่แน่ฉันอาจจะถูกหมายหัวไว้แล้วก็ได้
“เขาอีกแล้วหรอ ฟ้ากลั่นแกล้งเราแน่ๆ” ฉันก้มหน้าเพื่อหลบตาเขาพร้อมกับบ่นพึมพำกับตัวเอง
“ใครหรอ”
“ฮะ? ป..เปล่าๆ” ฉันรีบปฏิเสธมุกทันทีแล้วทำตัวตามปกติ
“ได้ กูจะเป็นคู่แสดงให้” ทำไมฉันถึงอดรู้สึกเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าการที่เขายอมเป็นคู่แสดงในบทพระเอกเป็นเพราะฉันกันนะ หรือว่าสิ่งที่เขาต้องการคือการได้แสดงคู่กับฉันเพื่อจับผิดเฉยๆ
“ทุกคนคะ มาจับสลากเลือกบทกันได้เลยค่ะ”
“ขอให้ได้บทตบพระเอกด้วยเถอะ!” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ เมื่อรู้ว่าจะได้แสดงคู่กับผู้ชายคนนี้ฉันก็ไม่อยากได้บทเลิฟซีนเลยนอกจากบทตบพระเอกเท่านั้น แต่พอเปิดใบสลากที่ตนเองจับได้เท่านั้นแหละฉันแทบจะมุดดินหนีเลยทันที
“ดราม่า&เลิฟซีน...งั้นหรอ” ราวกับฟ้ากลั่นแกล้งจริงๆ อะไรจะโชคดีขนาดนั้นแถมบทเลิฟซีนยังมีบทเดียวอีกแค่บทเลิฟซีนก็ยังไม่ไหวแล้วยังมีดราม่าอีก แบบนี้ฉันต้องขุดเอาความสามารถในการแสดงออกมาใช้เยอะเลย
“ก็ยังดีที่เป็นคิวที่สาม ขอเวลาบีบน้ำตาหน่อยละกัน” จากนั้นฉันก็ต้องอ่านบทเพื่อท่องจำเวลาแสดงจะได้ไม่ติดขัดมาก ถึงแม้จะมีบทให้อ่านอยู่แต่ถ้าจำได้มันก็จะเรียลขึ้นเนียนขึ้นทำให้การแสดงสมจริงขึ้นไปอีก ระหว่างนั้นฉันก็พยายามทำความเข้าใจกับตัวละครถึงเหตุการณ์นั้นๆว่าเหตุใดทำไมเธอถึงร้องไห้และเสียใจมากขนาดนั้น
“คนแรกน้องนามิมาเลยค่ะ”
พอเวลาผ่านไปประมาณสามนาทีได้พี่ส้มก็เรียกคิวคนแรกขึ้นไปแสดง ส่วนฉันได้คิวที่ก็หวังว่าจะนานหน่อยเนื่องจากว่าฉันต้องใช้สมาธิอย่างสูงในการบีบน้ำตา
“ผมชื่อ จอนนี่ นะครับ แล้วคุณผู้หญิงล่ะชื่ออะไร” นักแสดงหนุ่มชั่วคราวเริ่มทำการแสดงทันทีที่พร้อม เพียงแค่เขาเอ่ยประโยคเดียวฉันก็รับรู้ได้ถึงความเป็นมืออาชีพและสมจริงสุดๆ ถ้าเกิดเป็นไปได้คนอื่นๆก็คงอยากให้เขาเป็นพระเอก แต่ก็คงเป็นเพราะหน้ากากชิ้นนั้นจึงทำให้เขาไม่ยอมขึ้นแสดงเป็นแน่
“ฉ..ฉ..ฉันชื่อ พ..พิมผกา!..ม”
“ไม่ผ่าน ตกรอบ เชิญ!”
“ไอ้ฮอค! น้องเขายังพูดไม่จบประโยคเลยนะเว้ย”
“ไปเรียนเพิ่มสักสี่ปี ก็น่าจะโปรเลยล่ะ เชิญคนต่อไป” ทุกๆคนอึ้งและก็งงไปตามๆกันเนื่องจากคิวแรกมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน นอกจากเขาจะเป็นผู้กำกับแล้วยังเป็นผู้กำกับที่แสนใจร้อนและเลือดเย็นเสียจริง ฉันล่ะอยากจะรู้จริงๆว่าเขาเป็นคนแบบไหนเพราะดูจากภายนอกคงเป็นคนที่น่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว
“น้องได้บทตบพระเอกใช่ไหมคะ”
“ช..ใช่ค่ะ”
“เล่นให้สมจริงหน่อยนะคะ ผู้กำกับเราค่อนข้างโหด”
“หนูจะพยายามนะคะ”
ถ้าเกิดว่าฉันจับได้บทนี้ฉันคงจะเล่นสมจริงมากแน่ๆถ้ารู้ฉันคงแอบจะสลับบทกับเธอ เพราะว่าฉันอยากเล่นบทนั้นมากในตอนนี้ จะต่อยให้หน้ากากหลุดอีกครั้งเลย
“คุณเป็นใคร ใช่พวกเดียวกันกับไอ้แมสแดงใช่หรือไม่”
“ถ้าใช่คุณผู้หญิงจะทำอะไรผมงั้นหรอ” คนที่สองช่างเป็นนักแสดงที่สมบูรณ์แบบแสดงได้ราวกับดารามืออาชีพ คู่แข่งคนนี้ชักจะน่ากลัวแล้ว แต่ถ้าเธอไม่ใช่คนที่ถามคำถามอะไรมารยาทกับฉันเมื่อครู่ฉันก็อาจจะชมเธอมากกว่านี้
“ฉันก็จะทำแบบนี้ไง!” เธอง้างหมัดขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่หน้าเขาอย่างแรง ทว่าเธอกลับไม่ยอมต่อยเขา เธอทำแค่เอามือไปลูบใบหน้าเขาเบาๆด้วยความความเอ็นดู
“ทำอะไรของน้องครับ”
“หนูไม่กล้าต่อยพี่ค่ะ ถ้าหนูทำแบบนั้นหน้าของพี่ก็จะช้ำไปด้วย หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ”
“ถ้ารับไม่ได้ก็กลับบ้านไปเถอะครับ คนต่อไปเชิญเลย” หมอนี่ชักจะว่าแรงเกินไปแล้วนะ ผู้ชายอะไรปากจัดชะมัดเลย ต่อไปก็เป็นคิวของฉันแล้วสินะทำไมมันถึงไวขนาดนี้แล้วฉันจะถูกไล่ตะเพิดเหมือนที่คนอื่นโดนหรือเปล่าล่ะเนี่ย
“น้องคนนี้เพิ่งมาใหม่ช่วยใจดีกับน้องด้วย พอดีน้องได้บทที่ยาวที่สุด”
“...” ฉันจ้องตากับคนตรงหน้าโดยไม่ละ ฉันยังจำโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาได้ขึ้นใจ เขามีดวงตาที่คมเฉี่ยวราวกับเหยี่ยว จมูกโด่งพุ่งปลาย ริมฝีปากอวบอิ่ม กรามคมชัดรูปหน้าสวยงาม เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลยก็คงไม่แปลกถ้าเขาได้ตำแหน่ง Prince มาครอง แต่ทว่าฉันก็ยังคงสังเกตเห็นว่าเขามีแผลเป็นขนาดใหญ่ถ้าให้ดาวคงเป็นรอยของมีคมที่ฟันลงมาผ่าดวงตาข้างซ้าย ฉันอยากจะรู้เหลือเกินว่าใครเป็นคนทำให้เขาเสียโฉม เรื่องนี้ฉันเก็บเป็นความลับมาหลายวันและไม่ยอมบอกใครเพราะแค่ฉันสังเกตเห็นว่ารูปเขาหลุดออกมาร่อนโซเชียลเพียงแค่ลางๆเขายังแทบบ้า
“จะเริ่มตอนไหนไลน์บอกด้วยนะ”
“แต่บทในมือหนู พี่ต้องพูดก่อนนะคะ”
“ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เรียกว่าคุณฮอคก็พอ”
“...” นี่เราคงโดนตั้งแต่เริ่มแล้วสินะ เฮ้อ...
____________________________________________________
โห จะเอาเลยหรอเพ่ จะเริ่มเลยหรอเพ่ ขอเวลาหายใจหายคอบ้าง!!!!
ฝากคอมเม้นมาพูดคุย แล้วให้กำลังใจไรท์ด้วยนะคะ
