บท
ตั้งค่า

บทที่1 คนแปลกหน้า

'ฉัน' วิกตอเรียลู่ หรือลู่ฟางซิน อายุ 25 ปี บุตรสาวคนเดียวของประธานลู่เสียนกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆในเซี่ยงไฮ้

อย่าเพิ่งอิจฉาว่าชีวิตฉันนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะฉันก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จได้ก็ด้วยความพยายามด้วยตัวเองทั้งสิ้น

ฉันจบจากสถาบันนักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำด้วยคะแนนอันดับต้นๆ แล้วเข้ามามาบริหารธุรกิจครอบครัวจนประสบความสำเร็จ

แบร์นสินค้าที่ฉันเป็นคนออกแบบ Princess of Diamon ก็เป็นที่นิยม จนฉันได้รับรางวัลนักออกแบบดาวรุ่งและนักธุรกิจหญิงดีเด่นตั้งแต่อายุ เพียง 23 ปี

"ผู้จัดการลู่คะ ผู้จัดการลู่"

เลขาวิ่งตามผู้จัดการสาว กระหืดกระหอบ โดยในมือถือเอกสารพะรุงพะรัง

"กาแฟฉันล่ะ"

ฟางซินเอ่ยทวง เป็นหน้าที่เลขาส่วนตัวของเธอที่ซื้อให้ประจำ และคราวนี้ก็ไม่พลาด

"นี่ค่ะลาเต้เย็นร้านเดิมค่ะ เอ่อผู้จัดการคะ คุณดูข่าวงานแถลงข่าวจดสิทธิบัตรแบบเครื่องประดับรับซัมเมอร์ของบริษัทหานตง รึยังคะ"

เลขากล่าวพร้อมกับกดลิฟท์ให้ผู้จัดการสาว ทว่าฟางซินเข้าไปในลิฟท์แล้วตอบคำถามด้วยคำถามอีกที

"ทำไมเหรอ เครื่องประดับของแม่นั่นไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก ฉันบอกไมเคิลเตรียมเอกสารสำหรับจดสิทธิบัตรไว้พร้อมแล้ว รอก็แค่เพชรที่ส่งไปเจียรไนพร้อมค่อยดำเนินการจดสิทธิบัตรก็ยังไม่สาย "

"คือไม่ใช่อย่างงั้นค่ะ คุณฟางคะ.."

ลิฟท์เปิดตรงชั้นที่หมาย ประธานลู่มายืนดักรอที่หน้าลิฟท์อยู่นานแล้ว

"แกมากับฉันมาคุยกันในห้องเดี๋ยวนี้"

ประธานลู่พูดเสียงดุ เหมือนโกรธอะไรบางอย่าง ซึ่งฟางซินเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร

ประธานลู่โยนหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ลงบนโต๊ะอย่างแรง ฟางซินหยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดดู

ภาพคอลเล็คชั่นเครื่องประดับรับซัมเมอร์ ของบริษัทหานตงนั้นช่างคุ้นตา

"เป็นไปไม่ได้นี่มันที่หนูออกแบบนี่คะคุณพ่อ"

"ก็ใช่น่ะสิ วันนี้ไมเคิลเข้าบริษัทมารึยัง ไปลากคอแฟนแกมาพบฉันเดี๋ยวนี้"

ประธานลู่ยื่นคำขาด ฟางซินรีบโทรหาไมเคิลทันที

"ไมเคิลทำไมไม่รับสายนะ คุณพ่อใจเย็นนะคะเดี๋ยวหนูจะไปตามเขาให้"

ฟางซินรีบรุดไปที่ลิฟท์ เธอกำลังจะขับรถไปหาไมเคิลที่บ้าน แต่ยังไม่ทันขึ้นรถเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

"ไมเคิลคุณอยู่ที่ไหนคะ รู้มั้ยเกิดเรื่องแล้ว แบบคอลเล็กชั่นใหม่ของเราถูก.."

"เราเลิกกันเถอะฟางซิน"

เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ ที่ได้ยินประโยคนั้น เธอทั้งสับสนและไม่เข้าใจเหตุผล

"คุณพูดเรื่องอะไรของคุณน่ะ คุณเป็นอะไรของคุณกัน คุณรู้มั้ยเราโดนขโมยข้อมูลแบบเครื่องประดับ"

"ใช่ผมรู้ ผมเป็นคนทำเอง"

ฟางซินแทบไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน

"ไม่จริงใช่มั้ย คุณต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ คุณทำแบบนี้ทำไม"

"ฟางซินฟังให้ดีนะ คนอย่างผมจะไม่ยอมยืนอยู่ใต้เท้าของใคร ใครๆก็พูดกันว่าผมเป็นหนูตกถังข้าวสาร ความสามารถของผมสู้คุณไม่ได้ ที่ลู่เสียนผมเป็นได้แค่มือรอง แต่ที่หานตงผมเป็นหัวหน้าทีมออกแบบ ประธานหานสัญญากับผม ต่อไปทุกชิ้นงานที่ออกจากหานตงจะเป็นผลงานของผมทั้งสิ้น"

"ไมเคิล ฉันไม่เคยดูถูกคุณเลยนะ ต่อไปเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว จะผลงานของฉันหรือของคุณมันก็ไม่ต่างไม่ใช่เหรอ"

"ลาก่อนฟางซิน"

ไมเคิลกล่าวคำลาแล้ววางสายอย่างไม่มีเยื่อใย ฟางซินถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้นข้างรถอย่างสิ้นเรี่ยวแรงจะไปต่อ

ผับแห่งหนึ่ง ย่านหวงฝู เซี่ยงไฮ้

"ไซมอน ดูคุณผู้หญิงคนนั้นสิ ดื่มคนเดียวมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ท่าทางมีเงินนะ แต่ทำไมมาดื่มคนเดียวแถมดื่มหนักซะด้วยฉันกลัวจะมีเรื่องนายไปดูเขาหน่อยสิ"

ผู้จัดการเหลียงเกา ชี้ให้บาเทนเดอร์หนุ่มละอ่อนหน้าตาดี มองไปทางหญิงสาวนุ่งกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่า ผมยาวประบ่าที่นั่งดื่มคอกเทลไปหลายแก้ว แถมยังสั่งเบอร์เบิ้ลมาทั้งขวด

บาเทนเดอร์หนุ่มมองไปที่ขวด ดูเหมือนเธอจะดื่มไปเกือบครึ่งขวดแล้ว 

ถึงเขาจะเป็นบาเทนเดอร์แต่ก็ไม่ค่อยชอบผู้หญิงดื่มจัดเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงวางตัวแอบดูอยู่ห่างๆ

นักดนตรีเริ่มออกมาแสดงในรอบต่อไป ลูกค้าส่วนใหญ่ลุกออกไปเต้นหน้าเวทีกันอย่างสุดเหวี่ยง มีแค่เธอที่ยังนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่นานนัก นักเที่ยวชายสองคนก็ถือแก้วเหล้าเดินปราดเข้าหาหญิงสาว โดยนั่งขนาบสองข้างตัวเธอ 

ไซมอนยังคงมองอยู่ เขาอยากแน่ใจว่าเธอรู้จักชายสองคนนั้นจริง

ชายคนทางขวาเปิดการสนทนาก่อน เขาพยายามจะจับแก้มเธอ ตามด้วยคำถามชี้ชวน

"คุณผู้หญิง นั่งดื่มคนเดียวไม่เหงาเหรอจ๊ะ  ให้พี่ดื่มเป็นเพื่อนมั้ย"

ถึงแม้จะเมาได้ที่ แต่ยังมีสติพอที่จะปัดมือซุกซนของนักเที่ยวชายคนนั้นออก

"ผู้ชายเฮงซวย ไม่ว่าคนไหนๆมันก็เลวเหมือนกันหมดนั่นแหละ ไป  ไปให้ไกลๆเลย"

ท่าทีของเธอไม่บอกก็รู้ว่าเมาหนัก ชายสองคนต่างพากันพยักหน้าส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเมื่อเห็นเธอยังกระดกแก้วดื่มเอาดื่มเอา ไม่สนใจใคร

ชายคนทางขวาคนเดิมแย่งแก้วเหล้ามาจากมือเธอแล้วยกขึ้นดื่มเอง พร้อมกับคว้าข้อมือเธอเอาไว้ไม่ปล่อย

"ป ปล่อยนะ ปล่อยสิ จะทำอะไร  นั่นมันเหล้าของฉันนะ เอาคืนมา"

หญิงสาวเริ่มโวยวาย พยายามดึงมือออกจากการการถูกคุกคาม แต่อีกมือก็ยังไม่วายจะแย่งแก้วเหล้าคืน

 ผู้ชายที่เธอหันหลังให้ จับเอาผมของเธอมาสูดกลิ่นหอมอย่างย่ามใจ เท่านั้นยังไม่พอยังสอดมือเข้ามาทางด้านหลังพยายามจะล้วงเข้าไปในสาบเสื้อเชิ้ตลูกไม้สีขาวของเธออีก

เธอสะบัดตัวอย่างแรง เพื่อลุกหนีออกมาจากตรงนั้น แต่ติดที่ข้อมือยังโดนจับเอาไว้แน่น

ชายสองคนหัวเราะในท่าทางดิ้นรนแบบไร้ความหมายนี้แล้วแกล้งปล่อยมือทำให้เสียจังหวะเกือบหงายหลังล้ม

โชคดีที่มีมือหนึ่งรับเอาไว้ บาเทนเดอร์หนุ่มร่างสูง ประคองหลังเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม

"แกมายุ่งอะไรด้วย ผัวเมียจะปรับความเข้าใจกันสักหน่อยอย่ามายุ่ง"

ตัวคนเริ่มตวาดใส่ไซมอน บาเทนเดอร์หนุ่มไม่เชื่อเขาหันไปหาหญิงสาว

"คุณรู้จักเขามั้ยคุณผู้หญิง"

"ม่ายอะ  ไม่รู้จัก แต่พวกเนี้ยมันเอาเหล้าฉันไป เอาคืนมานะ"

โดนลวนลามยังไม่วายห่วงเหล้า ไซมอนส่ายหน้าพูดไม่ออกเลยจริงๆ

"ได้ยินชัดมั้ยพี่ชายทั้งสอง  เธอว่าเธอไม่รู้จักพวกคุณ ดังนั้นเลิกแล้วต่อกันแค่นี้ทางใครทางมันดีมั้ย"

ไซมอนเสนอทางเลือกให้เพราะไม่อยากให้มีเรื่อง จะทำให้ร้านเสียชื่อเปล่าๆ ในขณะที่แขกท่านอื่นๆ ยังมุ่งความสนใจไปที่เวทีการแสดง ถ้าเคลียให้จบตรงนี้ได้จะดีมาก

"หนอย หมูจะหามดันเอาคานเข้ามาสอด วุ่นวายนักใช่มั้ยไอ้เด็กชงเหล้า"

ชายคนแรกที่หาเรื่องปราดเข้ามาเหวี่ยงกำปั้นใส่ไซมอน เขาเบี่ยงตัวเล็กน้อยหลบได้หวุดหวิด พร้อมกับดึงตัวหญิงสาวถอยออกมา

"รออยู่ตรงนี้นะอย่าไปไหน"

เขาจับเธอให้นั่งลงที่เก้าอี้หน้าเคาเตอร์บาร์เหล้า  ชายสองคนเข้ามาพร้อมกัน คนหนึ่งคว้าเอาเก้าอี้ฟาดใส่เขา เขาเอียงตัวหลบอย่างมีชั้นเชิงแล้วเตะสวนเข้าที่ลิ้นปี่ นักเที่ยวทิ้งเก้าอี้ลง จุกจนอาเจียนแล้วทรุดลงคุกเข่าอย่างเสียมิได้

เพื่อนที่มาด้วยชักไม่แน่ใจว่าควรสู้ต่อไหม งานนี้ได้ไม่คุ้มเสียแน่

"ผมอุตส่าห์พูดด้วยดีๆ ไม่อยากให้ใครเจ็บตัวแท้ๆ จะเอาไง ต่อไหม"

ควรจากมาเมื่อมีโอกาสคำพูดนี้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ นักเที่ยวรีบลากเพื่อนออกไปจากผับทันที

ไซมอนหันกลับมาที่หญิงสาว ปรากฏว่าเธอไม่ได้อยู่บนเก้าอี้แต่ลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น พิงเคาเตอร์หลับไปแล้ว

"ให้ตายสิ ยัยผู้หญิงขี้เมาเอ้ย"

บาเทนเดอร์หนุ่มส่ายหน้าหัวเสีย เขาก้มลงไปอุ้มหญิงสาวแล้วหยิบกระเป๋าของเธอไปด้วย 

"เหล่าหลิน ช่วยจัดการตรงนี้ที เดี๋ยวผมจะพาเธอเข้าไปข้างในก่อน"

ไซมอนหันไปบอกเพื่อนร่วมอาชีพแล้วอุ้มเธอไปที่ห้องพักพนักงานด้านหลัง ก่อนจะจัดแจงให้นอนพักที่ม้ายาว เพื่อให้สร่างเมา แล้วออกมาทำงานต่อ

"เป็นไงบ้างล่ะ ผู้หญิงคนนั้นน่ะ"

ผู้จัดการเหลียงเอ่ยถาม ไซมอนได้แต่ส่ายหน้า

"ดื่มไม่ไหวยังฝืนดื่มไป่เยอะแยะ เกิดโดนลากไปจะทำยังไง โง่เง่าจริงๆ"

"นายนี่ปากคอเราะร้ายแบบนี้ เสียดายหน้าตานะ มิน่าไม่มีแฟนกับเขาสักที"

โดนแซวแบบนี้ไซมอนได้แต่ยิ้มแห้งๆ

เกือบตีสองแล้ว  ผู้จัดการเหลียงสะกิดให้ไซมอนออกกะไปได้แล้ว เขาขอตัวกลับเข้าไปดูหญิงสาวเสียหน่อย ดูท่าคืนนี้คงต้องส่งเธอกลับบ้านเองซะแล้ว

"นี่คุณ คุณ!"

เรียกเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอเอาแต่บ่นอะไรสักอย่างจับใจความไม่ค่อยได้

"คุณชื่ออะไร จำได้รึเปล่า"

"ฉันเหรอ  ชื่ออะไร อ๋อวิก  วิกตอเรียเอิ้ก"

หล่อนเรอเอากลิ่นเหล้าฉุนกึกออกมา  ทำเอาไซมอนถึงกับมึนไปเหมือนกัน  เสร็จแล้วก็หลับไปอีก

"เดี๋ยวสิ ยังคุยไม่จบเลย บ้านอยู่ไหนก็ไม่รู้ ให้ตายสิ"

ไซมอนจำต้องรับผิดชอบอย่างเสียมิได้ เขาอุ้มเธอไปขึ้นแท็กซี่กลับคอนโดตัวเองที่อยู่ไกล้ๆ เพราะไม่รู้จะเอาเธอไปไว้ไหน

แล้วมหกรรมความยุ่งยากก็มาถึง ไซมอนต้องพาเธอวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาเจียนเพราะฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไปมากมายหลายครั้ง โดยที่เขาคอยลูบหลังและจับผมเอาไว้ไม่ให้เปื้อน

ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงถึงจะสงบลงได้ ไซมอนเอาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้แล้วจัดแจงให้เธอนอนที่โซฟา

เขารู้สึกว่าเนื้อตัวเขาเองเหม็นเต็มทน ถึงจะง่วงแต่ก็ต้องไปอาบน้ำซะก่อน

"ค่อยยังชั่วเหนื่อยแทบตาย"

บาเทนเดอร์หนุ่มนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำไปพลางเช็ดผมไปพลาง  ด้วยความเคยชินว่าอยู่คนเดียว แต่แล้วก็นึกได้ว่ามีหญิงสาวขี้เมานอนอยู่ที่โซฟา เขาแวะเดินไปดูสักหน่อยเผื่อเธอจะอาเจียนอีก แต่ทว่า

"นี่มันอะไรกันเนี่ย โอ้ยจะบ้าตาย"

บนโซฟาว่างเปล่า เหลือไว้เพียงเสื้อเชิ๊ตลูกไม้โยนทิ้งเอาไว้ เขาเดินตามชิ้นส่วนเสื้อผ้า ทั้งบรา กระโปรง สุดท้ายคือกางเกงในลูกไม้หน้าห้องนอนเขา

ไซมอนมองประตูที่เปิดแง้มอยู่ด้วยใจระทึก แสงสลัวจากไฟหัวเตียงส่องสว่างลอดออกมาทางช่องที่เปิดแง้ม

ร่างเปลือยเปล่า ผิวขาวเนียนละเอียด นอนตะแคงอยู่บนที่นอนของเขา สะโพกบั้นท้ายกลมกลึง เอวคอด อวดโฉมต่อหน้าชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ จะไม่ให้หัวใจเขาเต้นตูมตามได้ยังไง

"บ้าจริง!อย่าฟุ้งซ่านสิ นายต้องใจเย็นๆ เอาล่ะ"

เขาต่อว่าตัวเอง แล้วรีบหยิบผ้าห่มนวมมาปิดร่างบางนั้นเอาไว้ ก่อนที่จะนั่งลงบนฟูกพยายามสงบใจ

แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อมีมืออุ่นๆสอดเข้ามาทางด้านหลัง ลูบไล้ไปตามกล้ามหน้าท้องแน่นๆของเขา แล้วลุกล้ำไปที่แผงอกหนาอย่างจงใจ

"อืม โอ้โหกล้ามแน่นฟิตปั๋งเลย แล้วอย่างอื่นจะแน่นกว่านี้มั้ย"

เสียงหญิงสาวกระซิบจากทางด้านหลังข้างใบหู กับลมหายใจผ่าวร้อนที่รดต้นคอทำเอาใจชายหนุ่มกระเจิง

มือนั้นยังซุกซนไม่พอ หล่อนเลื่อนมือลงไปจากกลางอกตรงไปที่หน้าท้อง ไซมอนรีบจับมือซนนั้นเอาไว้ก่อนที่จะถึงผ้าขนหนูที่เขานุ่งอยู่ แล้วหันกลับไปกดข้อมือสองข้างของหญิงสาวลงบนที่นอน

ใบหน้าทั้งสองอยู่ในระยะประชิด ไซมอนคร่อมร่างบางนั้นไว้ เขาหอบหายใจ กลืนน้ำลายเอือกหนึ่ง มองใบหน้ายิ้มพริ้มเพรา ที่กำลังเป็นสีอมชมพูอยู่ตอนนี้

ในขณะที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่วิกตอเรียกลับยิ้มออกมาอย่างไร้กังวลใดใด

"ทำสิ อยากไม่ใช่เหรอ เอาเลยสิ อยากทำอะไรก็เอาเลย"

หล่อนท้าทายอย่างจงใจอีกครั้ง

"ไม่คุณเมาแล้ว คุณไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ อย่าทำแบบนี้"

เขาลุกขึ้นจากเตียงแล้วเอาผ้าห่มโยนใส่ร่างบางนั้นอีกครั้ง ก่อนจะกลับหลังหันจะเดินออกจากห้อง ทว่าก็หยุดเท้าไว้เพราะเสียงสะอื้น

เขาหันกลับไปที่หญิงสาว เธอลุกขึ้นนั่งเอาผ้าห่มคลุมร่างเอาไว้ สองมือกระชับผ้าแนบกับอกเอาไว้แน่น

"เขาทิ้งฉัน  ทิ้งฉันแล้ว เขาทรยศความไว้ใจของฉัน ความรักที่ฉันมีให้ เขาไม่ต้องการมันอีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องการก็แค่ชื่อเสียงเงินทอง ผู้หญิงอย่างฉันมันไร้ค่า แม้แต่แค่บาเทนเดอร์อย่างนายยังไม่อยากได้เลย แล้วเขาจะต้องการฉันไปทำไม"

ไซมอนย่อตัวลงนั่งยองตรงหน้าเตียงเขาใช้นิ้วเชยคางหญิงสาวที่ใจสลายให้เงยหน้าขึ้น

"จะให้ผมทำยังไงคุณถึงจะดีขึ้น"

"ช่วยฉันที ฉันอยากจะลืมเขา นายช่วยฉันได้มั้ย ได้โปรด"

ไซมอนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา 

"จะไม่เสียใจทีหลังใช่มั้ย"

"ใช่"

สิ้นคำตอบนั้น ไซมอนก้มลงประกบริมฝีปากอย่างดูดดื่ม เขาขยี้ริมฝีปากลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอ่อนนุ่มนั้นพร้อมกับส่งลิ้นหนาดันลอดแนวฟัน เข้าไปเล่นล้อกับลิ้นอุ่นๆภายในปากของเธอเพื่อรับรสหวาน

สองมือของเขาจับที่ข้อมือของหญิงสาวที่กระชับผ้าห่มเอาไว้แน่นให้กางออก ปล่อยผ้าที่บดบัง สรีระ อวดโฉมปทุมคู่งาม ขาวอมชมพูเนียนละเอียดเต่งตึง แล้วใช้มือซ้ายประคองศรีษะและต้นคอของหญิงสาวให้ค่อยๆเอนตัวลงนอน โดยยังไม่ถอนจูบ

เสียงดูดริมฝีปาก ขบเม้นดังจุ๊บจั๊บ  เขาไม่ยอมผ่อนจนเธอแทบหายใจไม่ทัน แก้มที่แดงยิ่งแดงก่ำ  เขาถอนจูบเพื่อให้เธอได้พักหายใจ แล้วลูบไล้ใบหน้าเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะก้มลงไซ้ซอกคอ พรมจูบ ดูดเม้มริมฝีปากลงไปบนเส้นเลือดที่คอขาวๆ จนเป็นรอยจ้ำ

แม้รู้สึกเจ็บแต่ความเสียวซ่านก็ทำให้ใจหญิงสาวเตลิด หล่อนแอ่นอกรับการมาเยือนของลิ้นหนาที่กำลังโลมเร้ายอดปทุมสีชมพูระเรื่ออย่างออกรส ราวกับเด็กน้อยที่กำลังหิวโหย

เขาใช้มือหยาบข้างหนึ่งคลึงปทุมอันกลมกลึงที่เด้งสู้มือของเขาอย่างได้ใจ อีกมือก็เลื่อนไปตามฐานอกไล่ไปตามสีข้างลงมาที่กลางท้องน้อย

ก่อนจะแทรกสองนิ้วแหวกกลีบกุกลาบสีชมพูระเรื่อเข้าไปคลึงเม็ดสีแดงที่กำลังแข็งสู้นิ้วมือแล้วต่อด้วยเลื่อนเข้าไปรับไออุ่นภายใน หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเพราะการรุกรานที่รวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

"อ๊ะ  อา..าา อือ อื้อ ฮ้า ฮ้า อาา"

หล่อนร้องครางอย่างลืมตัว แม้จะพยายามเม้มปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นแล้ว ก็ยังไม่วายร่ำร้องเพราะรสรักอันเร่าร้อน

หยาดน้ำเฉอะแฉะเริ่มพรั่งพรูไหลชุ่มฉ่ำตามจังหวะเลื่อนเข้าออกของเรียวนิ้วยาวหยาบของเขา

เสียงมือที่กระแทกเข้าออกทางรักของเธอดังเจ๊าะแจ๊ะเพราะน้ำที่ชุ่มฉ่ำอยู่ที่มือของเขา

หญิงสาวขยับสะโพกเด้งรับเป็นจังหวะ ไซมอนรู้สึกได้ถึงแรงตอดรัดที่สองนิ้วของเขาที่ถี่กระชั้น

