บท
ตั้งค่า

ผมได้ยินนะ

"ไงมึงรอกูนานไหม" เห็นรินจังทำหน้ามุ่ยยืนรอ ผมเผลอขำเพราะหน้ามันแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แดด สภาพน่าสงสารมากจนผมชักห่วง

"สักพักแล้วล่ะ"

"แล้วทำไมมึงไม่ไปรอร่มๆ ไม่เห็นไงแดดมันร้อน มึงยิ่งไม่สบายอยู่”

“กูกลัวมึงมารับแล้วไม่เจอ"

"สอบได้ไหม"

"ก็ได้ทำน่ะแหล่ะ ออกอะไรก็ไม่รู้ไม่ตรงที่อ่านมาสักนิด"

"หึ! มึงอ่อนเองมากกว่า"

"คงใช่มั้ง กูมันไม่ได้เรื่องสักอย่างอยู่แล้วนิ"

"ไม่จริงหรอก บางเรื่องมึงก็โคตรเด็ดเลยนะ"

"ทั้งที่เราเป็นพี่น้องกัน ทำไมกูไม่เก่งเหมือนมึงบ้างวะ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง"

"คนเราเหมือนกันมากๆ มันก็น่าเบื่อ แตกต่างอะดีแล้ว"

"ต่างอย่างอื่นได้ไหมล่ะ ไม่เอาแบบนี้ดิ"

"พอๆ เอางี้เดี๋ยวพาแวะร้านเค้กเจ้าอร่อยแล้วกัน จะได้อารมณ์ดีขึ้น"

"อืม”

ร้านเค้กเจ้าประจำที่พวกผมชอบมากินกัน เป็นร้านเล็กๆ อยู่ในซอยลึกผู้คนไม่พลุกพล่าน บรรยากาศโฮสเตย์ทำไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่ที่จบจากคณะผม ผมเลยเป็นขาประจำร้านนี้ ที่ร้านทำโฮมเมคเกี่ยวกับขนมด้วย รินจังจะเพลิดเพลินเป็นพิเศษขนมเค้กแปลกๆ วางเรียงรายยั่วน้ำลายน่าลิ้มลอง

ผมยืนอยู่นานกว่ารินจังจะตัดสินใจเลือกได้โลกของรินจังเวลาอยู่กับขนมสีหวาน มองเพลินจนผมไม่อาจละสายตาได้แสงสีนวลที่ใช้ขับหน้าตาขนมให้น่ากินยิ่งขึ้น ขับผิวขาวละเอียดให้ยิ่งงดงามดวงตากลมใสโดยไม่ต้องใสคอนแทคเลนส์ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนยามที่เม้มปากช่างใจมันยิ่งกระตุกให้ใจผมเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

"กว่าจะเลือกได้นะมึง"

"ก็มันน่ากินทุกอย่าง"

"กูเหมาให้หมดเลยไหม จะได้ไว้กินที่บ้านด้วย"

"จริงหรอ ได้หรอ มึงจะไม่ว่ากูตะกละใช่ไหม"

"ถ้ามึงไม่เกรงใจว่าลูกค้าคนอื่นเค้าจะไม่มีกินอะนะ กูก็ซื้อให้ได้"

"ก็มันน่ากินทุกอย่าง"

"ไม่อะ กูเห็นน่ากินอยู่อย่างเดียว"

"ชิ้นไหนวะ กูไม่สั่งเพิ่มให้ไหม"

"มึงไง" #สายตาผมจริงจัง

รอยยิ้มจางบนใบหน้า เคลือบยิ้มยั่วจนผมอยากจะกลับบ้านในตอนนี้เลยเพลงที่เปิดคลอเบาๆ กระตุ้นให้ผมละสายตาไปมองเสพบรรยากาศที่แสนจะสบายไฟสีนวลกับเฟอร์นิเจอร์งานไม้เป็นอะไรที่เข้ากันมาก

‘กริ๊งงง กริ๊ง กริ๊งงง’ โทรศัพท์เข้ามาขัดจังหวะ เสียงที่กรอกโต้ตอบกลับมาทำให้ผมนิ่วหน้านึกอยู่นาน

"ครับ"

“.....”

"ใครนะครับ"

“....”

"อืมม"

“....”

"อ๋อแนนนี่ จำได้สิครับ"

“....”

"เรื่องที่นัดกันน่ะเหรอ ผมขอคิดแป๊บนะถ้าไม่ติดอะไรก็โอเคครับ"

เหลือบมองคนตรงหน้ากับท่าทีที่แสร้งทำเป็นไม่อยากรู้ เริ่มไม่สบายใจสายตาผมจ้องลึกลงไปที่ตาสีน้าตาลอ่อนกลมใสที่กำลังก้มหน้าหลบตาราวกับจะอ่านใจคนตรงหน้าว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งๆ ที่ผมคนธรรมดาไม่ได้มีคาถาอ่านใจอะไรแต่ผมได้ยินเสียงที่พรั่งพรูมาตลอด

// "หึ แนนนี่ผู้หญิงสินะ"

// "รินซัง รูปหล่อ รวย เก่ง สาวๆ ก็ต้องกรี๊ดเป็นธรรมดา"

// “ใครจะเหมือนเรา ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง"

// "แม้แต่เรื่องของหัวใจ รักไม่ก็ไม่มีทางสมหวังซินะ"

// "ต้องตัดใจซินะ"

// "ทำไมไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงนะ เฮ้อ!!"

ผมก้มหน้าแล้วตั้งใจฟังทุกอย่างที่ไหลเข้ามาในโสตประสาทของผมเสียงที่ตัดพ้อทำให้ผมเงยหน้ามองทันเห็นแววตาที่เศร้าหมอง

นี่ผมตั้งใจพารินจังมาให้คลายความเครียดแต่ทำไมถึงเครียดมากกว่าเดิมนะ ผมขอตัวแยกออกไปคุยกับรุ่นพี่เจ้าของร้าน ก่อนจะคว้ากีตาร์โปร่งตัวประจำไปนั่งกลางเวทีเสียงผมเช็คไมค์ปลุกรินจังจากภวังค์ทันทีสายตาที่มองมาที่ผมเหมือนสงสัยว่าผมไปทำอะไรตรงนั้น

"วันนี้อารมณ์ดีครับเลยอยากแชร์ความรู้สึกดีๆ ให้ทุกคนที่กำลังมีคำถามมากมายในหัว แต่ยังไม่มีคำตอบผมอยากให้รู้ว่ายังมีอีกคนที่อยู่ตรงนี้" ผมเกากีตาร์คอร์ดเพลงหวานคุ้นหู สายตาที่รินจังมองมาที่ผมตอนนี้เปล่งประกายวิบวับ ไม่รู้ว่าเค้าเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดไหม

ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสกปราสาทงามให้เธอ

ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีราชรถเลิศเลอ

แต่ฉันมีใจพิเศษ จะพาเธอผ่านคืนนี้ไป

ฉันเป็นเพียงผู้ชาย คนนี้ที่มีใจมั่นรักเธอ

...อ้างอิง http://sz4m.com/t4815 (CR.เพลง เพียงชายคนนี้)

"ไม่มีฤทธิ์เดช มีเพียงใจที่ใฝ่เฝ้ารักเธอ" ทันทีที่เพลงท่อนสุดท้ายจบลงเสียงแหบเสน่ห์ลูกคอแปดชั้น เรียกเสียงตบมือจากคนทั้งร้านได้ทันที สายตาที่มองจ้องผมอยู่ตลอดปลาบปลื้มยินดี รอยยิ้มเบิกบานจนทำให้ผมใจเต้นแรงผมเดินลงจากเวทีมาที่โต๊ะ สายตาหลายๆ คู่ยังมองมาที่ผมตลอด บรรยากาศระหว่างผมกับรินจังเงียบลง มีเพียงรอยยิ้มที่ส่งตอบกลับไปมาลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ เค้าคงรู้ดีว่าผมร้องให้กับรินจังเพราะผมพามันมาแค่คนเดียว

"พี่คะ พี่ร้องเพลงเพราะมาเลยค่ะ" เด็กสาวที่แนะนำตัวเองว่าชื่อซีตรงเข้ามาทักผม สายตาเธอชื่นชมมาก ยิ้มกว้างจริงใจจนผมต้องยิ้มตอบ

"ครับ"

"ซีอัดคลิปไว้ตั้งแต่ต้นจนจบเลยคะ ขออนุญาตเอาลงยูทูปได้ไหมคะ"

"พี่ว่าอย่าดีกว่านะครับ เดี๋ยวคนเค้าจะอันฟอล์กันหมดนะ"

"ไม่หรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ"

// "หึ สาวรุมอีกแล้วนะ หมั่นไส้!!"

ผมไม่ใช่ผู้วิเศษจริงๆ นะครับแต่เสียงนี้ไหลเข้ามาในหูผมเองและผมก็รู้ด้วยว่ามันเป็นคำพูดของใครนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!! เสียงแห่งความคิดของรินจังผมได้ยินของรินจังคนเดียว เพราะอะไรทำไมกัน? ผมลากรินจังกลับบ้านในเวลาต่อมา เพราะผมต้องรีบเข้านอนก่อนสี่ทุ่มเพื่อระบบประสาทที่ดี ไอคิวที่ดีในรถระหว่างทางผมก็ยังฮัมเพลงเพียงชายคนนี้ตลอดทาง รอยยิ้มสดใสของคนข้างกายทำให้เค้ามีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วย

TALK: ดารินทร์

ผมไม่ได้ฝันไปนะครับ เสียงความคิดของรินจังผมได้ยินมันจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยได้ยินมันแต่เหมือนว่าผมอ่านใจเค้าออกตลอดแต่ทุกอย่างเราก็ต้องคาดเดาไปตามอารมณ์ของรินจังแต่วันนี้ไม่ใช่หรือนี่จะเป็นเรื่องดีๆ ที่สวรรค์ให้โชคสองชั้นกับผม

โชคครั้งที่ 1 ผมกับรินจังเป็นของกันและกันในวันนี้

โชคครั้งที่ 2 ได้ยินเสียงความคิดของรินจังในวันนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel