บท
ตั้งค่า

CHAPTER 1

กันต์ ตะวัน อัครกิจ: TALK

ตึ่งตึ้ง-ตึ่งตึ้ง-ตึ่งตึ้ง

ตึ่งตึ้ง-ตึ่งตึ้ง-ตึ่งตึ้ง

เสียงลูกตุ้มนาฬิกาใหญ่ดังลั่นบ้านใหญ่ที่เงียบงันปราศจากเสียงรบกวนใดๆ ทั้งสิ้นเหมือนทุกอย่างกำลังหยุดเคลื่อนที่ไปทั้งหมดแม้แต่เวลาแต่มันก็เป็นแค่การจินตนาการความมโนด้านเลิศของตัวผมเท่านั้นเพราะความจริงแล้วมันก็เป็นแค่สถานที่หนึ่งบนโลกที่มีผู้คนอยู่

พอสายลมพัดใบไม้แห้งปลิวลากไปกับพื้นคอนกรีตราวกับเสียงกวาดพื้นทั้งที่ไม่มีใครทั้งสิ้นในที่แห่งนี้ยกเว้นแค่ตัวผมและกระเป๋าลากอีกหนึ่งใบเท่านั้นเอง

มันก็เป็นแค่สถานที่แห่งหนึ่งที่ในสายตาคนอื่นมันคือบ้านหลังใหญ่ บ้านของผู้มีอันจะกิน บ้านของคนร่ำรวยมหาศาลและก็เป็นบ้านของโฮโซแต่น้อยนักมากที่จะกล้าเข้ามาไม่จำเป็นไม่มีใครกล้าเข้ามาเหยียบหรือย่างกายเข้ามาแม้สักคนเดียวถึงแม้จะน่าเข้ามาเยือนแค่ไหนก็ตาม

มันไม่ใช่สถานที่แห่งความสุข

มันไม่ใช่สถานที่เข้ามาแล้วจะทำให้ยิ้ม

มันไม่ใช่สถานที่แห่งความต้องการของใคร

แม้กระทั่งคนที่ยืนอยู่ในขณะนี้นั่นก็คือตัวผมเอง ‘ตะวัน อัครกิจ’ ชื่อนี้คือชื่อของผม ชื่อที่มีความหมายเพียงแค่คนตั้งชื่อชอบดอกทานตะวันแต่กับตัดสองพยางค์หน้าออกไป

ถ้าเปรียบผมเหมือนดอกทานตะวันหลายคนคงรับรู้ดีว่าความจริงแล้วนั้นดอกทานตะวันมันโคตรหน้าสงสารมากที่สุดเลยว่าไหม

ตามเทพนิยายของกรีกที่ผมได้รับรู้มีนางไม้คนหนึ่งหลงรักเทพอพอลโลซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์เธอได้แต่เฝ้ามองเทพอพอลโลทุกวันจนผมสีทองของเธอกลายเป็นกลีบดอกสีเหลืองและสุดท้ายใบหน้าเธอกลายเป็นดอกทานตะวันไม่ว่าดวงตะวันจะฉายไปทางไหนดอกทานตะวันก็จะหันใบหน้าตามมองเสมอ เป็นความรักที่โคตรจงรักภักดีไม่เคยหันไปมองใครหน้าไหนทั้งนั้นสุดท้ายก็ไม่สมหวัง

เหมือนกับคนที่ตั้งชื่อผมเลยนะ

เหมือนมาก

ฉะนั้นผมจึงไม่อยากชื่อนี้สักเท่าไหร่นักและไม่ค่อยชอบมันเลย ทุกครั้งที่มีใครเอ่ยผมไม่อยากขานรับจึงให้ทุกคนเรียกชื่ออื่น ‘กันต์’ ชื่อนี้ที่ทุกคนควรเรียกมันไม่ใช่ชื่อนั้น

“สวัสดีครับคุณหนู”

ชายรูปร่างแก่หน่อยอายุหกสิบกว่าเดินเข้ามาทักทายอย่างนอบน้อมถ่อมตัวเป็นที่สุด เขาคือผู้ดูแลบ้านหลังนี้และเขาก็อยู่กับเมีย

“ครับ”

“มาดึกเลยนะครับ”

“ก็ไม่อยากมานักหรอกครับ” แค่เบนสายตาจ้องไปยังเรือนไม้ตรงหน้าความรู้สึกทุกอย่างต่างถาโถมสาดใส่ฟื้นความทรงจำของตัวเองทั้งนั้น “ดึกแล้วลุงไปพักผ่อนเถอะครับแค่เอากระเป๋าผมไปเก็บที่ห้องเรือนใหญ่ด้วยก็พอ”

“ครับ”

แค่นั้นก็พอแล้วแหละ ผมเข้ามาในทางด้านหลังของบ้านเพราะอยากเข้ามาที่เรือนไม้ก่อนแล้วแทบทันทีที่ผมบิดประตูที่มีฝุ่นเปื้อนเต็มไปหมดเปิดออกกลิ่นอับคละคลุ้งในบ้านก็เข้ามาเยือนเตะจมูก

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้จะผ่านไปกว่าสิบปี

ผ้าขาวกลายเป็นสีดำที่มีทั้งหยากไย่ฝุ่นเกาะเกรอะกรังเต็มไปหมดแต่ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมแม้แต่นิดเดียวนอกจากรูปในกรอบใบใหญ่บนผนังทางเชื่อมของบันไดเท่านั้น รูปผู้หญิงใบหน้ารูปไข่แสดงรอยยิ้มหวานมีความสุขออกมาจากทางดวงตาคู่นั้น

คนนี้คือคนที่ตั้งชื่อให้ผม

คนนี้คือคนที่เป็นแม่ของผมเอง

แม่คนเดียวที่ผมมีทั้งชีวิตและจะมีแค่นั้น

“คิดถึงกันต์มั้ย”

ผมพูดผ่านอากาศออกไปแม้จะไม่เสียงดังมากแต่ก็พอทำให้อีกคนได้ยินอยู่แล้ว ทุกคนที่ก้าวผ่านเหตุการณ์แบบนี้อย่างผมคงทำแบบนี้ทำแบบที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้คือการพูดกับสายลมกับอากาศเพื่อหวังให้อีกคนที่จากไปแล้วให้ได้ยิน

“มาแล้วนะ”

เกือบสิบกว่าปีแล้วที่ไม่ได้เจอกันเลยถึงแม้ผมจะไปๆ มาๆ ระหว่างไทยกับแคนนาดาจนแทบเบื่อแล้วก็ตาม

“เห็นแล้วใช่มั้ย”

แป๊บเดียวสายลมก็พัดผ่านกิ่งไม้ฟาดประตูหน้าต่างเสียงดังมากแค่นี้ก็พอทำให้ผมยกยิ้มตรงมุมปากขึ้นมาแล้วแหละ การลากสายตามองทุกอย่างแบบผ่านหูผ่านสายตาอย่างไม่คิดจะใส่ใจอะไรเลยจนกระทั่งราวบันใดทางซ้ายมือ ซ้ายสุดที่ผมจ้องมองอยู่ในขนาดนี้

แม่ง...

ให้ตายสิภาพนั้นยังไม่หายไปเลย

ภาพที่ไม่เคยลบเลือนถึงแม้จะเกิดขึ้นหลายปี

ภาพที่มีผู้หญิงคนหนึ่งหย่อนกายลงมาโดยมีเชือกแขวนตรงลำคอ

ท่านคือแม่ของผมเอง แบบนี้เหรอที่เป็นผลพวงของความรัก แบบนี้ใช่ไหมคือผลของการตอบแทนรักที่จงรักภักดีกับคนๆ เดียว แบบนี้ผมถึงไม่ค่อยเชื่อมันเท่าไหร่ มันไม่มีอยู่จริง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel