บทที่7 ไอเดีย
บริษัท Moon Lover modeling..
ไซมอนเดินตรงเข้าไปที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ ยื่นนามบัตรที่จินเย่วให้เขาเอาไว้ที่เคาเตอร์ พนักงานประชาสัมพันธ์เงยหน้าขึ้นมาประสานตากับไซมอนพอดี
"อุ้ย ต้องการให้ช่วยอะไรมั้ยคะ"
สาวประชาสัมพันธ์ส่งยิ้มหวานให้ไซมอน เขาเลิกคิ้วหนาคมขึ้นพร้อมยิ้มตอบ
"ผมไซมอน ผมมีนัดกับคุณกู้ไว้น่ะครับ"
"เดี๋ยวฉันโทรขึ้นไปแจ้งก่อนนะคะ"
"ครับ"
สาวประชาสัมพันธ์หันมาแทบจะกรี๊ดใส่หน้าเพื่อนร่วมงาน แม้จะเคยเจอนายแบบที่บริษัทมาไม่น้อย แต่สูงยาวขาวอมชมพูเพอร์เฟคขนาดนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยๆ
ไซมอนเดินไปมาสักพักเสียงลิฟท์ก็ดังขึ้น กู้จินเยว่เดินออกมาพร้อมส่งยิ้มให้
"ตอนฉันโทรหานายเมื่อคืนยังลุ้นอยู่ว่านายจะมามั้ย ตามมาสิ"
ไซมอนตามเธอเข้าลิฟท์ไป แค่ไม่กี่วินาที พนักงานก็เริ่มจับกลุ่มนินทา
"นายแบบหน้าใหม่เหรอ หล่อเนอะ"
"เสียดาย มาเข้าสังกัดคุณจินเยว่รับรองไม่รอด โดนนางจับกินหมดแหละ มาไม่ถึงเราหรอก"
จินเย่วพาไซมอนไปที่สตูดิโอ เธอพิจารณาเสื้อผ้าที่เขาใส่แล้วเอียงคอมอง
"นายชอบแข่งรถรึเปล่า"
"ครับ ผมมีสปอนเซอร์มีทีมแข่งครับ คุณรู้ได้ยังไง"
"ก็การแต่งตัวนายมันฟ้องนี่"
ช่างภาพเข้ามาตั้งกล้อง จินเย่วพาไซมอนมานั่งที่เก้าอี้ตรงหน้ากล้องแล้วช่วยเขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก เหลือไว้แต่เสื้อยืดสีดำแขนกุดตัวใน
ไซมอนลองโพสต์ท่าให้ถ่ายภาพหลายๆ ลุค มัดกร้ามแขนกับผิวเนียนๆทำเอาสตูดิโอเร่าร้อนขึ้นมาทันใด
ทั้งๆ ที่เปิดแอร์ออกจะแรง แต่จินเย่วกลับรู้สึกว่าร้อนจนต้องปลดกระดุมเสื้อลงสักหนึ่งเม็ด
แมวมองสาวก้มดูในมอนิเตอร์เช็ครูปที่ถ่ายไว้ดู รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆที่ชักชวนไซมอน เพราะเขามีเสน่ห์เหลือร้าย เมื่อพิจารณารูปร่างผ่านเสื้อยืดที่พอดีตัวรัดให้เห็นแผ่นอกหนาและไหล่กว้างของเขาแล้ว ทำให้คิดได้ว่าหุ่นแบบนี้แซ่บน่าดู น่าจะถ่ายภาพที่หวือหวากว่านี้เอาไว้หน่อย
"นาย ถอดเสื้อออกสิ"
"ถอดเสื้อเหรอครับ นี่แค่เทสหน้ากล้องเองนี่ ผมควรถอดเหรอ"
"ทำไม เป็นผู้ชายไม่เห็นมีอะไรน่าอายนี่นา ไม่กล้าถอดเหรอ"
ไซมอนยิ้ม เขาจับชายเสื้อยกขึ้นโชว์กล้ามท้องสวยๆชัดๆให้เธอดู
"ถ่ายแค่นี้ก็พอแล้ว เอาไว้ถ้ามีคนยินดีจ้างผมราคาดีๆ ผมค่อยถอดดีมั้ยครับ"
เขาส่งยิ้มเหมือนรู้ทัน ตากล้องรีบถ่ายภาพไว้หลายๆภาพ เอาไว้ทำแฟ้มเสนองาน
จินเยว่เดินมาส่งไซมอนที่รถมอเตอร์ไซด์ พอเขาขึ้นคร่อมรถ เธอไม่วายจะปล่อยเสน่ห์ใส่เขา ด้วยการใช้มือวางบนตัวถังรถข้างหนึ่งอีกข้างก็วางไว้ที่น่องของเขา พลางลูบไปมาอย่างซุกซน แล้วขยับตัวมาไกล้ๆ
"ไซมอน คืนนี้ว่างมั้ย ไปดื่มกันหน่อยมั้ย"
ไม่ใช่เขาจะไม่รู้จุดประสงค์เธอ ไซมอนจ้องตาเธอกลับ เขายิ้มโปรยเสน่ห์สู้สายตาเย้ายวน
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ว่างจริงๆ อ้อแล้วที่คุณเสนอให้ผมเซ็นสัญญาเข้าสังกัดผมขอผ่านนะครับ ผมชอบอิสระมากกว่าหวังว่าคุณคงเข้าใจนะ ผมไปล่ะ"
กู้จินเยว่ยืนมองตามหลังไซมอนที่ขับออกไปอย่างรวดเร็วแล้วคิด
"ฉันต้องเอาตัวนายมาเซ็นสัญญาเข้าสังกัดให้ได้เลย"
ลู่เสียนกรุ๊ป
"คุณลู่คะตัวอย่างชิ้นงานมาแล้วค่ะ"
เลขาหลิน นำตัวอย่างชิ้นงานโลหะมาให้ฟางซินตรวจ แต่ดูเหมือนยังไม่ถูกใจ
"ฉันอยากได้ที่มันมีความแข็งแรงแต่อ้อนช้อย มีการเก็บรายละเอียดของชั้นกลีบที่มีความนุ่มนวลกว่านี้ มันไม่ใช่แค่โลหะที่เลียนแบบดอกไม้ แต่ฉันอยากให้แมลงยังเข้าใจผิดว่ามันเป็นดอกไม้เข้าใจรึเปล่า ทำลวกๆแบบนี้เราสู้เขาไม่ได้แน่"
ฟางซินบ่นหงุดหงิด แค่ชิ้นงานชิ้นแรกยังออกมาได้หยาบขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงแบบที่เหลือของคอลเลคชั่นนี้เลย
"คุณลู่คะ ยังไงก็ต้องเห็นใจหน่อยนะคะ เวลากระชั้นแค่นี้ คุณเล่นเปลี่ยนแบบทั้งหมดจะปรับแก้ทันได้ยังไงล่ะคะ โมเดลชุดเดิมกว่าจะแก้ได้ใช้เวลาตั้งหลายเดือนแต่นี่..."
เลขาหลินพยายามจะอธิบาย แม้ฟางซินรู้ดีแก่ใจแต่เวลาไม่มีแล้ว หากวางตลาดไม่ทันเดือนหน้า หุ้นบริษัทต้องตกอย่างแน่นอน
เวลานี้สินค้าของหานตงกรุ๊ปออกวางจำหน่ายแล้วเธอไม่มีทางเลือก
"ออกไปก่อนเลขาหลินฉันอยากอยู่เงียบๆ ไปสิ"
เวลานี้เธอพยายามจะเข้มแข็ง แต่ดูเหมือนกำแพงที่เธอตั้งเอาไว้มันเริ่มพังทลายลงทุกขณะ เมื่อนั่งอยู่แบบนี้มันไม่ช่วยอะไร เธอจึงหยิบกระเป๋าแล้วขับรถออกไปข้างนอกเพื่อหาไอเดีย
หอศิลป์
สถานที่ที่เธอชอบมาคือหอศิลป์ ภาพวาดเหล่านี้ทำให้ใจสงบไม่น้อย ฟางซินเดินดูรูปต่างๆ ภาพใบไม้ใบหญ้า ผู้คน
เธอเดินมาหยุดพักอยู่ที่ภาพ ภาพนึง เด็กสาวนั่งหันหลังอยู่ เธอคงกำลังเหม่อมองไปที่บ้านของใครบางคนที่อยู่ไกลๆ
ปล่องไฟมีควันลอยอยู่เบาบาง บ้านหลังน้อยบนเนินนั่นคงมีคนกำลังทำอาหาร ลายลมพัดโชยอ่อนทำให้กลีบดอกไม้ของต้นไม้ที่เธอนั่งอยู่ใต้ต้นกำลังร่วงโรย
มันเป็นภาพที่เหมือนกับมีชีวิต รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความเงียบเหงาระคนกัน
ชายหนุ่มคนหนึ่งวางเฟรมผ้าใบตรงทางเดินแล้วเริ่มวาดภาพๆ หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ เฉกเช่นจิตรกรหลายคนในที่นี้ที่มักจะมาวาดภาพเลียนแบบภาพมีชื่อเสียงเหล่านี้ตามคำสั่งซื้อของคนที่อยากได้แต่ทรัพย์ไม่พอ
ฟางซินรู้สึกคุ้นแผ่นหลังแต่แค่ไม่แน่ใจ แต่แล้วก็อดใจที่จะเดินเข้าไปดูรูปที่เขาวาดไม่ได้
เหมือนมาก ฝีมือดีขนาดนี้เชียว เธออุทานในใจ ชายสวมหมวกคนนี้ใช้ภู่กันคล่องแคล่ว ลงสีได้เฉียบขาดไม่มีความลังเลในการลงแปลงแม้แต่น้อย มือสวยของเขาดูมีเสน่ห์เมื่อจับภู่กัน
"ภาพนี้นายจะขายเท่าไหร่ ถ้าฉันจะขอซื้อ"
ชายหนุ่มวางแปลงลง เขาเปิดหมวกแล้วหันกลับมาช้าๆ
"ผมไม่ขาย แต่ถ้าคุณชอบผมจะยกให้ฟรีเลย"
"ไซมอน?"
ฟางซินอุทานชื่อเขาซะดังจนคนอื่นๆที่เข้ามาชมภาพหันมองมากันหมด
"ชี่ คุณนี่ขี้โวยวายจริง เสียงดังแบบนี้ระวังโดนเชิญออกนะครับ"
ฟางซินเม้มปากแน่นจะด่าก็ด่าไม่ได้ ทำได้ก็แค่พยายามข่มใจไม่ให้โกรธก็เท่านั้น
"นายมาทำอะไรที่นี่"
"เอิ่มผมน่าจะเป็นคนถามมากกว่านะ ผมมาที่นี่ประจำ ก็ผมเป็นจิตรกร ส่วนคุณล่ะมาทำไม ที่นี่จัดแสดงภาพ ไม่ใช่แกลลอลี่ที่ขายทุกอย่างนะครับ"
ไซมอนมองเห็นสมุดภาพที่ฟางซินถือติดมือมา อาศัยจังหวะเผลอของเธอ ดึงสมุดมาดู
"นี่นาย เอาคืนมานะ มารยาทน่ะมีมั้ย"
ไซมอนลุกหนี เขาชูมือขึ้นตามความสูง ด้วยความสูง187เซนติเมตร ซึ่งต่างจากฟางซินเกือบ20เซนติเมตรเธอไม่มีทางเอื้อมถึง
เขายิ้มสะใจที่เธอที่เห็นเธอกระโดดเหยงๆพยายามขนาดนั้น จนกระทั่งเธอเสียหลักล้มมาพิงตัวเขาจนได้
กว่าจะรู้ตัวหน้าเธอก็มจมอกเขาไปซะแล้ว ไซมอนทำหน้าเลิ่กลั่ก กลืนน้ำลายไปทีหนึ่ง หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด
ฟางซินรีบขยับตัวมายืนท่าปกติ บรรยากาศเริ่มอึดอัดแล้ว ไซมอนเดินไปนั่งที่ม้านั่งยาวที่หอศิลป์วางเอาไว้สำหรับคนที่มาเยี่ยมชมนั่งแล้วเปิดสมุดออกดู
"นี่คุณออกแบบเองเหรอ อันที่จริงมันก็สวยดี แต่ผมว่ามันไร้ชีวิตชีวาไปหน่อย"
"อะไรนะ"
ฟางซินอุทานออกมา เธอเดินตามเขามายืนตรงหน้าไซมอน เธอไม่นึกว่าเขาจะวิจารณ์ออกมาแบบนี้ เขาเงยหน้าขึ้นจ้องตาเธอ
"ทำไมรับไม่ได้เหรอ คุณต้องการอะไรกันแน่ล่ะ แบบของคุณใช้ดอกไม้เป็นพื้นฐานในการออกแบบ แต่คุณกำลังใช้วัสดุและโครงสร้างที่ขัดต่อธรรมชาติของมันอยู่นะ"
"ถามจริงนายจะรู้อะไรเรื่องการออกแบบเครื่องประดับ"
ฟางซินยืนกอดอกเชิดหน้าใส่ไซมอน เขาไม่ถือสา กลับปิดสมุดลงแล้วยืนขึ้นเต็มความสูง
"ผมอาจไม่รู้เรื่องออกแบบเครื่องประดับ แต่ผมรู้จักงานศิลป เอางี้ ผมจะพาคุณไปดูอะไรหน่อยว่าไงล่ะ บางที อาจทำให้สมองแล่นนะ"
ฟางซินทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
"ทำไมกลัวผมปล้ำเหรอ กลัวก็ไม่ต้องไปก็ได้นะ คนขี้ขลาด"
เขาก้มหน้าลงมาพูดกระแทกเสียงใส่ คนอย่างฟางซินมีหรือจะให้ใครดูถูกได้
"ใครว่าฉันกลัว ไปก็ไปสิ"
"ได้แต่บอกไว้ก่อนคุณต้องไปรถผม"
ฟางซินยืนอึ้งที่ลานจอดรถ เกิดมายังไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซด์ ยิ่งตัวถังดูเหมือนรถในสนามแข่งแบบนี้ยิ่งไม่เคยคิดจะนั่งเลย
"นี่รถนายเหรอ"
"ใช่ นี่รุ่น500ซีซี 2 จังหวะ ไม่ใช่คันที่ผมใช้แข่งหรอกอันนั้นมัน800ซีซี"
คำอธิบายไม่ช่วยอะไรเลย แถมทำให้กลัวหนักกว่าเดิมไปอีก
"ทำไม คราวนี้เกิดกลัวขึ้นมาจริงๆแล้วเหรอ"
ไซมอนทำลอยหน้าลอยตา ยกยิ้มที่มุมปาก ฟางซินมีหรือจะยอมให้ดูถูก
"ก็ได้ แต่จำไว้นะถ้านายพาฉันไปเป็นอันตรายฉันฆ่านายแน่ "
"ครับ ครับ รับทราบ"
เขาส่งหมวกกันน็อคของตัวเองมาให้ฟางซินสวมเอาไว้ แต่ตัวเองสวมแค่แว่นตากันแดดเพราะมีหมวกใบเดียว ฟางซินขึ้นนั่งคร่อมซ้อนข้างหลัง แต่ไม่ยอมกอดเอวเอาแต่ดึงเสื้อเขาไว้เท่านั้น
ไซมอนนึกสนุกแกล้งออกตัวแรงแล้วเบรค ไม่ต้องพูดให้มากความ ฟางซินกอดเอวเขาแน่นซบหน้าลงบนแผ่นหลังเขาหลับตาปี๋
"เชอะนึกว่ากลัวไม่เป็นซะอีก"
ไซมอนพาฟางซินออกนอกเมืองไปสวนพฤกษศาสตร์ ซึ่งตอนนี้มีการจัดแสดงต้นไม้นานาพรรณที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง
"นายพาฉันมานี่ทำไม"
"ก็มาดูธรรมชาติไง คุณเคยชินกับดอกไม้ในแจกัน แต่ไม่รู้ธรรมชาติของมันแล้วจะออกแบบได้สวยงามโดดเด่นตามลักษณะธรรมชาติของมันได้ยังไง ที่คุณทำ ก็แค่บังคับให้มันมาเป็นของประดับคนรวยโดยทำลายความงามตามธรรมชาติของมันเท่านั้น"
ฟางซินยืนจ้องมองไซมอนอธิบาย เสียงนุ่มของเขาพูดได้น่าฟังไม่เลวเลย ยิ่งเขายืนตั้งอกตั้งใจสเก็ตภาพดอกไม้ลงในสมุด ก็ยิ่งดูน่าหลงไหล
"ฟางซิน..."
"อะไรเหรอ"
"ผมพาคุณมาดูดอกไม้ ไม่ได้ให้มาดูหน้าผม"
พอเขาพูดเธอถึงเพิ่งนึกได้ว่าจ้องหน้าเขาอยู่จริงๆ ฟางซินรีบหันกลับไปทันที อาการนี้ดูน่ารักไม่น้อย ทำเอาไซมอนยิ้มไม่หุบ
หลังจากดูจนทั่ว สเก็ตภาพจนพอใจ ไซมอนยังมีอีกที่ที่เขาอยากพาไป
"ไปดูของที่ระลึกกันเถอะ"
"ของที่ระลึก นี่นายนึกว่าเรามาเที่ยวกันรึไง"
"อ้าว ก็ไม่ใช่เหรอ ผมนึกว่าเรากำลังออกเดทกันซะอีก เอาน่าไปเถอะรับรองว่าคุ้ม"
ไซมอนพาเขาตรงไปที่ซุ้มขายเครื่องประดับ
จี้ห้อยคอกลีบดอกไม้หลากสีสัน แขวนขายอยู่เต็มร้านรวมถึงกำไลข้อมือที่ดูเหมือนจะฝังดอกไม้สดเอาไว้ข้างใน
"นี่มัน ดอกไม้จริงนี่"
"ก็ใช่น่ะสิ เข้าไปดูการทำมั้ย"
ในส่วนร้านของที่ระลึกนี้ มีสอนให้ทำเครื่องประดับจากดอกไม้ใบไม้จริงอยู่ด้วย ไซมอนชี้ชวนให้ฟางซินลองทำกำไลข้อมือจากดอกไม้ดู
อย่างไรเสียเธอก็เป็นนักออกแบบเครื่องประดับ เมื่อถูกท้ามีหรือจะไม่ทำ ไซมอนนั่งดูเธอคัดเลือกดอกไม้เล็กๆ อย่างตั้งอกตั้งใจแล้วยิ้ม
เวลานี้ฟางซินดู ไม่เหมือนสาวนักธุรกิจวัย 26 แต่เป็นเด็กสาววัยกำลังน่ารักสดใสในสายตาเขา
หัวใจเต้นจิตใจล่องลอย ภาพในสายตาของไซมอนมองเธอเหมือนมีหมอกขาวจางๆ อยู่รอบตัว ผสานกันมวลดอกไม้บางตา น่าหลงไหล
เขาหยิบเอาแบบซีลีโคนที่ใช้หล่อเรซิ่นเป็นจี้รูปทรงกลมมาหนึ่งชิ้น แล้วลองคัดดอกไม้ดู ดอกฟอร์เก็ตมีนอต ดอกเล็กๆน่ารักกับดอกแคสเปีย และสเตติส เขาค่อยๆจัดมันใส่ลงไป แล้วผสมเรซิ่นสีม่วงอ่อนกับสีเขียวโรยด้วยผงทองคนพอประมานแล้วเทลงไปทีละชั้น
ระหว่างรอให้ช่างทำตัวเรือนเครื่องประดับ ไซมอนซื้อไอศครีมมาให้ฟางซิน แล้วนั่งลงข้างๆ
"นายนี่ช่างเอาใจเหมือนกันนี่"
"ฮึ ในที่สุดคุณก็เห็นข้อดีของผม เห็นมั้ยผมก็มีดีเหมือนกันนะ"
ฟางซินยักไหล่ แล้วยิ้มแห้งๆ คนอะไรชมตัวเองได้ไม่อายปากเลย เธอนึกตำหนิในใจ
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
พนักงานเอากำไลใส่กล่องให้ฟางซินเรียบร้อยเธอถือมันออกมาเปิดดูภาคภูมิใจในผลงานตัวเองก่อนจะหันมามองกล่องเล็กๆในมือไซมอน เขาไม่เปิดมันออกดูกลับใส่มันลงในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต
"นายทำอะไร ขอดูหน่อยสิ"
"ขอโทษนะ ดูไม่ได้"
เขากล่าวพลางยักไหล่ น้ำเสียงยียวนน่าหมั่นไส้
ฟางซินระบายลมออกจากปากแรงแรงๆไปหนึ่งที แล้วหรี่ตามองจ้องหน้าเขา
"นายทำเอาไว้ให้แม่สาวน้อยคนนั้นสินะ นั่นแฟนนายงั้นเหรอ"
ไซมอนเลิกคิ้วสูง ดวงตาเป็นประกาย เขาเดินเข้าไปไกล้ฟางซินแล้วก้มลงมา ก่อนจะยักคิ้วใส่
"หึงเหรอ"
จนด้วยคำพูด จะด่าก็ด่าไม่ออก ฟางซินได้แต่กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด
"บ้า ใครจะไปหึงนายกัน หลงตัวเองไปแล้ว!"
เธอเดินจ้ำกลับไปที่รถของเขา ไซมอนรีบหยิบหมวกกันน็อควิ่งตาม
เวลาบ่ายคล้อย ยังพอเหลือเวลาอยู่ หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน เขายังมีอีกที่ ที่อยากให้เธอไป ชายทะเลหาดทรายขาวสะอาดเขาพาเธอไปดูคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาริมฝั่ง
ฟางซินก้าวออกมายืนรับลมทะเล ไซมอนเดินมายืนข้างหลังเธอแล้วค่อยๆ จับมือทั้งสองข้างให้เธอยกขึ้นในระนาบเดียวกับไหล่
"ทำแบบนี้หลับตาลง ซึมซับสายลม ซึมซับธรรมชาติ เป็นไงหายปวดหัวรึยัง"
ฟางซินหันกลับมามองเขา สีหน้าประหลาดใจ
"คุณรู้ได้ยังไง ฉันไม่ได้บอกคุณนี่"
"ก็ไม่เห็นจะต้องพูดเลย อาการคุณมันฟ้องขนาดนั้น"
ฟางซินไม่รู้ตัวมาก่อนว่าเขาช่างสังเกตุขนาดนี้ หากไม่ใช่เธอกลัวคนนินทา บางทีอาจตัดสินใจลองคบหากับเขาดู ทว่าความต่างของวัยก็ทำให้เธอไม่มั่นใจ
"จะดำดูปะการังคงจะไม่ทัน เอาเป็นว่าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำก่อนกลับกันดีมั้ย หาไอเดียไง"
ในที่สุดก็กลับเข้าเมืองไม่ทันมืดจนได้ ที่พิพิธภัณฑ์ได้ภาพสเก็ตของปะการัง ม้าน้ำ ปลาต่างๆมาไม่น้อย
ฟางซินเช่าบังกะโลเอาไว้หลังหนึ่งพักหนึ่งคืน เธอออกจากห้องมาดูไซมอนที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนโซฟา ที่มีเพียงเสื้อแจ็คเก็ตหนังตัวเดียวห่มตัว มือเขายังถือสมุดภาพเอาไว้ไม่วาง
"นอนอย่างกับเด็ก ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลย"
ฟางซินค่อยๆ เอาผ้าห่มมาห่มให้เขาแล้วหยิบสมุดภาพในมือออกมา ก่อนจะกลับเข้าห้องไป
"ไหนดูสิ ว่าวาดอะไรมั่ง"
เธอนั่งดูสมุดสเก็ตภาพดอกไม้แบบต่างๆเป็นช่อชั้นสวยงาม จนเพลิน เขาเก็บรายละเอียดได้ดีมาก รวมไปถึงปลาทะเลและปะการังทรงสวยๆ นับว่าเขาฝีมือดีทีเดียว ในที่สุดเธอก็หลับคาสมุดภาพ
กลิ่นกาแฟ และเบคอนโชยเตะจมูก เสียงเคาะประตูทำให้ฟางซินตื่น
"ผมเตรียมอาหารเช้าเอาไว้แล้ว แวะซื้อชุดใหม่ให้คุณด้วย คุณไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดเถอะ"
ฟางซินเปิดประตูแล้วหยิบถุงกระดาษที่เขาวางเอาไว้หน้าห้อง เห็นไซมอนยืนหันหลังกำลังจัดอาหารบนโต๊ะอาหารเพียงแต่เขานุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว
"น..นาย ทำไมนายแต่งตัวแบบนี้!"
ไซมอนหันกลับมา อวดเรือนร่างสมชายชาตรีต่อหน้าเธอ โดยที่เธอไม่ทันคิดว่าจะเจอภาพนี้
ฟางซินรีบเอามือปิดตาทันที
"อะไรอีกล่ะ อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยเห็น มาเขินอะไรกัน"
"นายอย่าเข้ามานะหยุดอยู่ตรงนั้นเลย"
ไซมอนกลั้นขำแทบจะไม่ไหว เขายังไม่ทันขยับก็กลัวซะแล้ว
"ผมส่งเสื้อผ้าไปซัก อีกเดี๋ยวแม่บ้านจะเอามาให้ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่าไปอาบน้ำเถอะ จะได้มาทานอาหารกันดีมั้ย ยังมีอีกที่ที่ต้องไปรับรองคุณต้องชอบแน่"