เขาประกบจูบที่ริมฝีปากที่กำลังครางอย่างออกรสนั้นอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆดึงสองนิ้วออกจากช่องทางรักของหญิงสาว อย่างช้าๆ แล้วถอนจูบ

สายตาของเขาจ้องเข้าไปในดวงตาที่เปื้อนน้ำตาคู่นั้น ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำ ขบเม้นริมฝีปาก สลับกับหอบหายใจ เขาถามเธออีกครั้ง

"จะไม่เสียใจแน่นะ หลังจากนี้จะถอยกลับไม่ได้แล้ว"

"อื้ม "

หญิงสาวพยักหน้ารับ  ไซมอนลุกขึ้นดึงผ้าขนหนูที่พันกายออกแล้วขยับเข้าตรงกลางหว่างขาที่หล่อนแยกออกเพื่อรับร่างกำยำของเขาเข้ามา

ชายหนุ่มใช้สองมือประคองเอวบางและสะโพกกลมกลึงให้ยกขึ้นในองศาที่เห็นช่องทางรักที่ชุ่มฉ่ำ ก่อนจะบรรจงค่อยๆ สอดเอ็นรักเข้าสู่ภายในอย่างอ่อนโยน จนจมมิด

"อา อ๊ะ ฮึก อูย แน่น มันแน่นไป"

แม้จะได้ยินเธอบ่น แค่เขาไม่มีใจจะฟัง  ไซมอนเริ่มขยับสะโพกของเขากระแทกกระทั้นเป็นจังหวะช้าๆ แต่หนักแน่น

น้ำชุ่มฉ่ำกำลังไหลพรั่งพรูออกมาตามแรงกระแทกกระทั้น ทำให้กิจกรรมรักลื่นไหล แรงตอดรัดเป็นระยะทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านไม่แพ้เธอ หญิงสาวขยำผ้าปูที่นอนแน่น  เธอกำลังถึงจุดสุดยอดอีกครั้งและอีกครั้ง

เสียงเจ๊าะแจ๊ะดังสลับเสียงครวญครางอย่างลืมตัว เขาเร่งจังหวะถี่ขึ้น ตามแรงตอดรัดภายใน

"ซื้ด อา  อา อ๊า อู๊วว โอย ซื้ด อ้าาา ช้า ช้าหน่อย"

เสียงร้องของหญิงสาวเริ่มจะดังเกินไปแล้ว แต่เวลานี้เขาก็ถลำลึกจมดิ่งในคลื่นกามารมณ์เกินกว่าจะหยุด

ไซมอนตัดสินใจรวบตัวหญิงสาวยกตัวขึ้นนั่งลงบนตักโดยยังไม่ได้ถอนเอ็นรักของเขาแล้วประกบจูบอย่างดูดดื่ม เพื่อหยุดเสียงคราง พร้อมกับขยับตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะกระแทกลงมาที่ตักอย่างช้าๆก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะอีกครั้ง

"อื้อ อือ อือ"

หล่อนอยากจะร้องแต่ลิ้นหนาของเขาก็ยังไม่หยุดซุกซนในปากของเธอ เขายังคงขยี้จูบอยู่อย่างงั้นพร้อมๆ กับกระแทกเอ็นรักถี่กระชั้น

จนกระทั่งในที่สุด หลังจากถึงจุดสุดยอดหลายต่อหลายครั้งร่างบางนั้นเกร็งตัวด้วยความสุขสมจนปริ่มเปรม หญิงสาวจิกเล็บลงบนแผ่นหลังขาวๆของเขาอย่างลืมตัว

น้ำมธุรสพรั่งพรูจนเปียกชุ่ม เอ็นรักกระตุกอยู่ภายในช่องทางรักสองสามครั้ง ก่อนจะปล่อยให้น้ำอุ่นๆเข้าไปภายในอย่างสุดกลั้น

ทั้งสองมัวเมาในรสรักอีกหลายครั้งจนถึงรุ่งสางวันใหม่ หญิงสาวนอนหลับอยู่ภายในอกแกร่งของชายหนุ่มสิ้นเรี่ยวแรงและหลับไปในที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel