บทที่ 3 อาการมันฟ้อง
“อ้าวคุณ…”
วิเวียนเอ่ยทัก เมื่อเห็นชายคนเมื่อวานผู้ซึ่งเป็นลูกค้า เธอจำได้แต่ไม่รู้จะเรียกเขาต่อเช่นไร ในเมื่อไม่ได้ถามชื่อเขาไว้ แล้วตัวเขาเองก็ไม่ได้บอก
เซบาสเตียนครี่ยิ้มบางก่อนจะกล่าวแนะนำชื่อตนให้หญิงสาวได้รับรู้
“เซบาสเตียนครับ เรียกบาสเฉยๆ ดีกว่าครับ”
วิเวียนได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้ารับรู้เบาๆ ก่อนจะปริปากเอ่ยถาม
“มาซื้อดอกไม้หรอคะ”
" ใช่ครับ ผมชอบมากเลยล่ะ โดยเฉพาะ… "
สายตาคมมองใบหน้านวลสักพักกับคำพูดที่เงียบไป ทำให้คนรอฟังประโยคท้ายต้องเอ่ยถามออกมาพร้อมแสดงสีหน้างุนงง
"คะ "
"ผมหมายถึงบรรยากาศร้านน่ะครับ ชอบเป็นพิเศษเลยล่ะ "
" ขอบคุณที่ชอบนะคะ"
วิเวียนยิ้มหวานดีใจกับคำชื่นชมของเขาที่เปรียบเสมือนลูกค้าท่านหนึ่ง ทว่าเธอหารู้ไม่ ในใจชายตรงหน้านั้นกลับตรงกันข้ามกับคำพูด หากเขาเอ่ยออกมาว่าสิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือเจ้าของร้านก็คงจะดูรีบร้อนเกินไป
“คุณบาสเชิญตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยววิเรียกลูกน้องมาตามดูแล”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมชอบให้คุณช่วยเลือกมากกว่า”
เซบาสเตียนรีบกล่าวห้าม เมื่อสิ่งที่เขาจงใจมาหาคือเธอ แต่กลับจะให้ลูกน้องมาคอยตามแทนที่จะเป็นตัวเธอเอง มีเหรอเขาจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น
“งั้น….”
วิเวียนแสดงทีท่าลังเลออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะหนักใจกับอะไรบางอย่าง แต่ชายตรงหน้าก็ยังจะดื้อรั้น
“ถ้าคุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
วิเวียนพยักหน้ารับรู้พร้อมยิ้มบาง บทสนทนาเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเสียงปริศนาดังก้อนขึ้นมาแทรก
“บอสครับ อีกครึ่งชั่วโมง__”
รอย ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาเพื่อที่จะตามเจ้านายไปทำงาน ปริปากเรียกผู้เป็นนายเสียงดังจนสองคนที่ยืนคุยกันหันมอง ทว่าบทคำพูดยังไม่ทันจะสิ้นสุดก็ต้องปิดปากกลืนคำที่เตรียมจะกล่าวกลับลงคอ เมื่อถูกเจ้านายสั่งให้หยุดผ่านสายตาอาฆาตที่มองเข้ามาทันที แต่สายตาเจ้ากรรมกลับเผลอจับจ้องไปยันหญิงสาวผู้ยืนอยู่เคียงข้างเซบาสเตียน ทันไดที่ได้ชมเชยความงดงามของวิเวียน รอยถึงกับตาค้าง ยากที่จะเก็บอาการความเขินอายที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ทำเอาเจ้านายที่มองมาแทบจะฉีกเนื้อตนกินผ่านสายตา หากไม่ใช่ลูกน้องที่รู้จักกันมานับสิบปีคงได้ชักปืนยิงเบ้าตามันเข้าให้
"แฮ่ม! "
เซบาสเตียนแกล้งกระแอมเสียงดัง เรียกสติลูกน้องที่กำลังเผลอมองผู้หญิงที่เขาจอง ก่อนที่มันจะถูกลูกปืนเขากินหัวเข้าจริงๆ
“มึงจะไปไหนก็ไป”
เซบาสเตียนทำปากสั่งลูกน้องทันทีที่มันหันมองเขา โดยไม่ให้มีเสียงลอดออกมาสักนิดเดียว เมื่อเขาจะต้องเก็บลุคคุณชายผู้อ่อนโยนต่อหน้าวิเวียน
"ครับๆ เอ่อ… ผมจะบอกว่าวันนี้บอสว่างทั้งวันเลยครับ ไม่มีตารางงานอะไรเลย ผมจะมาบอกแค่นี้แหละครับ ขอตัวนะครับ แฮะๆ”
รอยรีบกล่าวอธิบายอย่างรีบรนเป็นชุด ก่อนจะขำแห้งแก้สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยรังสีความไม่พอใจจากเจ้านาย เสร็จสิ้นคำพูดจึงรีบหันหลังวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต ทำเอาหญิงสาวผู้ได้แต่ยืนมองเงียบๆ นึกงงขึ้นมา
“ขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะครับ มันไม่ค่อยเต็ม”
เซบาสเตียนหันมาอธิบายให้เจ้าของหัวใจฟัง ช่วยได้ที่ไหนล่ะ มันอยากมาแทรกกลางเขาเอง โดนใส่ร้ายว่าไม่เต็มนิดๆ หน่อยๆ เพื่อแก้สถานการณ์ไม่ให้เทพธิดาของเขาข้องใจคงดีกว่าโดนเขาหักเงินเดือนเป็นหลายๆ เท่า
"ร..หรอคะ "
วิเวียนหันกลับมามองคนพูดพร้อมกล่าวถามพรางยิ้มแหยๆ จากที่มองตามหลังชายคนเมื่อกี้ที่วิ่งออกจากร้านไป
“คุณวิเวียนตามสบายเลยนะครับ เดี๋ยวผมนั่งรอแถวๆ นี้ก็ได้”
เซบาสเตียนเสนอ เพื่อไม่เป็นการทำให้วิเวียนอึดอัด
“เรียกวิเฉยๆ ก็ได้นะคะ ยังไงเดี๋ยววิให้ซาร่าเอานํ้าชามาให้นะคะ ระหว่างรอ หรือว่าคุณชอบดื่มกาแฟมากกว่า… "
” ไม่เป็นไรครับ ผมชอบชา”
เซบาสเตียนรีบสวนนํ้าเสียงสุภาพ วิเวียนพยักหน้าเข้าใจกับคำตอบอีกคน ก่อนจะกล่าวตอบเสียงหวานยิ่งกว่านํ้าผึ้งสดใหม่ที่เพิ่งเอามาจากรัง รอยยิ้มน้อยๆ ที่ประกบอยู่บนใบหน้าเล็กนั่นทำคนมองหัวใจสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา
“งั้นรอสักครู่นะคะ”
“ครับ”
เซบาสเตียนยิ้มตอบด้วยหัวใจที่พองโต สายตามองตามหลังอีกคนที่เดินออกไปจนลับเข้าไปภายในร้าน วิเวียนทำให้เขานึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งบุคลิกนิสัยช่างคล้ายคลึงจนเขาแทบเดาออกว่าเธอเป็นคนยังไงและชอบผู้ชายแบบไหน หากจะเรียกว่าวิเวียนคือรักแรกพบก็คงไม่แปลก เมื่อเธอนั้นเปรียบเสมือนร่างที่สองของผู้หญิงที่เป็นดั่งชีวิตจิตใจของเขาเสมอมา เซบาสเตียนนั่งเหม่อกับเรื่องราวต่างๆ ที่แล่นเข้ามาในหัว จนเสียงจากใครบางคนดังเข้ามาในโสทประสาท พอหันมองจึงพบกับเด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่ยืนถือถาดชาไว้ในมือ
“ชาดอกไม้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
สายตามองดูแก้วนํ้าชาที่ถูกนำมาวางตรงหน้า ซึ่งสีสันมันช่างสวยงามจนไม่กล้าที่จะนำเข้าปาก กับกลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ ที่ลอยมาแตะปลายจมูกจนชวนหลงไหล หากเขาเดาไม่ผิดคงจะเป็นวิเวียนซึ่งคือคนทำ ผู้หญิงที่น่ามหัศจรรย์คนนั้น
“ชานี่พี่วิเป็นคนทำเองกับมือเลยนะคะ”
แล้วเขาก็เดาถูก เมื่อซาร่า ผู้ช่วยสาวกล่าวเช่นนั้น เซบาสเตียนไม่รอช้าที่จะยกแก้วขึ้นจิบ พอนํ้าชาแตะลิ้น รสชาติที่หวานอ่อนๆ ละมุนทำเอาเขาติดใจ กระดกหมดแก้วจนคนที่ยืนมองถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ
“คุณชอบพี่วิหรอคะ?”
ซาร่าถามความในใจออกไปตรงๆ
“แค่กๆ …”
แต่คำถามที่ตรงเกินนั่นทำเอาเซบาสเตียนที่กำลังกลืนนํ้าชาลงคอแทบสำลัก รีบวางแก้วลงไว้ที่เดิมก่อนจะเงยหน้ามองเด็กสาวตรงหน้า ก็พบว่าเธอกำลังยิ้มกรุ่มกริ่มดั่งถูกใจอะไรบางอย่าง นี่อาการเขามันฟ้องขนาดนั้นเลยเหรอ
